อีลอน มัสก์ ซีอีโอ SpaceX และ Tesla ซึ่งประกาศตนเป็นผู้สนับสนุน โดนัลด์ ทรัมป์ ให้คำมั่นต่อกลุ่มผู้สนับสนุนในระหว่างการช่วยทรัมป์หาเสียงว่า หากทรัมป์ชนะเลือกตั้ง เขาจะช่วยปรับปรุงการทำงานของรัฐบาลให้ดีขึ้นถ้าเขามีตำแหน่งอยู่ในนั้น อย่างไรก็ตาม ด้วยประวัติการดำเนินธุรกิจของเขากลับสร้างความสงสัยให้ผู้คนจำนวนหนึ่ง ว่าจะสามารถทำตามคำมั่นสัญญาเหล่านั้นได้หรือไม่
มัสก์และทรัมป์พูดคุยกันอย่างเปิดเผย เกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่มัสก์จะมีบทบาทในรัฐบาลหากทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง แม้ว่าจะยังไม่มีรายละเอียดที่แน่ชัด แต่มัสก์เคยเล่นมุกเกี่ยวกับการได้ตำแหน่ง ‘หัวหน้ากรมการบริหารประสิทธิภาพของรัฐบาล’ หรือ DOGE ซึ่งเป็นการเล่นคำกับมีมและสกุลเงินดิจิทัลที่มัสก์ชื่นชอบ ขณะที่ทรัมป์เสนอความเป็นไปได้ที่มัสก์อาจได้รับตำแหน่ง ‘เลขาธิการฝ่ายลดต้นทุน’ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ยังไม่มีอยู่จริงในปัจจุบัน
มัสก์เสนอแนะหลายครั้งว่า หากเขามีบทบาทในรัฐบาลเขาจะมุ่งเน้นไปที่การลดการใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น และอาจใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อช่วยในการตัดสินใจว่าจะลดงบประมาณในส่วนใด นอกจากนี้เขายังกล่าวว่าจะยกเลิกข้อบังคับต่างๆ ที่เขามองว่าเป็นอุปสรรคต่อธุรกิจ พร้อมเสนอแพ็กเกจชดเชยให้กับพนักงานรัฐบาลที่อาจถูกปลดออก แต่ในขณะเดียวกันจะนำระบบการประเมินที่เข้มงวดมาใช้เพื่อลดพนักงานที่ทำงานไม่มีประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ตาม ประวัติการดำเนินงานของมัสก์ในบริษัทต่างๆ ที่ผ่านมาแสดงให้เห็นผลลัพธ์ที่ตรงกันข้ามกับที่คาดหวัง ยกตัวอย่างเช่นที่ X (หรือ Twitter เดิม) มัสก์ปลดพนักงานไปถึง 80% ซึ่งกระทบต่อการดำเนินงานและความน่าเชื่อถือของบริษัท รวมถึงผลิตภัณฑ์หลายตัวก็เกิดปัญหาขัดข้องทางเทคนิค เช่น เกิดปัญหาระบบล่มในระหว่างการไลฟ์สตรีมหาเสียงลงสมัครประธานาธิบดีของ รอน ดีแซนทิส ผู้ว่าการรัฐฟลอริดา บนแพลตฟอร์ม Twitter เมื่อปี 2023 และเกิดปัญหาขัดข้องในระหว่างมัสก์สัมภาษณ์สดกับทรัมป์เมื่อหลายเดือนก่อน นอกจากนี้ X ยังประสบปัญหาคนโพสต์คำพูดแสดงความเกลียดชังและการแสดงข้อมูลเท็จบนแพลตฟอร์มเพิ่มขึ้น จนทำให้ผู้ลงโฆษณาหลายรายถอนตัวออกจากแพลตฟอร์ม ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการปลดทีมงานที่ดูแลงานในส่วนนี้
ในด้านนโยบายชดเชยพนักงานนั้น มัสก์เสนอให้พนักงานภาครัฐที่ถูกปลดออกได้รับเงินชดเชย 2 ปี แต่ในอดีตเขาเคยเผชิญคดีความเกี่ยวกับการไม่จ่ายเงินชดเชยตามสัญญาให้กับพนักงานที่ถูกปลดออก โดยเฉพาะในกรณีของ Twitter ซึ่งมีการฟ้องร้องว่ามัสก์ไม่ปฏิบัติตามข้อตกลง โดยก่อนที่มัสก์จะซื้อกิจการ X ในปี 2022 บริษัทมีนโยบายว่าจะให้เงินชดเชยแก่พนักงานที่ยังเหลืออยู่หลังมัสก์เทกโอเวอร์และถูกปลดสูงถึง 6 เดือน บวกกับค่าจ้าง 1 สัปดาห์ในแต่ละปีที่พวกเขาทำงาน
แม้มัสก์จะชนะคดีหนึ่งเมื่อต้นปีนี้ แต่ยังมีคดีความอื่นๆ ที่ยังดำเนินอยู่ ซึ่งทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับความสามารถของมัสก์ในการทำตามคำมั่นสัญญาที่เขาให้ไว้ในระหว่างช่วยหาเสียงครั้งนี้
ภาพ: Guglielmo Mangiapane / Reuters
อ้างอิง:
