“ความมั่งคั่งไม่ได้เป็นเรื่องของโชคชะตา (สำหรับบางคน)
แต่ถ้าเลือกที่จะมั่งคั่งแล้ว ก็ควรจะมาพร้อมกับความมั่นคงด้วยเช่นกัน”
ขอเริ่มต้นด้วยการฝากประโยคด้านบนนี้ให้นักลงทุนทุกท่านได้ลองคิดตามกัน เพราะเรื่องนี้คงไม่ใช่เรื่องไกลเกินตัวอีกต่อไป ถ้าหากนักลงทุนลองเปิดพอร์ตตัวเองขึ้นมาดูในวันที่สถานการณ์ผันผวน ก็อาจเกิดความลังเลใจได้ว่า การลงทุนของเราจะสร้างความมั่งคั่งได้จริงหรือไม่ เพราะในสภาวะปัจจุบันที่เกิดเหตุการณ์ต่างๆ ที่สร้างความเปลี่ยนแปลงและความผันผวนด้านสังคม สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจ นั้นส่งผลกระทบต่อการลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ทั่วโลก แล้วกลยุทธ์การลงทุนแบบใดที่น่าจะเป็นคำตอบของความมั่งคั่งอย่างมั่นคง
ในระดับโลกนั้น องค์กรต่างๆ รวมถึงนักลงทุนเริ่มให้ความสนใจกับแนวทางการลงทุนอย่างยั่งยืนมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในกองทุน หุ้น หรือตราสารหนี้ โดยให้ความสำคัญในเรื่องสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า ESG ซึ่งบางท่านอาจจะคุ้นเคยกับการลงทุนแบบ ESG อยู่แล้ว แต่บางท่านก็อาจจะสงสัยว่ามันคืออะไร และดีอย่างไร เราลองมาดูกัน
การลงทุนแบบ ESG คือการลงทุนที่คำนึงถึงความยั่งยืนในระยะยาว โดยเน้นลงทุนในองค์กรหรือบริษัทที่คำนึงถึงความรับผิดชอบทั้ง 3 ด้านที่จะไม่สร้างผลกระทบต่อโลก ได้แก่
E = Environment (สิ่งแวดล้อม) คือการที่มีนโยบายและกระบวนการทำงานเพื่อจัดการสิ่งแวดล้อม และใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ
S = Social (สังคม) คือมุ่งเน้นการคำนึงถึงสิทธิมนุษยชน โดยมีนโยบายการบริหารทรัพยากรบุคคลอย่างเป็นธรรมและเท่าเทียมกัน มีการส่งเสริมและพัฒนาพนักงานอย่างต่อเนื่องและมีคุณภาพ รวมทั้งสร้างโอกาสให้ชุมชนที่บริษัทมีความเกี่ยวข้องเติบโตได้อย่างยั่งยืน
G = Governance (ธรรมาภิบาล) คือการเน้นการกำกับดูแลกิจการที่ดี โปร่งใส มีกลไกในการตรวจสอบที่ชัดเจน และมีแนวทางการบริหารความเสี่ยงที่ต่อต้านการทุจริตและคอร์รัปชันอย่างเคร่งครัด
ปัจจุบันการลงทุนแบบ ESG เป็นที่หมายตาของนักลงทุนทั่วโลก และมีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่องยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นตัวเร่งสำคัญในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการลงทุน เนื่องจากนักลงทุนจำนวนมากไม่ได้ให้ความสนใจเฉพาะผลตอบแทนเพียงอย่างเดียว แต่ยังคงให้ความสนใจกับผลกระทบเชิงบวกหรือการลดผลกระทบเชิงลบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เห็นได้จากแรงกดดันที่เกิดขึ้นกับองค์กรต่างๆ โดยถ้าองค์กรใดทำธุรกิจเพื่อมุ่งหากำไรเพียงอย่างเดียวโดยไม่คำนึงถึง ESG ก็อาจจะถูกต่อต้านหรือไม่ได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนได้ ดังนั้น ESG จะไม่ใช่เพียงแค่กระแสที่ได้รับความนิยมชั่วครั้งชั่วคราว แต่จะเป็นสิ่งที่ผู้บริหารหรือธุรกิจนั้นๆ จะต้องมีจุดประสงค์ และมีความยึดมั่นที่จะนำพาธุรกิจไปสู่ความยั่งยืนให้ได้อย่างแท้จริง
สำหรับความรับผิดชอบแต่ละด้านตามที่กล่าวมาข้างต้นนั้นมีความสำคัญและมีส่วนเกี่ยวข้องในทุกอุตสาหกรรม ซึ่งปัจจุบันมีหลายธุรกิจได้นำปัจจัยต่างๆ เหล่านี้มาวิเคราะห์ประกอบกับปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิคควบคู่กันไป เพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว นอกจากนี้ บริษัทที่มีการพัฒนาด้าน ESG มักจะสร้างผลตอบแทนเหนือกว่าบริษัทที่ยังไม่มีการพัฒนา เช่น บริษัทยักษ์ใหญ่ของโลกอย่าง Apple, Microsoft, Amazon หรือ Meta (Facebook) ที่ตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงโมเมนตัมเงินลงทุนที่อาจเข้ามาได้ในอนาคต
ในด้านการจัดสรรพอร์ตการลงทุนแบบ ESG ทาง SCB CIO แนะนำตัวอย่างการจัดพอร์ต โดยแบ่งสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำประมาณ 10% ได้แก่ สินทรัพย์ประเภทเงินสดหรือสินทรัพย์ที่ใกล้เคียงเงินสด ตราสารหนี้หรือเงินฝากระยะยาว และอีก 90% ลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงมาก ได้แก่ หุ้นไทย ESG หุ้นทั่วโลก ESG และหุ้น Thematic ESG ดังตัวอย่างการแบ่งสัดส่วนของเงินลงทุนในกองทุนต่างๆ ในตารางด้านล่างนี้
ซึ่งพอร์ตการลงทุนดังตัวอย่างด้านบนนี้มีการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงเฉลี่ยกว่า 90% ของพอร์ตการลงทุน จึงเหมาะกับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ในระดับ 5 (สูงมาก) เท่านั้น (ประเมินความเสี่ยงได้คะแนนมากกว่า 36 ขึ้นไป)
การที่นักลงทุนมีสินทรัพย์ที่ลงทุนใน ESG ติดอยู่ในพอร์ต นับว่าเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่เป็นจุดเริ่มต้นของการลงทุนเพื่อความมั่งคั่งอย่างยั่งยืน เพราะสินทรัพย์ที่ได้มาตรฐาน ESG มักมีแนวโน้มที่จะให้ผลตอบแทนที่ดีได้ในระยะยาว อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในแนวคิดการกระจายการลงทุนเพื่อช่วยลดความเสี่ยงของพอร์ตลงทุนได้ เนื่องจากสถิติในอดีตบ่งชี้ว่าบริษัทที่สามารถครองมาตรฐาน ESG ได้ต่อเนื่อง ผลการดำเนินงานของทั้งบริษัทและราคาหุ้นเองก็จะค่อนข้างมีความสม่ำเสมอกว่าบริษัทที่ไม่มีหรือไม่สามารถรักษามาตรฐาน ESG ไว้ได้ ทั้งนี้ นักลงทุนสามารถทยอยสะสมหรือลงทุนแบบ DCA (Dollar Cost Average) สำหรับตราสารหนี้และตราสารทุนที่ได้มาตรฐาน ESG สูง เพื่อลดความผันผวนได้เช่นกัน
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
- Twitter: twitter.com/standard_wealth
- Instagram: instagram.com/thestandardwealth
- Official Line คลิก https://lin.ee/xfPbXUP