×

Dow Jones ร่วงตลอดเดือนกันยายนกว่า 9% ทำระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 2 ปี พิษเงินเฟ้อพุ่ง-ดอกเบี้ยสูง ฉุดเศรษฐกิจถดถอย

01.10.2022
  • LOADING...
Dow Jones

ดัชนี Dow Jones ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันศุกร์ (30 กันยายน) โดยถูกกดดันหลังสหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อที่สูงกว่าคาด ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นอีก และทำให้นักลงทุนวิตกว่าเศรษฐกิจจะเผชิญกับภาวะถดถอย โดยตลอดเดือนกันยายนที่ผ่านมา ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับลดลงกว่า 9% ทำสถิติต่ำสุดในรอบเกือบ 2 ปี 

 

ทั้งนี้ Dow Jones Industrial Average ปิดที่ 28,725.51 จุด ลดลง 500.10 จุด หรือ -1.71%, ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 3,585.62 จุด ลดลง 54.85 จุด หรือ -1.51% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,575.62 จุด ลดลง 161.89 จุด หรือ -1.51%


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


ดัชนี Dow Jones และดัชนี S&P 500 ปิดตลาดที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2020 ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดตลาดที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 29 กรกฎาคม 2020 

 

ในเดือนกันยายน ดัชนี Dow Jones ร่วงลง 8.8% ขณะที่ดัชนี S&P 500 ร่วง 9.3% และดัชนี Nasdaq ร่วง 10.5% และในรอบไตรมาส 3 นั้น ดัชนี Dow Jones ลดลง 6.7%, ดัชนี S&P 500 ลดลง 5.3% และดัชนี Nasdaq ลดลง 4.1%

 

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ถูกกดดันหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยในวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ Fed ให้ความสำคัญ เพิ่มขึ้น 4.9% ในเดือนสิงหาคมเมื่อเทียบรายปี และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.7% ในเดือนสิงหาคม และเมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PCE พื้นฐานเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนสิงหาคม และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.5% หลังจากทรงตัวในเดือนกรกฎาคม

 

ดัชนี PCE ถือเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) จากกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ

 

นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากความวิตกมากขึ้นเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย หลังบริษัทจดทะเบียน ได้แก่ Nike และ Carnival ประกาศเตือนเกี่ยวกับผลกำไร ซึ่งเป็นผลมาจากภาวะเงินเฟ้อสูง โดยหุ้น Nike และหุ้น Carnival ร่วงลง 12.8% และ 23.3% ตามลำดับ

 

หุ้น 10 ใน 11 กลุ่มของดัชนี S&P 500 ปรับตัวลง โดยกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เป็นเพียงกลุ่มเดียวที่ปรับตัวขึ้น ขณะที่กลุ่มเทคโนโลยีร่วงลงมากที่สุดเมื่อคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ โดยหุ้น Apple, Microsoft และ Amazon ถ่วงตลาดลงมากที่สุด

 

บรรดานักลงทุนติดตามผลประกอบการไตรมาส 3 ของบริษัทจดทะเบียนในเร็วๆ นี้ ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่ามีแนวโน้มลดลงจากตัวเลขประมาณครั้งก่อนในช่วงเริ่มต้นไตรมาส 3 ที่ระดับ 11.1%

 

Zachary Hill หัวหน้าฝ่ายการจัดการพอร์ตโฟลิโอของ Horizon Investments กล่าวว่า สภาวะการลงทุนในตอนนี้เป็นเรื่องยากทั้งสำหรับตราสารทุนและตราสารหนี้ ซึ่งก็เป็นไปตามที่เราคาดการณ์ไว้แล้ว หลังจากได้รับรู้มุมมองของ Fed ที่ยังคงมุ่งมั่นจะรักษาอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงขึ้นและยาวนาน ซึ่งตลาดก็ปรับตัวลงมาตอบสนองกับนโยบายนั้น

 

“ในระยะอันใกล้นี้ เรามองว่ามีแนวโน้มผันผวนของตลาดอย่างต่อเนื่อง แต่ปัจจัยเชิงลบอาจจะลดลงเพราะกำลังจะเข้าสู่ฤดูกาลประกาศผลประกอบการ” Hill กล่าว

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising