สหภาพยุโรปออกโรงปฏิเสธไม่ยอมรับการควบรวมกิจการของสองบริษัทต่อเรือยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้อย่าง Hyundai และ Daewoo โดยระบุว่า การรวมกันของสองผู้เล่นรายใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรมนี้ จะทำให้บริษัทที่ควบรวมมีอำนาจระดับโลกในการกำหนดควบคุมการลำเลียงขนส่งก๊าซธรรมชาติเหลว
มาร์เกรธ เวสทาเกอร์ (Margrethe Vestager) คณะกรรมาธิการการแข่งขันแห่งสหภาพยุโรป (EU Competition Commissioner) กล่าวว่า การควบรวมจะส่งผลให้ยุโรปมีทางเลือกที่ลดลง และว่าบริษัทใหม่หลังการควบรวมจะกำจัดคู่แข่งรายอื่นในตลาด เพราะส่วนแบ่งทางการตลาดหลังควบรวมของ Hyundai และ Daewoo จะมีสัดส่วนสูงกว่า 60%
ทั้งนี้ รายงานอธิบายว่า อุตสาหกรรมต่อเรือและขนส่งก๊าซ LNG ไม่ใช่ตลาดที่ผู้เล่นรายใหม่จะก้าวเข้าไปมีส่วนร่วมได้โดยง่าย เนื่องจากเป็นธุรกิจที่มีกระบวนการที่ซับซ้อน ที่การขนส่งก๊าซต้องขนส่งภายใต้อุณหภูมิติดลบ 162 องศาเซลเซียส ซึ่งมีบริษัทต่อเรือเพียงไม่กี่แห่งในโลกนี้เท่านั้นที่สามารถสร้างเรือที่รองรับการขนส่งก๊าซ LNG นี้ได้
ด้าน Hyundai Heavy Industries Holdings ได้แสดงความผิดหวังต่อคำตัดสินของ EU และทางบริษัทวางแผนที่จะดำเนินการตามมาตรการทุกทางเท่าที่จะทำได้ รวมถึงการยื่นหนังสืออุทธรณ์ต่อศาลสหภาพยุโรป (General Court of the European Union) ต่อไป รวมถึงใช้โอกาสนี้ปฏิเสธว่าการควบรวมกิจการจะทำให้การแข่งขันลดลง เนื่องจากตลาดในขณะนี้ ยังมีผู้เล่นที่แข็งแกร่งอีกมาก ไม่ว่าจะเป็น Samsung ของเกาหลีใต้ หรือ Mitsubishi และ Kawasaki ของญี่ปุ่น
ทั้งนี้ ภายใต้กฎของสหภาพยุโรป คณะกรรมาธิการยุโรปสามารถปฏิเสธการควบรวมกิจการหนึ่งๆ ได้แม้อยู่นอกเขตแดน EU หากว่าการควบรวมดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อตลาดใน 27 ประเทศสมาชิก EU หากบริษัทที่ควบรวมเข้ามาทำธุรกิจใน EU
เวสทาเกอร์ ย้ำว่า ประเด็นสำคัญที่สุดสำหรับ EU คือ การที่บริษัททั้งหลายสามารถแข่งขันเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในยุโรปได้อย่างเต็มที่ แต่น่าเสียดายว่า บริษัทส่วนใหญ่ในตลาดมักเลือกใช้ทางลัดด้วยการเข้าซื้อกิจการ เพราะไม่ต้องสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายในการกำหนดราคา การดูแลรักษาคุณภาพ และการเดินหน้าคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ ก่อนเสริมว่า ขณะนี้ EU ยังมีการพูดคุยอย่างใกล้ชิดกับคณะกรรมาธิการด้านความเป็นธรรมทางการค้าของเกาหลีใต้และญี่ปุ่น ที่กำลังอยู่ในระหว่างการตัดสินใจในประเด็นดังกล่าวเช่นกัน
ความเคลื่อนไหวของ EU ในคราวนี้ เกิดขึ้นในช่วงที่ 27 ชาติสมาชิกกำลังประสบปัญหาขาดแคลนก๊าซธรรมชาติอย่างรุนแรง ทำให้ราคาก๊าซพุ่งสูงขึ้น กระทบต่อค่าครองชีพของชาวยุโรปหลายล้านครอบครัวที่จำเป็นต้องใช้ก๊าซเพื่อสร้างความอบอุ่นในช่วงฤดูหนาว
อ้างอิง:
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP
