สหภาพยุโรปได้มีมติเป็นการชั่วคราวที่บังคับทุกบริษัท โดยเฉพาะ Apple Inc. ต้องใช้ที่ชาร์จ USB-C โดยมีผลิตภัณฑ์ประมาณ 15 ประเภทที่อยู่ในกฎนี้ ได้แก่ สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต กล้องดิจิทัล รวมถึงชุดหูฟัง วิดีโอเกมคอนโซล และหูฟัง
แผนดังกล่าวซึ่งเปิดเผยเมื่อปีที่แล้วคาดว่าจะช่วยให้ผู้บริโภคประหยัดเงินได้ประมาณ 250 ล้านยูโร หรือกว่า 9.2 พันล้านบาท รัฐสภายุโรปและ 27 ประเทศในสหภาพยุโรปจำเป็นต้องลงนามในข้อตกลง
ผู้ผลิตโทรศัพท์และแท็บเล็ตจะต้องปฏิบัติตามภายในฤดูใบไม้ร่วงปี 2024 ส่วนแล็ปท็อปจะมีเวลามากขึ้นในการเปลี่ยน โดยจะต้องเปลี่ยนภายใน 40 เดือนหลังกฎใหม่มีผลบังคับใช้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- นี่คือการค้าที่ไม่เหมาะสมและผิดกฎหมาย! ศาลบราซิลสั่งให้ Apple จ่ายเงิน 34,000 บาทให้แก่ชายคนหนึ่ง จากการไม่แถม ‘อะแดปเตอร์ชาร์จ’
- รักษ์โลกเป็นแค่ข้ออ้าง? ผลวิจัยชี้ Apple ทำเงินได้มากขึ้น 2.2 แสนล้านบาท หลังไม่ให้ ‘อะแดปเตอร์ชาร์จและหูฟัง’ กับ iPhone ใหม่อีกต่อไป
- สิ่งแวดล้อมไม่ใช่ข้ออ้าง! Samsung กำลังถูกฟ้องในบราซิลจากข้อหา ‘ไม่มีอะแดปเตอร์ชาร์จ’ ตามรอย Apple ที่โดนไปก่อนหน้านี้
“ผู้บริโภคชาวยุโรปจะสามารถใช้เครื่องชาร์จเครื่องเดียวสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แบบพกพาทั้งหมด ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญในการเพิ่มความสะดวกและลดขยะอิเล็กทรอนิกส์” Thierry Breton กรรมาธิการตลาดภายในกล่าวในแถลงการณ์
เดิมกฎนี้ทำให้ Apple ไม่พอใจอย่างมาก โดยกล่าวว่าจะเข้ามาขัดขวางการพัฒนานวัตกรรม แต่รายงานล่าสุดเผยว่า เจ้าพ่อผลไม้กำลังทดสอบ iPhone รุ่นใหม่ ซึ่งจะใช้ USB-C แทนพอร์ตชาร์จ Lightning ส่วนแล็ปท็อป Apple รุ่นปัจจุบันใช้ที่ชาร์จ USB-C อยู่แล้ว
ทั้งนี้คณะกรรมาธิการจะสามารถกำหนดมาตรฐานสำหรับการชาร์จแบบไร้สายได้ในอนาคต
อ้างอิง:
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP
