วันนี้ (23 ก.ค.) เครือข่าย EEC Watch กลุ่มศึกษาการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก รวมตัวยื่นหนังสือ ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทําเนียบรัฐบาล ถึง พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จากการละเมิดสิทธิชุมชน โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 44 โดยการออกคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 47/2560 ให้มีการจัดทำผังเมืองใหม่ให้สอดคล้องกับการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นและไม่เคารพต่อการมีส่วนร่วมของประชาชนที่ได้ดำเนินการจัดท่าผังเมืองก่อนหน้านี้ เป็นการทำลายหลักประกันด้านการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมอย่างร้ายแรง
โดยทางเครือข่ายระบุว่า เมื่อมีการประกาศใช้ พ.ร.บ. เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ. 2561 สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกก็เดินหน้าจัดทำผังเมือง EEC อย่างต่อเนื่อง และมีการกำหนดเวลาให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี ทั้งที่เป็นการทำผังเมืองรวมถึง 3 จังหวัด และเป็นการดำเนินการครั้งแรกของประเทศไทยและไม่เป็นไปตามหลักการผังเมืองดังต่อไปนี้
1. การจัดทำผังเมืองของสำนักงาน EEC เป็นลักษณะการจัดทำแผนผังการใช้ประโยชน์ที่ดินเป็นรายโครงการที่กำหนดมาแล้วตามนโยบายพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกของรัฐ ไม่ได้จัดทำโดยการศึกษาศักยภาพของพื้นที่ตามหลักวิชาการผังเมือง
2. มีการเปลี่ยนสีผังเมืองเพื่อเอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มคนบางกลุ่ม เช่น การเปลี่ยนสีเขียวชนบทเกษตรกรรม อันเป็นพื้นที่เกษตรกรรมที่สมบูรณ์ แหล่งความมั่นคงทางอาหารที่สำคัญของภาคตะวันออกและทั้งประเทศ ไปเป็นสีม่วงอุตสาหกรรมสำหรับนิคมอุตสาหกรรม หรือเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษเป็นการทำลายวิถีชีวิตเศรษฐกิจของชุมชนและสร้างผลกระทบกับประชาชนจำนวนมาก
3. การใช้คำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 47/2560 และออกกฎหมาย พ.ร.บ. เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกเป็นการใช้กฎหมายเร่งรัดการจัดทำผังเมืองเพื่อตอบโจทย์การพัฒนาเศรษฐกิจโดยไม่คำนึงการมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นหลักการสำคัญในการจัดทำผังเมืองภาคประชาชนดังมีรายนามท้ายหนังสือฉบับนี้เห็นว่าการดำเนินการของรัฐที่ไปกระทบสิทธิของชุมชนที่ได้รับอยู่เดิมที่เกี่ยวกับผังเมืองต้องมีเหตุผลอันสมควรอย่างยิ่ง และต้องมีการรับฟังความคิดเห็นของผู้ที่เกี่ยวข้องตามหลักวิชาการที่ครบถ้วนรอบด้านและเป็นธรรมจึงขอให้ท่านตรวจสอบการจัดทำผังเมือง EEC และตั้งให้ดำเนินการจัดทำใหม่ตั้งแต่ต้น โดยให้ประชาชนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมีส่วนร่วมอย่างมีความหมาย (Meaningful Public Participation)
ด้าน ทัศนีย์ เกียรติภัทราภรณ์ รองเลขาธิการสายงานพัฒนาพื้นที่และชุมชน สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ชี้แจงทางเครือข่ายดังนี้
1. การจัดทำแผนผังการใช้ประโยชน์ที่ดิน EEC ได้นำหลักวิชาการของผังเมืองมาใช้ โดยคำนึงถึงความสัมพันธ์ของชุมชน สุขภาวะของประชาชน สภาพแวดล้อม และระบบนิเวศ โดยกรมโยธาธิการและผังเมืองเป็นองค์กรหลักที่ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการจัดทำแผนผังในการใช้ประโยชน์ที่ดินในเขต EEC
2. พ.ร.บ. เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ. 2561 ให้ความสำคัญกับประชาชนและการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยมีสาระสำคัญคือการกันพื้นที่ป่าไม้เพื่อสงวนและอนุรักษ์ การกันที่ดินประเภทที่โล่งเพื่อการรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม และการกำหนดประเภทการใช้ที่ดินอย่างสอดคล้องเหมาะสม
3. คณะกรรมการได้ร่วมกับกรมโยธาธิการและผังเมือง ในการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะอย่างเป็นทางการ 25 ครั้ง ไม่เป็นทางการ 15 ครั้ง รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 40 ครั้ง พร้อมนำข้อคิดเห็นเหล่านั้นมาปรับปรุงแก้ไขแผนผังการใช้ประโยชน์อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ยังได้ตอบ 8 ประเด็นคำถามของเครือข่ายที่ได้มีหนังสือสอบถามเข้ามายังสำนักงานฯ โดยชี้แจงรายละเอียดทุกประเด็นอย่างครบถ้วนด้วย