×

EURO 2020: Key Player & Thankless Job – นักเตะที่น่าจับตามองกับคนที่จะมาปิดทองหลังพระ

โดย THE STANDARD TEAM
11.07.2021
  • LOADING...
euro 2020

HIGHLIGHTS

  • อิตาลีขึ้นเกมทางด้านซ้ายได้อย่างโดดเด่นตลอดทัวร์นาเมนต์ โดยหัวใจในการทำเกมทางฝั่งนั้นก็เป็นนักเตะอย่าง ลอเรนโซ อินซิเญ
  • แม้จะไม่ได้มีบทบาทโดดเด่น แต่จอร์จินโญคือบุคคลผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จในการทำเกมของอิตาลี จากการที่เป็นคนคอยกำหนดจังหวะเกมและไล่ตัดเกมเมื่อจำเป็น
  • แฮร์รี เคน คือคนที่ยืนอยู่หน้าสปอตไลต์ของฝั่งอังกฤษ ความเฉียบคมของเขาทำให้อังกฤษไม่ต้องสร้างจังหวะมากมายในการจบสกอร์
  • ไคล์ วอล์กเกอร์ ต้องรับมือกับ ลอเรนโซ อินซิเญ ในเกมนี้ หากเขาทำหน้าที่ได้ดี โอกาสที่อังกฤษจะเสียประตูก็จะน้อยลงตามไปด้วย

คำคืนนี้ฟุตบอลยูโร 2020 รอบชิงชนะเลิศระหว่างอิตาลีกับอังกฤษที่ทุกคนรอคอยก็เดินทางมาถึง นอกจากจะเป็นเกมที่ตัดสินหาผู้ชนะในทัวร์นาเมนต์ที่ยาวนานถึง 1 เดือนเต็มแล้ว ยังเป็นค่ำคืนที่จะมีผู้สมหวังจากการรอคอยอันยาวนานหนึ่งทีมแน่นอน อยู่ที่ว่าจะเป็นอิตาลีที่รอคอยการเป็นแชมป์รายการนี้สมัยที่ 2 มาถึง 53 ปี หรืออังกฤษที่รอคอยแชมป์ฟุตบอลรายการเมเจอร์ระดับชาติมาถึง 55 ปี 

 

เมื่อขึ้นชื่อว่าฟุตบอล ตัวแปรที่มีผลต่อความสำเร็จมากที่สุดก็หนีไม่พ้นนักฟุตบอลอยู่แล้ว แต่ในบรรดา 11 คนของแต่ละทีม จะมีนักเตะคนสำคัญที่เป็นกุญแจสู่ชัยชนะของทีม ซึ่งเรียกว่า ‘Key Man’ หรือ ‘Key Player’ ซึ่งพวกเขาจะโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่น และเรียกแสงไฟจากสปอตไลต์พร้อมกับเสียงปรบมือจากคนดูได้ ขณะที่ตรงกันข้าม จะมีนักเตะประเภทที่ ‘ปิดทองหลังพระ’ ซึ่งทำงานหนักแถมไม่มีใครพูดถึง แต่ถ้าขาดเขาไปทีมอาจจะพังได้เลย 

 

โดยก่อนเกมจะเริ่มต้นขึ้น ก็ไปทำความรู้จักกับนักเตะทั้ง 4 คนจาก 2 ทีม โดย 2 คนในนั้นเป็นนักเตะที่น่าจับตามอง กับอีก 2 คนเป็นนักเตะที่จะปิดทองหลังพระให้กับทีมของพวกเขา

 

ลอเรนโซ อินซิเญ คือตัวแปรสำคัญของทีมชาติอิตาลี

ลอเรนโซ อินซิเญ คือตัวแปรสำคัญของทีมชาติอิตาลี

 

Key Player ของอิตาลี – ลอเรนโซ อินซิเญ

2 ประตูในทัวร์นาเมนต์นี้ของ ลอเรนโซ อินซิเญ อาจจะไม่ได้บ่งบอกถึงศักยภาพที่แท้จริงของตัวเขามากเท่ากับบทบาทภายในเกมที่ไล่ป่วนแนวรับทีมคู่แข่งได้เกือบตลอดเวลาที่เขาอยู่ในสนาม นอกจากมีความเร็วอันเป็นเลิศแล้ว ความขยันของนักเตะจากนาโปลีรายนี้ยังช่วยให้อิตาลีได้บอลคืนกลับมาเป็นฝ่ายบุกบ่อยครั้ง และนั่นทำให้เขาอันตรายเสมอเมื่ออยู่ในสนาม

 

บทบาทของอินซิเญไม่ได้มีแค่นั้น เพราะทุกคนได้เห็น ‘ท่าไม้ตาย’ ของชายเจ้าของส่วนสูงเพียง 163 เซนติเมตรรายนี้ไปแล้วในเกมที่อิตาลีเอาชนะเบลเยียม จากการพยายามตัดเข้าในแล้วปั่นด้วยขวาเข้าไปอย่างสวยงาม ทำให้หลายครั้ง ฟูลแบ็กที่ทำหน้าที่ประกบเขาต้องมายืนปิดมุมด้านใน ส่งผลให้ เลโอนาร์โด สปินาซโซลา แบ็กซ้ายของอิตาลีเติมเกมได้อย่างถนัด แม้เขาจะเจ็บไปในช่วงท้ายเกมกับเบลเยียม แต่บทบาทของอินซิเญก็ยังน่าจะทำให้ เอเมอร์สัน พัลเมรี ที่ได้ลงมาแทนเล่นง่ายไม่ต่างจากเดิม

 

แม้จะตัวเล็กที่สุดในสนามด้วยความสูงเพียง 163 เซนติเมตร แต่ความเร็วของอินซิเญเป็นประโยชน์อย่างมากในเกมโต้กลับ แม้ในฟุตบอลยูโรคราวนี้ความเร็วของเขาอาจจะยังไม่ได้แผลงฤทธิ์สักเท่าไร แต่การมีเขาในสนามนั้นก็ทำให้คู่แข่งย่ามใจไม่ได้ และไม่สามารถเติมเกมรุกได้อย่างเต็มที่ ซึ่งถ้าหากเกมนี้เขาเรียกฟอร์มเก่งออกมาได้ อิตาลีก็มีโอกาสสูงทีเดียวที่จะเล่นงานทีมชาติอังกฤษได้อย่างอยู่หมัด 

 

แฮร์รี เคน มีลุ้นดาวซัลโวประจำทัวร์นาเมนต์ถ้ายิงประตูอิตาลีได้

 

Key Player ของอังกฤษ – แฮร์รี เคน

แฮร์รี เคน ทำไปแล้ว 4 ประตู ซึ่งมีนักเตะเพียง 2 คนเท่านั้นที่ยิงมากกว่าเขา นั่นก็คือ คริสเตียโน โรนัลโด และ พาทริก ชิก 2 คนเท่านั้น โดยทั้งคู่ยิงไป 5 ประตูเท่ากัน นั่นหมายความว่า เคนมีโอกาสจะก้าวขึ้นไปเป็นดาวซัลโวร่วมหากเขายิงอิตาลีได้ 1 ประตูในเกมรอบชิงชนะเลิศ หรือจะกลายเป็นดาวซัลโวแต่เพียงผู้เดียว ถ้าหากเขายิงได้ตั้งแต่ 2 ประตูขึ้นไปในเกมที่มีเดิมพันเป็นตำแหน่งแชมป์

 

เคนโชว์ฟอร์มน่าผิดหวังในรอบแบ่งกลุ่ม หลังจากที่ 3 เกมเขาได้ง้างยิงประตูในกรอบเขตโทษแค่ครั้งเดียวเท่านั้น แต่ฟอร์มของเขาก็น่ากลัวขึ้นเรื่อยๆ ในรอบน็อกเอาต์ นับตั้งแต่เกมเยอรมนี เกมถล่มยูเครน และเกมเฉือนเอาชนะเดนมาร์ก โดยทั้ง 3 นัดดังกล่าวกองหน้าจากท็อตแนมยิงรวมกันได้ถึง 4 ประตู ทำให้เขากลายเป็นนักเตะคนสำคัญที่สุดคนหนึ่งของทีมชาติอังกฤษในตอนนี้

 

โจทย์ของเคนในรอบชิงชนะเลิศอาจจะยากสักหน่อยในการต้องเอาชนะ 2 คู่กองหลังที่ดีที่สุดคู่หนึ่งในยุคสมัยนี้อย่าง จอร์โจ คิเอลลินี กับ เลโอนาร์โด โบนุชชี แต่นั่นก็ย่อมเป็นสิ่งที่ท้าทาย และเป็นสิ่งที่ดาวเตะคนสำคัญของทีมควรจะทำให้ได้ เพราะนอกจากจะหมายถึงการทำประตูเพื่อขึ้นไปทาบตำแหน่งดาวซัลโวในทัวร์นาเมนต์นี้แล้ว มันยังหมายถึงการได้ชูถ้วยแชมป์ในบั้นปลายด้วย

 

จอร์จินโญพาเชลซีคว้าแชมป์สโมสรยุโรปไปแล้ว และอาจจะพาอิตาลีคว้าแชมป์ยุโรปก็ได้เช่นกัน

จอร์จินโญพาเชลซีคว้าแชมป์สโมสรยุโรปไปแล้ว และอาจจะพาอิตาลีคว้าแชมป์ยุโรปก็ได้เช่นกัน

 

Thankless Job Player ของอิตาลี – จอร์จินโญ

ตำแหน่งของจอร์จินโญในทีมชาติอิตาลี เขาต้องรับบทหนักกว่าที่สโมสรเชลซี เพราะที่นั่นนักเตะเชื้อสายบราซิลมีหน้าที่แค่คุมจังหวะเกมเป็นหลัก โดยปล่อยให้ เอ็นโกโล ก็องเต คอยไล่บอลและเล่นเกมรับแทน แต่ในทัวร์นาเมนต์นี้เขาต้องทำทั้ง 2 อย่าง แต่กระนั้นบทบาทของเขากลับไม่เป็นที่พูดถึงมากนัก เนื่องจากผลลัพธ์ที่ออกมาเขาทำมันได้ค่อนข้างดี ทำให้ไม่ถูกโจมตีจากสื่อหรือแฟนบอล

 

อันที่จริงแล้วตำแหน่งของจอร์จินโญค่อนข้างน่าสงสาร เพราะมันเป็นตำแหน่งที่ทำดีเสมอตัว แต่ถ้าพลาดเมื่อไรเป็นเรื่องใหญ่แน่ แบบที่เขาพยายามไล่ เควิน เดอ บรอยน์ แล้วไม่ล้ม จนเพลย์เมกเกอร์เบลเยียมพาบอลไปยิงได้สำเร็จ เคราะห์ยังดีที่ไม่เป็นประตู ไม่เช่นนั้นคงมีคนพูดถึงจังหวะที่เขาพลาดช็อตนั้นมากกว่านี้ เพราะแม้จะไม่เป็นประตูผู้คนก็ยังตำหนิเขาถึงจังหวะนี้กันไม่หยุดทั้งที่ทำดีในจังหวะอื่นมาตลอดเกม

 

การมี มาร์โก แวร์รัตติ มาช่วยในเรื่องการออกบอล ทำให้งานในการคุมจังหวะเกมบุกของจอร์จินโญเบาลงก็จริง แต่เกมรับนั้นเขายังต้องทำงานหนักอยู่ แม้จะไม่มีคนพูดถึงมาก แต่การเล่นของจอร์จินโญส่งผลมากๆ ต่อทั้งอิตาลีและอังกฤษ ถ้าเขาเล่นได้ดี อิตาลีจะสามารถรุกได้อย่างมีประสิทธิภาพ และพอต้องตกเป็นฝ่ายตั้งรับก็ยังเบาใจหายห่วงได้ แต่ถ้าเขาเล่นไม่ดีทุกอย่างจะกลับตาลปัตร โดยต้องภาวนาว่า อย่าได้ยินชื่อเขาบ่อยในเกมกับอังกฤษ เพราะถ้าเขายิ่งไม่ถูกเอ่ยชื่อมากเท่าไร แสดงว่าจอร์จินโญกำลังทำงานของเขาได้ดีอย่างเงียบๆ แต่ถ้าได้ยินชื่อของเขาบ่อยๆ แล้วละก็ แสดงว่าแดนกลาง ‘อัซซูรี’ มีปัญหาแน่นอน

 

ไคล์ วอล์กเกอร์ (คนขวา) หน้าตาดุไม่แพ้ฟอร์มการเล่นในรายการนี้

ไคล์ วอล์กเกอร์ (คนขวา) หน้าตาดุไม่แพ้ฟอร์มการเล่นในรายการนี้

 

Thankless Job Player ของอังกฤษ – ไคล์ วอล์กเกอร์

 

ถ้าเทียบกับ ลุค ชอว์ ที่มีไปแล้ว 3 แอสซิสต์ ไคล์ วอล์กเกอร์ ที่ยังไม่มีเลยแม้แต่แอสซิสต์เดียวอาจจะดูหมองลงไปพอสมควร แต่เราไม่ได้พูดถึง Key Player แต่พูดถึงนักเตะที่ปิดทองหลังพระ ซึ่งวอล์กเกอร์ก็รับหน้าที่นั้นมาตลอดและทำได้อย่างยอดเยี่ยมทั้ง 5 นัดที่เขาได้ลงสนาม และการเสียประตูไปเพียงแค่ลูกเดียวของอังกฤษในทัวร์นาเมนต์นี้ วอล์กเกอร์ก็สมควรอย่างยิ่งที่จะถูกพูดถึง

 

ตลอด 5 เกมที่เขาลงสนามกับ โครเอเชีย, สาธารณรัฐเช็ก, เยอรมนี, ยูเครน และเดนมาร์ก วอล์กเกอร์ต้องรับมือกับนักเตะระดับท็อปของฝั่งตรงข้ามมาหลายต่อหลายคนไล่ตั้งแต่ อิวาน เปริซิช, ยาคุบ ยานก์โต, โรบิน โกเซนส์ รวมไปถึง โยอาคิม เมห์เล และ มิคเกล ดัมส์การ์ด ในเกมล่าสุด ทั้งที่เจอกับนักเตะที่มีชื่อชั้นขนาดนี้ กลับไม่มีใครเล่นงานเขาจนเข้าไปทำประตูได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว

 

อย่างไรก็ตามวอล์กเกอร์ยังต้องเจอกับบททดสอบสุดท้าย ซึ่งอาจจะเป็นงานที่ยากที่สุดก็ว่าได้ เมื่อต้องมารับมือกับ ‘ตัวจี๊ด’ อย่าง ลอเรนโซ อินซิเญ ซึ่งการดวลกันของทั้งคู่ จะเป็นตัวกำหนดกระแสเกมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ สำหรับผู้ที่เอาชนะอีกฝ่ายได้จะได้เป็นผู้กำหนดทิศทางของเกมในรอบชิงชนะเลิศอย่างไม่ต้องสงสัย และนั่นอาจจะนำมาซึ่งชัยชนะของทีมได้เลย

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising