×

ทำดีอย่าเด่นจะเป็นภัย จริงไหม

22.08.2018
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

3 Mins. Read
  • การทำดีนั้นทำอย่างไรก็ไม่ผิด ขอให้ทำไปเถอะ แต่เมื่อทำดีแล้ว เราต้องช่วยเหลือคนอื่นด้วย เราต้องผลักดันให้คนอื่นทำดีไปด้วย แนะนำวิธีการวิ่งให้เขา เราให้กำลังใจเขา เราเชื่อมั่นในตัวเขาว่าเขาต้องทำได้ จนวันหนึ่งไม่ใช่แค่เราคนเดียวแล้วที่วิ่งได้เร็ว แต่จะมีคนที่วิ่งเร็วขึ้นไปพร้อมกับเรา มีคนที่อาจจะไม่เคยได้เข้าเส้นชัยมาก่อน แล้วในที่สุดเขาก็เข้าเส้นชัยได้เพราะเราช่วยปลุกพลังในตัวเขา ทุกคนมีความสุขกันหมด
  • ทำดีแล้วอย่าลืมให้คนอื่นได้มีสปอตไลต์บ้าง ให้เครดิตกับคนอื่น ให้ทุกคนได้มีเวที ชื่นชมคนอื่นเป็น เราก็จะไม่มีภัย มีแต่คนจะชื่นชมเรามากขึ้นด้วยซ้ำ เราจะไม่ได้มีความสุขอยู่คนเดียว

Q: เคยได้ยินมาว่า เวลาทำงาน เราทำดีแค่ไหนแต่อย่าทำตัวเด่น เพราะจะกลายเป็นภัยกับตัวเราเอง คนจะหมั่นไส้และกลายเป็นเราไม่เหลือใครคบจริงไหมคะพี่ ถ้าอย่างนั้นเราควรทำตัวอย่างไรไม่ให้เป็นภัยดีคะ

 

A: พี่เคยได้ยินคนบอกแบบนี้เหมือนกัน แต่พี่ไม่เคยเชื่อคำพูดนี้เลยแม้แต่น้อย และพี่งงกับตรรกะของคำสอนแบบนี้มากว่า สรุปจะไม่ให้ทำดีเหรอ ฮ่าๆ ถ้าเราเชื่อแบบนี้มันก็ทำให้เราไม่อยากจะทำดี หรือทำดีแบบไม่สุดเพราะกลัวจะเป็นภัย กลัวคนจะหมั่นไส้ ซึ่ง…มันใช่เรื่องไหมนั่น?!

 

สมมติมีคนทำดีแล้วมีคนหมั่นไส้ มีคนเข้ามาทำลายคนที่ทำดี ปัญหาไม่ได้อยู่ที่คนทำดีสิ ปัญหาอยู่ที่คนที่มาหมั่นไส้ เอ๊า?! คนหมั่นไส้ก็ต้องผิดสิ จะมาบอกว่าคนทำดีผิด อย่าทำดีเลย แบบนี้มันก็ดูงงๆ นะครับ และถ้าเรากลัวอยู่ในสังคมนั้นไม่ได้เพราะคนหมั่นไส้ คำถามก็คือ แล้วสังคมที่คนหมั่นไส้คนอื่นเพราะทำดีกว่านี่มันใช่สังคมที่น่าอยู่ไหม เราจะอยากเป็นเพื่อนกับคนที่หมั่นไส้คนอื่น และไม่มีความสุขเมื่อคนอื่นทำดีเหรอครับ

 

ทีนี้เราจะทำตัวอย่างไรไม่ให้เป็นภัย

 

เรื่องนี้ทำให้พี่อยากยกตัวอย่างสมัยเรียนมหาวิทยาลัยที่จะมีบางวิชาใช้วิธีตัดเกรดโดยใช้ค่าเฉลี่ยของนักศึกษาในห้องทั้งหมด เกาะกลุ่มกันไปยังไงก็รอด ทีนี้ถ้ามีใครทำคะแนนโดดขึ้นมาก็เท่ากับเป็นการดึงค่าเฉลี่ยให้สูงขึ้น ก็อาจจะมีคนโวยขึ้นมาได้ว่าเพื่อนที่ทำคะแนนสูงนี่มันดึง Mean กลุ่มชัดๆ ลองคิดเล่นๆ ว่าถ้าน้องเป็นคนที่ทำคะแนนได้สูงและอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ น้องจะทำอย่างไร

 

วิธีการแรกก็คือ จากที่น้องทำคะแนนสูงๆ อยู่ น้องก็ทำคะแนนให้น้อยลงหน่อย เพื่อนจะได้ไม่หมั่นไส้ คะแนนเราก็ไม่ดึง Mean เกาะกลุ่มกันไปดีกว่า ขืนทำคะแนนสูงอีกเพื่อนจะซวย เราเองก็ซวย นี่ไง ทำดีอย่าเด่นจะเป็นภัย

 

ปัญหาของวิธีการนี้คือ มันเป็นการดูถูกความสามารถของตัวเอง เราห่วงคนอื่นแต่ลืมรักตัวเอง เรามัวไปโฟกัสว่าคนอื่นจะคิดอย่างไรกับเรามากกว่าจะสนใจในคุณค่าของตัวเอง เมื่อเรายอมลดทอนคุณค่าของตัวเอง เราก็จะไม่ได้พัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นไปอีก และถ้าเรายอมทำไม่ดี แต่ปรากฏว่าเพื่อนๆ ทำคะแนนได้สูงขึ้นมา มีเราคนเดียวได้คะแนนน้อย เราก็ซวยสิว่าไหมครับ

 

หรือจะลองวิธีการที่สองก็คือ ไหนๆ น้องก็เป็นคนที่ทำคะแนนสูงอยู่แล้ว น้องก็จัดการติวให้เพื่อนซะเลย เก็งข้อสอบให้หมด ทุกคนจะได้มีความรู้แน่นๆ เพื่อหวังว่าสุดท้ายถ้าคะแนนทุกคนดี ทุกคนก็จะมีความสุข Mean อาจจะสูงขึ้น แต่ทุกคนออกมาจากห้องด้วยความรู้สึกว่า “เฮ้ย! เราก็ทำข้อสอบได้นี่หว่า” สุดท้ายใครจะได้คะแนนมากน้อยแค่ไหนก็ตาม แต่เราได้ช่วยเพื่อนๆ ทุกคน เราแสดงให้เห็นว่าเราทำคะแนนได้ดี แต่เราก็มีน้ำใจให้เพื่อน เราไม่นิ่งดูดายต่อคนที่ไม่แข็งแรงเท่าเรา เราไม่ทิ้งให้ใครนอนตายอยู่สมรภูมิ เราไม่ใช่คนเก่งที่เห็นแก่ตัวและกลัวคนอื่นจะได้ดีกว่าเรา เรายังอยู่ใน Fair Game ที่เมื่อต้องทดสอบตัวเองก็ทำเต็มความสามารถ และสนับสนุนให้ทุกคนทำเต็มความสามารถเช่นกัน

 

วิธีการนี้ งานเราก็ไม่เสีย ผลงานเราก็ยังดี และเราได้ช่วยเพื่อนๆ ให้พัฒนาตัวเองไปพร้อมกับที่เราได้พัฒนาตัวเอง เพื่อนก็รักที่เราไม่เห็นแก่ตัว จะว่าเราก็ไม่ได้เพราะเรามีน้ำใจช่วยติวให้แล้ว ที่เหลือเป็นเรื่องความสามารถ ความทุ่มเทส่วนบุคคล คราวนี้ไม่ใช่แค่เราคนเดียวแล้วที่ได้ดี แต่ได้ดีกันหมด ทุกคนเข้าเส้นชัยไปด้วยกันหมด

 

ตัวอย่างที่ยกมานี่แหละครับที่อธิบายเรื่อง ‘ทำดีแต่อย่าเด่นเพราะจะเป็นภัย’ ได้ดี พี่คิดว่า การทำดีนั้นทำอย่างไรก็ไม่ผิด ขอให้ทำไปเถอะ ถ้าเราเป็นคนตั้งใจทำงาน ผลงานเราออกมาดี เราก็ต้องรักษาคุณภาพแบบนั้นไว้ ใครจะมองอย่างไร หมั่นไส้เราอย่างไรเราก็ไม่ควรต้องไปลดคุณภาพในตัวเรา ไหนๆ ทำดีมาตลอดอย่าเพิ่งมาตายเพราะคนหมั่นไส้สิ ที่เราต้องยึดมั่นคือ เราจะไม่ประนีประนอมกับการทำงานให้มีคุณภาพน้อยลง เพราะฉะนั้นถ้าทำดีอยู่แล้ว ทำดีต่อไปอย่าไปหวั่นไหว

 

แต่เมื่อทำดีแล้ว เราต้องช่วยเหลือคนอื่นด้วย เราต้องผลักดันให้คนอื่นทำดีไปด้วย ถ้าเราวิ่งได้เร็วแต่คนอื่นยังวิ่งไม่แข็ง เราจับมือคนอื่นให้วิ่งไปพร้อมกับเรา เราแนะนำวิธีการวิ่งให้เขา เราให้กำลังใจเขา เราเชื่อมั่นในตัวเขาว่าเขาต้องทำได้ จนวันหนึ่งไม่ใช่แค่เราคนเดียวแล้วที่วิ่งได้เร็ว แต่จะมีคนที่วิ่งเร็วขึ้นไปพร้อมกับเรา มีคนที่จะไม่ขัดขาเราตอนวิ่ง มีคนที่ยินดีกับเราเมื่อเข้าเส้นชัย มีคนที่อาจจะไม่เคยได้เข้าเส้นชัยมาก่อนแล้วในที่สุดเขาก็เข้าเส้นชัยได้เพราะเราช่วยปลุกพลังในตัวเขา ทุกคนมีความสุขกันหมด

 

อีกตัวอย่างที่อยากเล่าให้ฟังก็คือ พี่เพิ่งไปดูคอนเสิร์ต เซลีน ดิออน มาและได้เรียนรู้อะไรบางอย่างที่คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับทุกคนและน่าจะเป็นตัวอย่างสำหรับคำถามของน้องได้ดี ทุกคนรู้อยู่แล้วว่า เซลีน ดิออน คือนักร้องที่เสียงดีมาก แต่ทั้งโชว์พี่กลับได้เห็นหลายโมเมนต์ที่เซลีนให้คนอื่นๆ เด่นกว่าเธอ เธอให้ทุกคนบนเวทีได้รับสปอตไลต์ ได้มีโมเมนต์ที่เป็นของตัวเอง ได้รับการชื่นชมจากคนดูแบบเดียวกับที่เธอได้รับ เธอกล่าวให้เครดิตนักดนตรีและทีมงานอยู่ตลอดคอนเสิร์ต มันจึงไม่ใช่โชว์ของเซลีน ดิออน คนเดียว แต่มันคือโชว์ที่ทุกคนร่วมแรงร่วมใจกันทำทั้งหมด สิ่งที่คนดูรู้สึกจึงไม่ใช่แค่ เซลีน ดิออน เก่งจัง แต่เห็นความเก่งของทุกคนบนเวทีและหลังเวทีไปด้วยกันหมด มันเลยกลายเป็นโชว์ที่มีความหมายมากขึ้น เรื่องเดียวกันเลยกับที่เราคุยกันคือทำดีแล้วอย่าลืมให้คนอื่นได้มีสปอตไลต์บ้าง ให้เครดิตกับคนอื่น ให้ทุกคนได้มีเวที ชื่นชมคนอื่นเป็น เราก็จะไม่มีภัย มีแต่คนจะชื่นชมเรามากขึ้นด้วยซ้ำ เราจะไม่ได้มีความสุขอยู่คนเดียว แต่ทุกคนมีความสุขด้วยกันหมด

 

เราไม่ได้ทำงานอยู่คนเดียว แต่ต้องอาศัยคนอื่นๆ ในการร่วมแรงร่วมใจกันทำงาน เพราะฉะนั้น จะพัฒนางานให้ดีต้องพัฒนาทั้งตัวเราและพัฒนาทุกคนในทีมไปพร้อมกันด้วย อีกอย่างก็คือ ถ้าเราจะทำดีได้ดีแบบไม่เห็นหัวคนอื่นเลยในสายตาแบบนี้ วันหนึ่งที่เราล้มขึ้นมา พลาดขึ้นมา มันจะมีคนรอเหยียบเราอีกเยอะเลยล่ะครับ

 

เราต้องเป็นคนดีที่คนอื่นรัก เรามีน้ำใจให้คนอื่น ไม่ใช่ว่าเราทำงานได้ดี เราก็เชิดใส่คนอื่น ไปดูถูกคนอื่นว่าโง่ และทำตัวแบบที่ทำอย่างไรก็ได้แต่ฉันต้องรอด ไม่อย่างนั้นเราก็จะกลายเป็นคนที่วิ่งเข้าเส้นชัยลิ่วๆ แต่ไม่มีคนอยากแสดงความยินดีกับเรา เขาไม่ได้มีปัญหาหรอกครับที่เราวิ่งเข้าเส้นชัย แต่เขาจะมีปัญหากับการวิ่งเข้าเส้นชัยของเราที่ระหว่างทางดันไปเหยียบย่ำคนอื่น และเห็นแก่ตัวจนวิ่งไม่ดูเพื่อนฝูง ต่อให้เข้าเส้นชัย แต่มันจะเป็นเส้นชัยที่โดดเดี่ยวน่าดูเลยนะครับ

 

ได้ดีอยู่คนเดียวมันเดียวดาย สู้เราช่วยให้ทุกคนได้ดีไปด้วยกันน่าจะเป็นความสำเร็จที่มีความสุขมากกว่า

 

ทำดีอย่าเด่นจะเป็นภัย — มันไม่เกี่ยวกับความเด่นหรอกครับที่ทำให้เราเป็นภัย เป็นการทำผลงานดีแต่โดดเดี่ยวต่างหากที่ทำให้เราเป็นภัย

 

ท้อฟฟี่ แบรดชอว์

 

ส่งคำถามดราม่าในที่ทำงานที่คุณสงสัยมาได้ที่อีเมล [email protected] หรืออินบ็อกซ์ไปที่ FB: ท้อฟฟี่ แบรดชอว์ 

 

ภาพประกอบ: Nisakorn Rittapai

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising