กาแฟดีๆ ไม่ได้มีเพียงสองฝั่งถนนสุขุมวิทและฝั่งพระนครเท่านั้น ข้ามมาฝั่งปิ่นเกล้า เชิงสะพานพระราม 8 ยังมีคาเฟ่สีขาวสุดมินิมัลซ่อนอยู่ท่ามกลางความเงียบเชียบของบรรยากาศย่านที่อยู่อาศัย ไม่ไกลจากริมฝั่งเจ้าพระยา แน่นอนว่า ร้านกาแฟที่ว่าจะเป็นที่ไหนไม่ได้ถ้าไม่ใช่ Double Slash Coffee Space พื้นที่เล็กๆ ของคนรักกาแฟ ที่ใช้เวลาร่วมปีในการพิสูจน์ว่ากาแฟดีนั้น ต่อให้อยู่นอกเขตกลางเมือง ก็สามารถอยู่รอดได้เช่นกัน
รับลาเต้เย็นๆ อร่อยๆ สักแก้วไหม
The Vibe
โครงสร้างกล่องสีเหลี่ยมสีขาวติดกระจกใส เพื่อให้เปิดรับแสงธรรมชาติอย่างเรียบง่าย ได้กลายมาเป็นความโดดเด่นของ Double Slash หรือ ‘//’ ตามโลโก้ที่ติดอยู่หน้าร้าน ส่วนด้านในนั้นเปิดเข้ามามีเพียงเคาน์เตอร์กาแฟอยู่ตรงกลางและโต๊ะเพียงไม่กี่ตัว ทว่า ได้ทำหน้าที่ต้อนรับผู้คนย่านปิ่นเกล้าและฝั่งธนบุรีที่แวะเวียนมาไม่ขาด เรื่องนี้เห็นทีต้องยกความดีให้เจ้าของร้าน วี-กรณ์พงษ์ วิวัฒน์ชัยกมล ที่กล้าหาญเดินออกมาจากเซฟโซนของคาเฟ่ที่กระจุกกันอยู่ริมถนนสุขุมวิท ให้ขยับออกมาอยู่ย่านนี้ ที่ไม่ได้มีร้านกาแฟอารมณ์คาเฟ่ให้ได้เช็กอินมากนัก
บรรยากาศโปร่งโล่ง มีความมินิมัลลิสต์
อย่างที่บอกว่า Double Slash ตอบโจทย์ทุกความเรียบง่าย ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานไม้ หรือการใช้สีที่มีเพียงเทา น้ำตาล ดำ และขาว โดยความมินิมัลที่ว่า ล้วนสะท้อนออกมาจากตัวตนของชายหนุ่มเจ้าของร้านที่มีความสุขุม เรียบง่ายไม่ต่างกัน
อาหารรองท้องของร้าน
The Drinks & The Dishes
“ก่อนหน้านี้ผมทำงานคราฟต์ งานหนัง อาจจะเป็นคนที่มีความรู้เรื่องกาแฟน้อยมากด้วยซ้ำ เพราะไม่ได้เป็นคนที่ดื่มกาแฟอย่างจริงจังมาก่อน แต่นั่นก็เป็นข้อดีที่พอมาตกลงใจว่าจะทำร้านกาแฟ ก็ทำให้เราต้องศึกษาเรื่องกาแฟด้วยตัวเองอย่างจริงจัง ลึกไปถึงเรื่องเมล็ด เรื่องการคั่วโดยมีเพื่อนจากร้าน Hands & Heart เป็นคนคอยให้คำแนะนำเรื่องเมล็ดและเรื่องการคั่วกาแฟ”
วี-กรณ์พงษ์ วิวัฒน์ชัยกมล
คุณวีย้อนเล่าถึงช่วงก่อนเริ่มเปิดร้าน ที่ได้พาตัวเองตะลุยดื่มกาแฟ เรียนรู้เรื่องกาแฟอย่างจริงจัง ไปจนถึงต้นน้ำคือ การปลูกกาแฟ จากนั้นจึงให้โรงคั่ว Hands & Heart ที่เพิ่งคว้ารางวัลจากเวที Thailand National Coffee Championship 2019 มาหมาดๆ ถึง 2 รางวัล เป็นผู้ควบคุมเรื่องคุณภาพ คั่วเมล็ดให้เป็นสไตล์ของร้าน พร้อมเสิร์ฟทั้งแบบเอสเพรสโซบาร์และสโลว์บาร์ ซึ่งมีครบทั้งดริปและโคลด์บริวเย็นฉ่ำรับอากาศร้อนอ้าวของกรุงเทพฯ โดยทางร้านเลือกใช้เมล็ดกาแฟไทยจากดอยสะเก็ดและแม่ขะจานเป็นเมล็ดกาแฟหลัก ซึ่งเรื่องของกลิ่นรสนั้นไม่เป็นรองกาแฟจากต่างประเทศเลยทีเดียว
โคลด์บริวก็อร่อยน่าลองไม่แพ้กัน
Black และ White คือสองเมนูหลักของกาแฟที่แสนเรียบง่าย ทว่า ก็ตรงตัวว่า Black คือกาแฟไม่ใส่นม และ White ก็คือจำพวกลาเต้ คาปูชิโน ที่ใส่นม โดยในความง่ายของ Black และ White ก็มีการใส่ให้ซับซ้อนมากขึ้น เช่น การใส่ความสดชื่นของส้มยูซุ หรือการใส่ใจเลือกใช้น้ำแข็งก้อนกลม เป็นต้น
เดนิชใส่ชีสร้อนๆ
ด้านอาหาร เน้นไปที่ขนมอบอย่าง ครัวซองต์ และ เดนิช ซึ่งอีกไม่นานเกินรอก็จะมีเมนูอาหารหนักท้องเข้ามาเสิร์ฟเพิ่มเติม ส่วนใครที่ไม่ใช่คอกาแฟ ที่นี่ยังมีเมนูช็อกโกแลต ชาเขียว และน้ำผลไม้ เข้ามาเป็นส่วนผสมที่ทางร้านให้ความพิถีพิถัน ไม่ต่างกับความมุ่งมั่นในเรื่องกาแฟเช่นกัน สมกับความหมายของร้านที่มาจากสัญลักษณ์ ‘//’ ซึ่งคุณวีมักใช้ในการจดบันทึกความคิดต่างๆ ของตัวเองที่ผ่านการคิด และเมื่อนำมาเป็นชื่อของร้าน ‘//’ จึงเป็นเหมือนตัวแทนของการคิด การกลั่นกรองต่างๆ อย่างพิถีพิถัน เช่นเดียวกับเรื่องราวของกาแฟที่อยู่ในพื้นที่เล็กๆ แห่งนี้
Double Slash Coffee Space
Open: เปิดบริการวันพฤหัสบดี-อังคาร เวลา 08.00-17.00 น.
Address: ถนนอรุณอัมรินทร์ (เชิงสะพานพระราม 8) กรุงเทพฯ
Budget: 60-100 บาท
Contact: โทร. 09 7989 6499
Page: www.facebook.com/double.slash.coffee
Map:
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล