‘EU’ เตรียมทุ่มหลายหมื่นล้านดอลลาร์ หนุนการผลิตชิปในภูมิภาคแก้ปัญหาซัพพลายขาดตลาด

สถานีโทรทัศน์ CNBC รายงานว่า ทางสหภาพยุโรป (EU) ออกมาประกาศแผนลงทุนมูลค่า 48,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตชิปคอมพิวเตอร์ในภูมิภาคยุโรป เพื่อหวังแก้ปัญหาการขาดแคลนชิปในตลาด รวมถึงลดการพึ่งพาชิปคอมพิวเตอร์จากเอเชีย ซึ่งเป็นตลาดส่งออกชิปคอมพิวเตอร์รายใหญ่ที่สุดในปัจจุบัน

ทั้งนี้ ทางคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรป (EC) ได้เสนอร่างกฎหมาย Chips Act เพื่อเพิ่มอิสระทางเศรษฐกิจในภาคการผลิตชิปคอมพิวเตอร์ ในช่วงเดียวกับที่หลายประเทศในยุโรปกำลังประสบปัญหาขาดแคลนพลังงานเนื่องจากความตึงเครียดกับรัสเซีย

โดยร่างกฎหมายฉบับใหม่ของ EU จะต้องผ่านการรับรองจากสภาสหภาพยุโรป และรัฐสภาของสมาชิกแต่ละประเทศเสียก่อน

เออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรป กล่าวว่า เวลานี้ชิปคอมพิวเตอร์คือหัวใจของการแข่งขันด้านเทคโนโลยีของโลก และยังเป็นรากฐานสำคัญของเศรษฐกิจยุคใหม่ด้วย ซึ่งการระบาดของโควิดได้เน้นย้ำให้ EU เห็นถึงความเปราะบางในห่วงโซ่การผลิตชิปคอมพิวเตอร์ทั่วโลก

ฟอน เดอร์ เลเยน กล่าวอีกว่า ภายใต้ร่างกฎหมาย Chips Act จะมีการลงทุน 43,000 ล้านดอลลาร์ทั้งจากภาครัฐและเอกชนในการวิจัย ออกแบบ และทดสอบชิปคอมพิวเตอร์ เป้าหมายเพื่อเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดของยุโรปจากระดับ 9% ในปัจจุบันเป็น 20% ภายในปี 2030

ทั้งนี้ ชิปคอมพิวเตอร์คือชิ้นส่วนที่ใช้ในสินค้าเทคโนโลยีเกือบทุกประเภท ตั้งแต่ โทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ไปจนถึงรถยนต์ โดยเอเชียคือแหล่งผลิตชิปรายใหญ่ที่สุดในโลก

ความเคลื่อนไหวของ EU ในครั้งนี้ มีขึ้นเพียงไม่นานหลังจากที่สหรัฐฯ ประกาศลงทุน 52,000 ล้านดอลลาร์ในภาคการผลิตชิปคอมพิวเตอร์ของสหรัฐฯ ด้วยเช่นกัน เพื่อลดปัญหาขาดแคลนชิ้นส่วนสำคัญนี้ในช่วงที่เกิดการระบาดของโควิด

ขณะเดียวกัน มีรายงานว่าการลงทุนเพื่อยกระดับการผลิตชิปในยุโรปจะส่งผลบวกต่อประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจขนาดใหญ่ของยุโรปอย่าง เยอรมนี ฝรั่งเศส และอิตาลี โดยนักวิเคราะห์มองว่า การยกระดับการลงทุนทำให้ประเทศที่มีระบบการเงินที่แข็งแกร่ง และมีทรัพยากรสาธารณะที่มากกว่าสามารถดึงดูดเม็ดเงินจากนักลงทุนได้มากกว่า คล้ายๆ กับการที่รัฐบาลท้องถิ่นในบางรัฐของสหรัฐฯ ที่มีการออกนโยบายจูงใจเอกชนให้มาตั้งโรงงานภายในรัฐ

สำหรับสถานการณ์การผลิตชิปในยุโรปขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงขาลง โดยกำลังการผลิตชิปยุโรปลดลงจาก 24% ในช่วงปี 2000 มาอยู่ที่ 8% ในปัจจุบัน ซึ่ง ASML เอกชนผู้ผลิตชิป รายใหญ่ของยุโรปออกโรงเตือนว่า กำลังการผลิตชิปของยุโรปอาจลดลงเหลือ 4% หากไม่มีการดำเนินการใดๆ

อ้างอิง:

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH