×

กรมวิทย์ฯ เผย โอมิครอนกลายเป็นสายพันธุ์หลัก ชี้ BA.2 หลบภูมิเก่ง แต่ความรุนแรงไม่ต่างจาก BA.1 ย้ำวัคซีนเข็มกระตุ้นลดป่วยหนักได้

โดย THE STANDARD TEAM
15.02.2022
  • LOADING...

วันนี้ (15 กุมภาพันธ์) นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ แถลงข่าวการเฝ้าระวังโควิดสายพันธุ์โอมิครอน โดยระบุว่าข้อมูลตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2564 – 11 กุมภาพันธ์ 2565 ตอนนี้สัดส่วนการระบาดของเชื้อโอมิครอนในประเทศไทยพบอยู่ที่ 97.2% จากการตรวจหาเชื้อทั้งในและต่างประเทศ ส่วนยอดผู้ติดเชื้อโอมิครอนอยู่ที่ 18,028 ราย โดยจำแนกเป็น 5 จังหวัดที่พบเชื้อโอมิครอนมากที่สุดดังนี้

  1. กรุงเทพมหานคร 6,641 ราย
  2. ภูเก็ต 1,286 ราย
  3. ชลบุรี 1,240 ราย
  4. ร้อยเอ็ด 670 ราย
  5. สมุทรปราการ 590 ราย

 

ส่วนผลการติดตามสายพันธุ์โอมิครอน BA.2 ของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ พบว่า ปัจจุบันตรวจพบ BA.2 ใน 57 ประเทศทั่วโลก เริ่มพบการระบาดแทนสายพันธุ์หลักในบางประเทศ เช่น อินเดีย, เดนมาร์ก และสวีเดน เป็นต้น ทั้งนี้ BA.2 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในหลายประเทศและอาจกลายเป็นสายพันธุ์หลักแทน BA.1 ภายใน 1-2 เดือน เพราะสามารถแพร่กระจายตัวได้เร็วกว่า

 

โดย Frederik Plesner Lyngse นักวิจัยและคณะ จากมหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกน รายงานผลการศึกษาในเดนมาร์ก พบโอมิครอนสายพันธุ์ BA.2 สามารถติดต่อได้ง่ายกว่าสายพันธุ์ BA.1 แม้ว่า BA.2 จะมีคุณสมบัติในการหลบหลีกภูมิคุ้มกัน แต่จากข้อมูลที่มี ณ ขณะนี้ ความรุนแรงของโรคไม่ต่างจากสายพันธุ์หลัก และวัคซีนเข็มกระตุ้นยังคงสามารถป้องกันอาการป่วยหนักและรุนแรงได้ 

 

ทั้งนี้ ทางกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้ตรวจแยกสายพันธ์ุย่อยของโอมิครอน ระหว่างวันที่ 5-11 กุมภาพันธ์ 2565 เพื่อแยกสายพันธ์ BA.1 และ BA.2 จากจำนวน 567 ตัวอย่าง พบเป็น BA.1 จำนวน 462 ราย (81.5%) และ BA.2 105 ราย (18.5%)

 

นพ.ศุภกิจกล่าวต่อไปว่า โดยสรุปการระบาดของสายพันธุ์โอมิครอนเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในหลายประเทศทั่วโลก ทำให้มีโอกาสการกลายพันธุ์ได้มาก ทั้งการเกิดสายพันธุ์ย่อยในตัวโอมิครอนเอง รวมไปถึงการเกิดสายพันธุ์ใหม่ และการเฝ้าระวังสายพันธุ์ย่อยของโอมิครอนคือ BA.2 ด้วยการถอดรหัสพันธุกรรมทั้งตัว (WTS) พบว่าประมาณ 2% จากผู้ป่วยโอมิครอนทั้งหมด ซึ่งจะได้ทำการเฝ้าระวังต่อไป อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเท่าที่มียังบ่งชี้ว่าวัคซีนเข็มกระตุ้นยังช่วยป้องกันสายพันธุ์ BA.2 และลดอาการป่วยหนักและเสียชีวิตได้

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising