‘อีลอน มัสก์’ ออกมาตั้งโพลใน Twitter ว่า ควรขายหุ้น 10% ของ Tesla ที่มีมูลค่า 6.9 แสนล้านบาทหรือไม่? และจะทำตามไม่ว่าผลจะออกมาแบบไหน

ที่ผ่านมา ‘อีลอน มัสก์’ มักจะใช้ Twitter เป็นช่องทางในการเคลื่อนไหวของเขาไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม ล่าสุดในช่วงบ่ายวันเสาร์ (6 พฤศจิกายน) ตามเวลาท้องถิ่นของสหรัฐฯ มัสก์ได้ออกมาตั้งโพลว่า เขาควรขาย 10% ของ 170.5 ล้านหุ้นที่เขาถืออยู่ใน Tesla หรือไม่

มัสก์ ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของบริษัทได้ออกมาตั้งผลสำรวจใน Twitter ซึ่งมีผู้ติดตาม 62.5 ล้านคน ว่า “ช่วงหลังๆ นี้ กำไรที่ยังไม่เกิดขึ้นเป็นวิธีการหลีกเลี่ยงภาษี ดังนั้นฉันจึงเสนอให้ขายหุ้น Tesla ของฉัน 10% คุณสนับสนุนสิ่งนี้หรือไม่”

เขาเสริมว่า “จะปฏิบัติตามผลการสำรวจความคิดเห็นนี้ไม่ว่าจะไปทางใด” รายงานจาก CNN ระบุว่า 3 ชั่วโมงหลังจากการโพสต์แบบสำรวจความคิดเห็น มีคนโหวตมากกว่าหนึ่งล้านคน โดย 54.1% โหวตใช่ และ 45.9% โหวตไม่ใช่

หุ้น Telsa จำนวน 170.5 ล้านหุ้นของเขา มีมูลค่า 2.083 แสนล้านดอลลาร์ หรือ 9.6 ล้านล้านบาท ณ การซื้อขายเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ที่ราคา 1,2209.09 ดอลลาร์ต่อหุ้น ซึ่งหุ้นของ Telsa นั้นพุ่งขึ้น 74% ในปีนี้ ทำสถิติสูงสุดเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2021 ซึ่งหากคำนวณ 10% ที่มัสก์กล่าวถึงจะมีมูลค่า 2.08 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือราว 6.9 แสนล้านบาท

Bloomberg ระบุว่า จำนวนหุ้นที่มัสก์นำออกมาสำรวจความคิดเห็นนั้นเทียบเท่ากับ 80% ของปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันสำหรับ Tesla ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา

กระนั้นจากรายงานของ CNBC ได้เผยว่า ก่อนหน้านี้มัสก์ได้กล่าวในการประชุม Code Conference ในเดือนกันยายนว่า เมื่อตัวเลือกหุ้น Tesla ของเขาหมดอายุอัตราภาษีจะเพิ่มขึ้นมากกว่า 50% และเขาวางแผนที่จะขายในไม่ช้า

เบน ซิลเวอร์แมน ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย InsiderScore กล่าวว่า Tesla มียอดค้างชำระมากกว่า 1 พันล้านหุ้น ณ สิ้นเดือนตุลาคม หากมัสก์ใช้ตัวเลือกของเขาในวันนี้ จำนวนหุ้นคงค้างจะเพิ่มขึ้นเพียง 2% ตามที่ InsiderScore คำนวณ โดยคาดการณ์ว่าผลกระทบต่อผู้ถือหุ้นจะน้อยที่สุด ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการออกมาขายไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจ

“มัสก์จะยังคงพูดต่อไปถึงสิ่งที่เขาทำ ใช้ตัวเลือกเพราะมันใกล้หมดอายุ ขายหุ้นเพราะภาษีที่มหาศาล และเพราะสภาพคล่องของหุ้น Tesla” เขากล่าว

ที่ผ่านมามหาเศรษฐีสามารถได้รับประโยชน์จากกลยุทธ์การหลีกเลี่ยงภาษี ซึ่งผู้ที่มีรายได้มาจากรายได้ค่าจ้างตามปกติมักจะไม่ได้ ความมั่งคั่งสูงสุดมักขึ้นอยู่กับมูลค่าที่เพิ่มขึ้นของหุ้นและอสังหาริมทรัพย์ซึ่งไม่ต้องเสียภาษี เว้นแต่จะขายสินทรัพย์เหล่านั้น

การสอบสวน ProPublica ในเดือนมิถุนายน พบว่า มัสก์ไม่ได้จ่ายภาษีเงินได้ของรัฐบาลกลางในปี 2018 และในปี 2017 เขาจ่ายเพียง 65,000 ดอลลาร์ ซึ่งมัสก์ตอบโต้ในภายหลังโดยกล่าวว่าการรายงานนั้น ‘ยุ่งยาก’ และ ‘ทำให้เข้าใจผิด’ เขาเสริมว่าตัวเลขนั้นต่ำมาก เพราะเขาไม่ได้รับเงินเดือน ดังนั้นค่าตอบแทนเงินสดของเขาจึงใกล้เป็นศูนย์

“หมายเหตุ ฉันไม่ได้รับเงินเดือนเงินสดหรือโบนัสจากที่ใด ฉันมีหุ้นเท่านั้น ดังนั้นวิธีเดียวสำหรับฉันที่จะจ่ายภาษีเป็นการส่วนตัวคือการขายหุ้น” เขากล่าวเมื่อวันเสาร์

ตามดัชนีมหาเศรษฐีของ Bloomberg หรือ Bloomberg Billionaires Index ปัจจุบันมัสก์เป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ด้วยมูลค่าความมั่งคั่ง 3.38 แสนล้านดอลลาร์ หรือราว 11 ล้านล้านบาท

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

ภาพ: Britta Pedersen-Pool / Getty Images

อ้างอิง:

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH