×

สายลมแห่งความเปลี่ยนแปลง กาลเวลาอยู่ข้างใคร

13.05.2023
  • LOADING...
เลือกตั้ง ความเปลี่ยนแปลง

โค้งสุดท้ายการหาเสียง สิ่งที่น่าสนใจที่สุดคือไพ่ตายใบสุดท้าย

 

เปรียบเป็นมวยไทย นี่คือยกสุดท้าย วินาทีสุดท้าย ก่อนระฆังจะดัง

 

จากนโยบายหลักสิบหลักร้อย การหาเสียงนับพันนับหมื่นนาที คำสัมภาษณ์ดีเบตเป็นล้านคำ เมื่อมาถึง 12 พฤษภาคม การปราศรัยใหญ่ครั้งสุดท้ายของแต่ละพรรคจะเหลือเพียงไม้ตายเด็ดไม้ตายเดียวที่หวังจะน็อกคู่แข่งและซื้อใจ Voter

 

เห็น ‘แก่น’ 

เห็น ‘ตัวตน’ 

เห็น ‘ความเชื่อบรรทัดสุดท้าย’ 

และมากกว่านั้น เราจะเห็นภาพสะท้อนของสังคมไทยที่แจ่มชัด

 

การเลือกตั้งครั้งนี้คือภาพสะท้อนการปะทะกันระหว่าง

 

เปลี่ยนแปลง vs. เหมือนเดิม

อนาคต vs. อดีต

คุณค่าใหม่ vs. คุณค่าเก่า

 

หากไล่ระดับ เราจะเห็นความเชื่อ 3 กลุ่ม

 

ไม่เปลี่ยน – เปลี่ยนแปลง – เปลี่ยนเชิงโครงสร้าง

 

ความเชื่อแรกคือ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา พรรครวมไทยสร้างชาติ เน้นย้ำเรื่องการรักษารากเหง้าเดิม และไม่ต้องการการเปลี่ยนแปลง 

 

พล.อ. ประยุทธ์ ปราศรัยด้วยอารมณ์ความรู้สึกและหยดน้ำตาที่รินไหล “เราจะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายรากเหง้าของประเทศไทยเป็นเด็ดขาด 

 

“เราไม่ต้องการเปลี่ยนแปลงชนิดพลิกแผ่นดิน เพราะเราไม่รู้ว่าจะพลิกอะไร วันนี้เรามีของเราอยู่แล้ว

 

“พวกเราทุกคนไม่ใช่แค่ใช้ปากกาออกไปเลือกตั้ง แต่พวกเราจะเป็นช้างศึกปกป้องแผ่นดินไทย”

 

ความเชื่อที่สองคือ พรรคเพื่อไทย ที่เน้นเรื่องประสบการณ์และผลงานในอดีต พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงในปัจจุบันที่ชัวร์ ทำได้จริง 

 

อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร กล่าวว่า

 

“ที่มีการบอกว่าพรรคเพื่อไทยไม่อยู่เคียงข้างประชาชน ถ้าพรรคที่ถูกรัฐประหารมาไม่สู้เคียงข้างประชาชน ดิฉันจะมายืนอยู่ที่นี่ วันนี้หรือคะ ถ้าไม่สู้เคียงข้างประชาชน ถูกยุบพรรคไปแล้ว 2 ครั้ง จะได้กลับมาแบบนี้หรือคะ” 

 

ขณะที่แคนดิเดตอีกคน เศรษฐา ทวีสิน เน้นย้ำเรื่องประสบการณ์เป็นไม้ตายเช่นกันว่า “เวลานี้ประเทศต้องการรัฐบาลที่มีประสบการณ์

 

“อย่าเลือกเพราะความกลัว แต่เลือกเพราะความชัวร์ ไปทำความหวังของทุกคน เปลี่ยนประเทศให้ได้จริง” 

 

ความเชื่อที่สามคือ พรรคก้าวไกล ที่ชัดเจนมากเรื่องการเปลี่ยนเชิงโครงสร้าง เปลี่ยนไปสู่อนาคตใหม่

 

ปิยบุตร แสงกนกกุล เป็นคนที่ใช้อุปมาเรื่อง ‘เวลา’ ตลอดทั้งการปราศรัย 

 

“กลุ่มที่กุมอำนาจพยายามให้พวกเราอยู่กับอดีต แต่พวกเรายืนยันว่าจะเดินหน้าสู่อนาคต

 

“การต่อสู้ครั้งนี้เป็นการต่อสู้ความกลัวกับความหวัง เขากลัวสังคมใหม่จะทำให้พวกเขาไม่ได้อยู่ในอำนาจ กลัวสังคมใหม่จะทำให้ตั้งรับไม่ทัน ปรับตัวไม่ได้ 

 

“ความกลัวพยายามจะบอกว่าให้เราเปลี่ยนนายกฯ กับรัฐบาลก็พอแล้ว แต่ความหวังกระตุ้นเตือนเราว่าเปลี่ยนนายกฯ กับรัฐบาลไม่พอ ต้องเปลี่ยนประเทศไทยด้วย”

 

สอดคล้องกับ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ที่ใช้อดีตและอนาคตมาเป็นไม้ตาย

 

“เลือกตั้งด้วยความหวัง ไม่ใช่เลือกด้วยความกลัว เลือกเพื่อออกจากอดีต เลือกเพื่อไปสู่อนาคต ไม่ใช่เลือกเพื่อวนกลับไปที่เดิม”

 

ความเชื่อ 3 กลุ่มนี้มีพลวัตและการเปลี่ยนแปลงตามยุคสมัย ผลการเลือกตั้งในครั้งนี้จึงเปรียบเสมือนภาพสะท้อนว่าสังคมไทยมีฉันทมติแห่งความเชื่อแบบไหน

 

ไม่ว่าหน้าตารัฐบาลใหม่จะเป็นอย่างไร หรือการต่อรองรวมเสียงจะออกมาทิศทางใด มันไม่สำคัญอีกต่อไป 

 

คะแนนทั้งหมดจะเป็นสัญลักษณ์แสดงเจตจำนงของประชาชนชาวไทยว่า วันนี้ ณ เวลานี้ สังคมส่วนใหญ่ต้องการให้ประเทศไทยเดินไปทางไหน 

 

ไม่เปลี่ยน – เปลี่ยนแปลง – เปลี่ยนเชิงโครงสร้าง

 

สายลมพัดมาแล้ว

ระฆังดังขึ้นแล้ว

เข็มนาฬิกากำลังขยับ

ยุคสมัยกำลังคืบคลาน

กาลเวลาจะอยู่ข้างใคร

คำตอบอยู่ในมือคุณ

 

นครินทร์ วนกิจไพบูลย์

 


 

  • 14 พ.ค. นี้ ชวนติดตาม ผลการเลือกตั้ง 2566 แบบเรียลไทม์หลังปิดหีบ ตั้งแต่เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป ที่ https://election2566.thestandard.co/
  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising