THE STANDARD POP มีโอกาสสัมภาษณ์สองซีอีโออย่าง ตง-ธเนศ จิระเสวกดิลก และตี๋-พัฒนพงศ์ รานุรักษ์ อยู่บ่อยครั้ง ทั้งคู่คือผู้ก่อตั้ง Divana และ Dii Group ที่มีรางวัลมากมายการันตีถึงความสำเร็จ แต่ในช่วงที่ทั้งโลกต่างเผชิญกับวิกฤตโควิด-19 ต้องยอมรับว่าตลาดความงามล้วนได้รับผลกระทบมากน้อยแตกต่างกันไป ธุรกิจในมือที่มีทั้ง Divana Spa, Cafe และ Dii Wellness Med Spa ต้องปรับตัวทุกนาที และ Digitize บริษัททั้งระบบ

จากวิกฤตในวันนั้น ทั้งคู่ได้สร้างโอกาสแห่งความท้าทายใหม่ๆ ร่วมกับคนรุ่นใหม่ที่แท็กทีมกันบุกตลาด Supplement ในประเทศไทยจนเป็นปรากฏการณ์ใหม่ที่ตอบโจทย์คนรักสุขภาพในช่วงโควิด-19 โดยมีเป้าหมายอยากเห็นคนไทยสุขภาพดีและมีความสุขในชีวิตอย่างยั่งยืน 

นอกจากธเนศและพัฒนพงศ์จะเป็นผู้บุกเบิกคนสำคัญในธุรกิจ Dii Supplements แล้ว ยังได้คนรุ่นใหม่ที่เป็นฟันเฟืองสำคัญในการผลักดันและทำให้ Dii Supplements มีความโดดเด่นและโกยรายได้สวนกระแสตลาดในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา ซึ่งประกอบด้วย ชีค-อนุชิต ตุงธนบดี, เพชร-กวินวัชร์ เลิศอัศวเวคิน และรุ้ง-หทัยรัตน์ พั้วพันศรี ซึ่งเป็นโคซีอีโอของ Dii Supplements ด้วย ต่อไปนี้คือบทสัมภาษณ์ฉบับยาวๆ ที่เราจะพาผู้อ่านไปสำรวจการเดินทางของธุรกิจอาหารเสริมซึ่งมาแรงและมีวิธีนำเสนอคอนเทนต์ที่สร้างสรรค์ตรงใจคนรุ่นใหม่มากที่สุดในตอนนี้ 

การพบกันของซีอีโอและโคซีอีโอ 

พัฒนพงศ์: ผมเจอกับเพชรและรุ้งในคลาสเรียน ตอนนั้นน้องเป็นนักศึกษา แล้วผมไปเป็นเมนเทอร์ในคลาส จำได้ว่าผมพูดเกี่ยวกับแพสชันของการให้วิตามิน คือผมอยากได้วิตามินที่ใส่ไว้ใต้ลิ้นแล้วเข้าไปในร่างกาย 10,000 มิลลิกรัมเลยโดยที่เราไม่ต้องฉีด แล้วน้องเขามาสะดุดใจผม บอกว่าเขามีไอเดียที่น่าจะทำได้นะ เพราะเขาทำ Supplement กันอยู่ ก็เลยได้เจอกันตอนนั้น ไปออกงานด้วยกัน 2-3 ครั้ง อย่างเช่นงานนวัตกรรมของคณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ (Biomedical Engineering) มหาวิทยาลัยมหิดล ที่ผมไปเป็นเมนเทอร์ให้ที่คณะ พอได้เห็นกระบวนการคิด เห็นการทำงาน มีการโยนคำถามไปมา ก็พบว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจ จึงมาคิดต่อว่าเราจะมีโมเดลในการทำงานร่วมกันอย่างไร

จะร่วมงานกันได้ สิ่งสำคัญคือแพสชันที่พอดีกัน 

พัฒนพงศ์: เวลาที่ผมจ้างผลิตจะพบปัญหาว่าโดยส่วนใหญ่คือแพสชันของฝ่ายผลิตจะออกมาไม่เพียงพอต่อความต้องการของเรา ผมก็เลยทำเป็นโยนหินถามทางน้องๆ ว่าพวกเขาสนใจอยากร่วมงานกันไหม เพราะเวลาผมจะทำอะไรสักอย่าง ผมอยากร่วมงานกับคนที่มีแพสชันที่พอดีกัน ผมอยากได้ Supplement ที่ดีที่สุดที่จะสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด เพราะลูกค้าของ Dii เอง รวมทั้ง Divana Spa มีจำนวนผู้มาใช้บริการกับเรารวมกันน่าจะเกือบแสนคน ผมก็เลยคิดว่าถ้าสามารถรวมแพสชันของเราเข้ากับแพสชันของน้องๆ ได้ แล้วเอาหมอกับเภสัชกรมาร่วมงานกัน ดูซิว่าผลจะออกมาเป็นยังไง คือปกติผมจะต้องสั่ง Supplement จากอเมริกา สวิตเซอร์แลนด์ อิตาลี แต่พอได้คุยกับน้องๆ เขาบอกว่าเขาทำได้ เราก็เลยทำ Supplement ตัวแรกเป็น Weight Loss เพื่อให้ลูกค้า เพราะคลินิกเรามีโปรแกรม Sliming เยอะ แล้วมันต่อยอดไอเดียออกไปอีกว่าทำสูตรเดียวคงไม่พอ ถ้าอย่างนั้นทำออกมา 2 แบบ เป็น Weight Loss สำหรับคนออกกำลังกายและคนที่ไม่ออกกำลังกายดีกว่า เพราะกลุ่มคนที่ออกกำลังกายจำเป็นต้องมี Supplement ที่แตกต่างจากคนที่ไม่ออกกำลังกาย 

อนุชิต: Supplement สำหรับคนออกกำลังกาย กลไกของมันก็จะเน้นการดึงพลังงานมาใช้ในช่วงออกกำลังกายได้ดีขึ้น ลดอาการอ่อนเพลียเวลาออกกำลังกาย และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการออกกำลังกายได้ดีขึ้น แต่สำหรับคนที่ไม่ออกกำลังกาย พวกนี้อาจจะไม่สำคัญ ถ้าไลฟ์สไตล์ของเขาเน้นกินเยอะ กินจุ แต่ไม่ชอบออกกำลังกายเลย Supplement ที่เราออกแบบมาเพื่อคนไม่ออกกำลังกายก็จะช่วยเรื่องลดการดูดซึมของคาร์โบไฮเดรต และเร่งให้ภาวะปกติของเขามีการเผาผลาญที่มากกว่าเดิม เหมือนกับไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันก็ต้องการวิตามินที่ต่างกัน 

จาก Supplement แรกสู่การเดินหน้าพัฒนาต่อ

พัฒนพงศ์: Supplement ตัวต่อมาคือเน้นแก้ปัญหาสิวโดยเฉพาะ ต้องบอกว่าคุณหมอที่คลินิก Dii ของเรารักษาสิวเก่งมาก ซึ่งเขาก็ไปประชุมกันแล้วก็ผลิต Supplement ที่แก้เรื่องสิว จนได้ออกมาเป็น Dii Essentra Combo C แล้วปรากฏว่าดังระเบิดในโลกโซเชียล คนรีทวีตกันมหาศาล ภายในระยะเวลาเพียง 3 เดือน เรามียอดผู้ติดตามในอินสตาแกรมเพิ่มมากขึ้นกว่า 20,000 คน ทีมของน้องๆ สามารถสร้างเม็ดเงินได้มหาศาล นางเอกของงานนี้ก็จะเป็นน้องรุ้งซึ่งสร้างคอนเทนต์ ชูจุดขายที่คนอยากรู้ มีการปรับและแก้เกมในเชิงดิจิทัลที่ก้าวทัน ซึ่งต้องการคนมีไอเดียที่ล้ำมากเพื่อไปดักรอคนที่จะเป็นลูกค้าของเรา โดยคอนเทนต์หลักๆ ก็จะมาจากชีคและเพชร ส่วนรุ้งจะเป็นคนเข้ามาช่วยทำมาร์เก็ตติ้งกับเพชรอีกที ทุกคนสามารถออกมาแก้เกมได้อย่างรวดเร็ว ทางเราก็ติดต่อประสานงาน ทำโครงสร้างกลยุทธ์ต่างๆ จนมันกลายเป็นความโดดเด่นที่ได้รับการตอบรับที่ดีมากจากลูกค้า แล้วพอดีกับในช่วงโควิด-19 เริ่มต้น ผมสังเกตเห็นว่าที่อเมริกามีความต้องการวิตามินซีเยอะมาก แล้วชีคก็บอกว่าเขามีสูตรวิตามินที่ดีสุดๆ เดี๋ยวให้เขาเล่าให้ฟังดีกว่า

จุดเด่นที่ทำให้ Dii Essentra Combo C เป็นที่นิยมในตลาด Supplement

อนุชิต: วิตามินซีสูตรของเรามีจุดเด่นตรงที่เป็นสูตรที่มาจากธรรมชาติ สารสกัดจากเชอร์รีบราซิลผสานเข้ากับมะขามป้อม ซึ่งเป็นตำรับวิตามินซีธรรมชาติ มีส่วนช่วยในการกำจัดสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกาย ผสานซิงก์อะมิโนแอซิดในรูปแบบคีเลต ช่วยเสริมสร้างการทำงานของวิตามินซีได้อย่างเต็มที่ และมีส่วนช่วยในระบบไหลเวียนโลหิต มีสารต้านอนุมูลอิสระ และมีฤทธิ์ต้านเชื้อโรคบางตัว ซึ่งมันก็จะดีกว่ากินวิตามินซีเฉยๆ นี่คือสูตรวิตามินซีที่เราคิดว่ามันดีที่สุด 

พัฒนพงศ์: จุดเด่นของตัว Combo C ที่น้องๆ เขาคิดค้นสูตรขึ้นมานี้ ผมชอบตรงที่เขาสามารถเบลนด์เอาความเป็นอินเตอร์ของวิตามินซี ซึ่งมันมีปริมาณสูงมากในเชอร์รีบราซิลมาเจอกับมะขามป้อม ซึ่งตัวมะขามป้อมมันดีตรงที่มีคุณสมบัติช่วยต่อต้านไวรัส ขณะเดียวกันก็มีการใช้ซิงก์อะมิโนแอซิดในการเปิดเซลล์เพื่อให้วิตามินซีสามารถเข้าไปในเซลล์ได้ดี แล้วพอผมไปอ่านบทความในอเมริกาที่เขียนถึงความสำคัญของซิงก์และตัววิตามินซีต้านไวรัสว่ามันมีส่วนช่วยต้านโควิด-19 แล้วพอเราผลิต Supplement ตัว Combo C ออกมา ปรากฏว่าขายกันกระหน่ำมาก สินค้าก็เริ่มมีลูกค้าประจำ ซึ่งคนที่มีส่วนสำคัญในการดูแลลูกค้าคือรุ้งกับเพชร ต้องบอกว่าพวกเขาสร้างเซอร์ไพรส์ให้กับเรามาก ต้องยอมรับว่าในช่วงโควิด-19 ระบาด ขณะที่ตลาดส่วนใหญ่ตก แต่สำหรับที่ Dii แม้เราจะดูแลคนเยอะ แต่พอมีม็อบปุ๊บ คนแคนเซิล ลูกค้าที่มาที่ Dii ไม่ได้เขาก็จะโทรหารุ้งเพื่อซื้อวิตามินส่งไปที่บ้าน มันจึงกลายเป็นวงจรของการดูแลลูกค้าตั้งแต่ตื่นยันหลับ   

ก้าวต่อไปที่ไม่หยุดนิ่งของ Dii Supplements

พัฒนพงศ์: ต่อจากนี้ไปเราก็จะมีประชุมกันอยู่เรื่อยๆ เราก็เอาทีม Supplement มาคุยกับหมอ ตอนนี้คุยไปแล้วเรื่องหมอสิว หมอผิวพรรณ ต่อไปจะคุยเรื่องหมอที่เชี่ยวชาญเรื่องการแพ้ เพราะเรามีเป้าหมายอยากทำตัวยาที่ทำให้คนแพ้น้อยลง อย่างตัวที่จะเป็น Supplement เบอร์หนึ่งของเรา (ที่กำลังจะเปิดตัวเร็วๆ นี้) จะทำเป็น Traditional Medicine ที่จะช่วยยืดเทโลเมียร์​ (ส่วนประกอบหนึ่งของโครโมโซมในเซลล์ ซึ่งเป็นตัวชี้วัดเรื่องความแก่ชราหรืออายุของร่างกาย) สิ่งที่เราทำคือเราจะไปยืดเทโลเมียร์ออก ซึ่งว่ากันตามหลักวิทยาศาสตร์แล้วมันสามารถยืดได้จริง และเรากำลังทำกันอยู่ ด้วยวิสัยทัศน์ของน้องๆ คือเขาไม่อยากให้คนป่วย เขาอยากให้คนมีสุขภาพกายใจที่แข็งแรง ผมมีแนวคิดว่าถ้ารู้สึกไม่สบายเล็กๆ น้อยๆ เราไม่ต้องไปถึงโรงพยาบาลก็ได้ เราเลือกที่จะไป Wellness แทนก็ได้ ทุกวันนี้ Wellness ของเรามีคนเต็มหมดเลยทุกที่ เราจึงคิดว่าถ้ายังมีบางคนที่ไม่กล้าออกจากบ้าน แม้แต่จะมา Wellness เราก็ส่งไปบริการเขาที่บ้านได้ เรามี Dii Care ที่เขาสามารถปรึกษากับหมอผ่านทางไลน์ก่อน อย่างเช่นเป็นสิว เขาสามารถถ่ายรูปส่งมาให้คุณหมอดู พอหมอประเมินเสร็จก็ส่ง Supplement กลับไปที่บ้านเขาเลย ซึ่งตัวที่เราส่งไปที่บ้านมี อย. ทั้งหมด ไม่มีสารเคมีใดๆ มันคือการใช้เท่าที่จำเป็นจริงๆ เราใช้หลักของธรรมชาติบำบัด อย่างคนกลัวที่จะเป็นหวัด กลัวที่จะติดไวรัส เราก็มีตัว Combo C ที่ตอบโจทย์การดูแลสุขภาพและเสริมภูมิคุ้มกันของตัวเอง 

รู้จักวิตามินดาวเด่นของ Dii Supplements ที่เพิ่งคว้ารางวัลจากชีวจิต

กวินวัชร์: วิตามินล่าสุดที่เพิ่งได้รางวัลจากชีวจิตคือ No.9 Pillow Theanine & Gaba ครับ ตัวนี้ออกมาประมาณ 3-4 เดือนเท่านั้น เราก็คว้ารางวัลได้เลย ซึ่งจุดเด่นจะอยู่ที่ส่วนผสมจากชาและกาบา ซึ่งกาบาเป็นสารสื่อประสาทในสมอง ตัว No.9 จะกิน 30-45 นาทีก่อนนอน ช่วยกระตุ้นสมองให้เข้าสู่คลื่นอัลฟา เพื่อให้พร้อมเข้าสู่การนอนหลับอย่างมีคุณภาพ การสร้างความสมดุลของร่างกายมันจะดีขึ้น ซึ่งจะวัดได้อย่างชัดเจนตอนเราตื่นนอนว่ารู้สึกเพลียหรือสดชื่น และไม่อยากนอนต่อเพราะรู้สึกว่านอนเต็มอิ่มแล้ว วิตามินตัวนี้ได้รับการบอกต่อจากลูกค้าเยอะมากครับ เราก็ดึงเอาการรีวิวมาสร้างกลยุทธ์ให้คนเห็นมากขึ้น อย่างใครรีวิวสินค้าเราก็จะมีวอยเชอร์ให้ลูกค้าตอบแทน 

ส่องกลุ่มเป้าหมายที่ใส่ใจผิวพรรณและสุขภาพ

หทัยรัตน์: กลุ่มเป้าหมายหลักจะอยู่ในช่วง First Jobbers จนถึงอายุ 40-50 ขึ้นไป ด้วยความที่ตัว Supplement ของเรามีความวาไรตี้ในแต่ละสูตร เพราะฉะนั้นเราก็จะจับกลุ่มลูกค้าได้ค่อนข้างกว้าง ถ้าเป็นกลุ่ม First Jobbers จนถึงช่วงอายุ 30-40 ปี เขาก็จะมองหาอาหารเสริมที่ช่วยเรื่องผิวพรรณเป็นอันดับหนึ่ง แต่ถ้าเป็นความต้องการในการเสริมภูมิคุ้มกันหรือมีปัญหานอนไม่หลับ กลุ่มเป้าหมายก็จะขยับขึ้นไปอีกหน่อยประมาณ 40 ปีขึ้นไป บางทีก็จะมีลูกๆ ซื้อของตัวเองแล้วซื้อเผื่อคุณพ่อคุณแม่ด้วยก็มีค่ะ ซึ่งในช่วงเปิดตัวตอนแรกเราเจาะกลุ่มที่เป็นคนเมือง แต่ตอนนี้เริ่มมีการขยายฐานให้กว้างกว่าเดิมเพื่อรองรับคนทุกกลุ่ม 

สำรวจเป้าหมายใหม่จากวิสัยทัศน์ของโคซีอีโอรุ่นใหม่ 

กวินวัชร์: เรามีเป้าหมายว่าอีก 3 ปีอยากให้ Dii  Supplements เป็นวิตามินที่มีอยู่ในทุกบ้านครับ เพราะจริงๆ ก่อนเริ่มต้นสร้างแบรนด์มันก็เป็นอย่างที่พี่ตี๋กับพี่ตงบอกเราอย่างหนึ่งว่าทางพี่ๆ เขามีข้อมูลจำนวนมาก เนื่องจากแบรนด์ของพี่ๆ มีการดูแลลูกค้ามาหลายหมื่นคน จากประสบการณ์ 20 ปีที่ผ่านมาทำให้รู้ว่าเมื่อคุณหมอได้คุยกับลูกค้าแต่ละคน รู้ว่าคนไข้แต่ละคนมีปัญหาตรงไหน ควรจะแก้ตรงไหนให้คนไข้เกิดความพึงพอใจที่สุด ดังนั้น Supplement ของเราจึงมีคอนเซปต์ที่ถอดมาจากโปรแกรมทรีตเมนต์ต่างๆ ที่มีอยู่ในคลินิก มาผลิตเป็นวิตามินที่แก้ปัญหาของแต่ละคน ทำให้พวกเขารู้สึกเหมือนมีคุณหมอตามไปดูแลที่บ้าน เราก็เลยเรียกว่า Wellness Kit at Home ถ้าเป็น Kit at Home ก็จะไม่ได้มีแค่วิตามินตัวเดียว เราจะมีการจัดวิตามินหลายชุด เพราะว่าแต่ละคนมีความต้องการที่แตกต่างกัน เช่น ถ้าเขาเป็นสิว แต่สิวที่เป็นเกิดจากพฤติกรรมนอนไม่หลับ เขาก็จะต้องกิน Combo C คู่กับ No.9 นอกจากจะรักษาสิวแล้วยังช่วยแก้พฤติกรรมที่เป็นสาเหตุหลักของการเกิดสิวด้วย ซึ่งตัว No.9 จะช่วยให้เขานอนหลับดีขึ้น หลับสนิทมากขึ้น หรือถ้าบางคนเป็นสิวผดที่เกิดจากการใส่หน้ากากอนามัยในช่วงนี้ก็จะมีตัว No.4 ที่แก้สิว จับคู่กับ No.6 ที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันและลดผดผื่น ซึ่งชุด Kit at Home ของเราจึงเป็นทั้งการรักษาและป้องกันไปในตัว 

เตรียมจับตาผลิตภัณฑ์ไฮไลต์ของแบรนด์ที่ชื่อว่า No.1 

อนุชิต: ผลิตภัณฑ์ที่จะเป็น No.1 ของ Dii Supplements เราวางแผนจะวางจำหน่ายเดือนมกราคมปีหน้า ตอนนี้อยู่ในช่วงพัฒนาสินค้า เช่น การปรับรสชาติของสินค้า เพราะส่วนผสมบางตัวทำยากมาก เนื่องจากมีรสชาติขม มันไม่น่ากิน แต่ด้วยคุณสมบัติของมันที่ดีมากๆ ทำให้ต้องหาสัดส่วนที่เหมาะสมและพัฒนารสชาติที่ลงตัว เพื่อจะปรับให้กินได้ง่ายขึ้น อยากให้รอติดตามครับ 

สำรวจจุดแข็งของ Dii Supplements 

หทัยรัตน์: คุณหมอต๋อง (นพ.อมรศิษฐ์ พานศิลป์ ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณและเวชศาสตร์ชะลอวัย) ที่เป็นพาร์ตเนอร์กันบอกว่า แบรนด์วิตามินไม่ใช่ว่าใครจะสามารถทำขึ้นมาก็ได้ เพราะแบ็กกราวด์ของคนที่อยากจะมาเดินในวงการวิตามินเขาจะต้องมีความเชี่ยวชาญมาก่อน ซึ่งทางเรามองว่า Dii สามารถพรีเซนต์ความเป็นผู้เชี่ยวชาญได้ดี จุดเด่นคือทีม R&D ของเราเป็นทั้งหมอ ผู้เชี่ยวชาญ และเภสัชกร และเราใช้ข้อมูลของลูกค้าที่คุณหมอสั่งสมประสบการณ์มาเรื่อยๆ เอามาพัฒนาเป็นสินค้า และข้อต่อมาคือเรื่องของการศึกษาและให้ความรู้ออกไป เราใช้ฐานข้อมูลที่ผ่านการรีเสิร์ชเสมอ ไม่ใช่ว่าอยากจะสื่อสารอะไรออกไปก็ได้ แต่ Dii จะเน้นสื่อสารจากข้อเท็จจริงที่มีบทพิสูจน์และผ่านการรับรองมาแล้ว ซึ่งรุ้งมองว่าการที่เราสื่อสารด้วยหลักการนี้มันเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคของเราในระยะยาว ยิ่งถ้าเราสื่อสารแบบนี้ออกไปเรื่อยๆ สุดท้ายแล้วเขาก็จะเชื่อมั่นทั้งในผลิตภัณฑ์และแบรนด์ของเรา 

คอนเทนต์ที่โดนใจต้องจับกระแสความสนใจให้ทันและไม่หยุดนิ่ง 

หทัยรัตน์: ทุกคอนเทนต์ที่เราทำออกมา เราดูจากพฤติกรรมพื้นฐานของลูกค้าเราเป็นหลัก คือเวลาเราจะทำสื่อ Dii Supplements สักตัว เราจะไม่เทียบกับแบรนด์ที่เป็น Supplement ด้วยกันเอง แต่เราจะไปดูว่าลูกค้าของเราชอบเสพสื่อแนวไหน อย่างถ้าเป็น Beauty Hacks เขาชอบภาพแนวไหน เราจะเอาตรงนั้นมาครีเอตเป็นคอนเทนต์ที่เข้าใจง่ายที่สุด ใช้ภาษาที่ง่ายที่สุด ซึ่งถ้าสื่อหนึ่งทำออกมาประสบความสำเร็จแล้ว ในอนาคตสื่อนั้นจะไม่ประสบความสำเร็จซ้ำ เพราะทุกวันนี้โลกดิจิทัลหมุนเร็วมาก ในทุกๆ สัปดาห์ น้องๆ ในทีมการตลาดของเราจะต้องหาสื่อใหม่ๆ และปรับกันไปตลอด เราจะเปลี่ยนและหมุนไปตลอดเวลา

กวินวัชร์: ซึ่งคอนเทนต์ของเราจะต้องออกมาจากฝั่ง R&D ตลอด พนักงานของเราจะมีทักษะที่หลากหลายมากๆ ทำได้ทั้ง R&D ทำมาร์เก็ตติ้งได้ และครีเอตคอนเทนต์ได้ด้วย อย่างบางสื่อที่เราเห็นลูกค้าติดแฮชแท็กหรือกดเซฟเยอะๆ ในอินสตาแกรม ทางเภสัชกรหรือพี่ชีคของเราก็เป็นคนทำเอง 

อนุชิต: เพราะว่าตอนเราทำสูตรของ Supplement แต่ละตัวออกมา เราจะรู้ที่มาของมันว่าทำไมต้องเป็นสารนี้ ทำไมต้องใช้ปริมาณเท่านี้ เราเอามาสื่อสารให้กับลูกค้าเหมือนกับที่เราเข้าใจ ลูกค้าก็จะเก็ตง่ายขึ้น

เมื่อ Supplement ถูกมองเป็นแพลตฟอร์ม 

พัฒนพงศ์: เรามองตัว Supplement เป็นแพลตฟอร์ม เพราะฉะนั้นแพลตฟอร์มตัวนี้มันจะสามารถสื่อสารและทำความเข้าใจกับลูกค้าได้โดยใช้ข้อมูลของลูกค้า ซึ่งเราเชื่อมต่อเข้ากับแอปพลิเคชันต่างๆ ซึ่งตัวนี้เราน่าจะเปิดตัวกันประมาณไตรมาส 3 ของปีหน้า เราใช้คอนเซปต์ของการทำ Subscribe เราเชื่อว่าสำหรับเรื่องวิตามิน คนมีงบกันอยู่แล้ว ดังนั้นถ้าเราสามารถทำวิตามินที่ดีพอและตรงตามความต้องการของลูกค้า เหมือนกับที่เพชรบอกว่าเขาตั้งเป้าอีก 3 ปีจะให้ Dii Supplements เป็นวิตามินที่มีอยู่ในทุกบ้าน มันต้องเป็น Supplement Kit ในทุกบ้านให้ได้ เพราะฉะนั้นที่เราทำ เรากำลังทำ Supplement for Everybody ซึ่งสิ่งนี้เรากำลังทำอยู่ เรารอเทคโนโลยีบางอย่างให้มันเชื่อมต่อ แต่มายด์เซ็ตในการคิดเรื่องแพลตฟอร์ม เราวางไว้ค่อนข้างจะเห็นภาพเดียวกันที่ชัดขึ้นแล้ว มันเหลือแค่การรอเชื่อมต่อหลายสิ่งเข้าด้วยกัน ผมอยากให้มันง่าย เราคิดกระทั่งว่าในหนึ่งวันเราจะสามารถมีแพ็กอาหารเสริมของตัวเองในการกิน โดยที่เราจัดให้ 30 วันอาจจะมี Cheat Day สัปดาห์ละ 1 วันที่เราไม่ต้องกินก็ได้ เพราะของเราเป็น Supplement กินเข้าไปมันก็ระบายออกง่าย หลักของเราจึงเป็นเรื่องการใช้นวัตกรรมผสานกับธรรมชาติ และมีการใช้ Asian Wisdom กับ Oriental Wisdom ในการผสมผสานและปรุง Supplement ออกมาให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า และเราเป็นบริษัทระดับเวิลด์คลาสที่ไม่หยุดนิ่ง เราวางแผนกำลังจะวางจำหน่าย Supplement อีก 7 ประเทศในเอเชียเร็วๆ นี้ น่าจะได้เห็นปีหน้า 

ธุรกิจที่ดีคือธุรกิจที่หวังดีต่อผู้บริโภค 

พัฒนพงศ์: ในไทยมีการขยายตัวอย่างรวดเร็วในกลุ่มคนเมือง ผมมองว่าเขามีกลุ่มลูกค้าที่ชัดเจนแล้ว ตอนนี้ผมชอบไอเดียของน้องๆ มากตรงที่เขาเห็นฟีดแบ็กในทวิตเตอร์ มีเด็กวัยรุ่นรีทวีตเยอะมาก เขาก็มาบอกผมว่า พี่ๆ ครับ ผมว่าเราทำวิตามินให้มันราคาถูกลงได้กว่านี้ไหม ในขณะที่ยังเก็บคุณค่า ความปลอดภัย และมาตรฐานเอาไว้ ซึ่งทำให้น้องๆ ที่ช่วยเรารีทวีตสามารถเข้าถึงวิตามินของเราได้จริงๆ อันนี้ก็เป็นความชื่นชมของผมว่าเราสามารถเตรียมตัวเพื่อทำให้คนสุขภาพดี อย่างคนเป็นสิวส่วนใหญ่จะเป็นช่วงเปลี่ยนฮอร์โมน ถ้าเราเข้าไปช่วยเหลือได้และทำให้เขาจ่ายในราคาที่ไม่แพง แนวคิดนี้ผมฟังแล้วก็รู้สึกชื่นชม ดีใจ และให้การสนับสนุน

แนะนำ Botania อีกหนึ่งโปรเจกต์ใหม่ที่ใกล้เปิดตัว 

ธเนศ: เรากำลังจะมีตัวหนึ่งออกมาอีกคือตัวสมุนไพรที่จะทำให้จับต้องได้ง่ายขึ้น อย่างที่บอกคือมันจะเป็นไปตามวิสัยทัศน์ภาพใหญ่ของเราเลย คือเราต้องการจะทำเรื่องสุขภาพและความสุขให้เข้าถึงคนได้ในทุกเจเนอเรชัน ในแต่ละมิติ เราเริ่มต้นจากปัญหา แล้วพอเราได้โซลูชันมา เราก็เอาตัวผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ในแต่ละโซลูชันให้เข้าถึงคนแต่ละกลุ่มได้ง่าย อย่างโปรเจกต์ล่าสุดจะมีชื่อว่า Botania 

อนุชิต: สำหรับโปรเจกต์  Botania เราจะนำเรื่องของสมุนไพรซึ่งเป็นตำรับยาโบราณมาปรับเพื่อกลุ่มลูกค้า Plant-based หรือว่าคนที่ไม่เคยสนใจด้านสมุนไพรมาจับต้องได้ ให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่เน้นช่วยเรื่องสุขภาพจริงๆ ผลิตภัณฑ์ที่จะออกมาก็มีทั้งตัวที่ให้ไฟเบอร์เยอะ และมีตัวที่ให้วิตามินซีเยอะ ก็จะช่วยปรับสมดุลร่างกาย ระบบขับถ่าย ผิวพรรณ รวมถึงด้านสายตา  

ธเนศ: อย่างเวลาเราไปร้านขายยาหรือไปเดินในเซเว่น ง่ายๆ เลย เวลาเราท้องผูกหรือร้อนใน เราก็จะไปกินยาลูกกลอนที่เป็นสมุนไพรซึ่งเราคุ้นเคยกันมานานตั้งแต่รุ่นพ่อรุ่นแม่ เวลาท้องผูกก็ต้องกินยาแบบนี้ เวลาท้องเสียหรือไม่สบายมันก็จะมีสมุนไพรที่เรากินเป็นประจำ สิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านี้เราก็จะมี Botania ที่เอาสมุนไพรไทยเข้ามาช่วยในการแก้ปัญหาประจำวันของคนเราให้เข้าถึงและจับต้องได้ง่ายขึ้น อันนี้เราก็พัฒนาต่อจากความกังวลที่บางทียาที่เรากินเป็นประจำ เราไม่แน่ใจว่ามันมีสารตกค้างอะไรหรือเปล่า หรือบางทีสมุนไพรที่เราซื้อกินตามร้านขายยาหรือร้านแพทย์แผนโบราณต่างๆ ไม่แน่ใจว่ามันสามารถช่วยได้เต็มที่หรือน่าเชื่อถือขนาดไหน เราก็นำเอาปัญหาตรงนี้มาเพิ่มคุณค่าให้เข้าถึงง่ายขึ้นในราคาที่ไม่แพง ซึ่งมันจะตอบโจทย์คนทุกเพศทุกวัย อีกหน่อยถ้าเรามีแพลตฟอร์ม มันจะยิ่งเป็นตัวช่วยให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่สามารถทำได้ทั้ง DIY เขาสามารถทำเองได้ในเรื่องของการตรวจสอบตัวเอง, Deep Solution ต่อไปเทคโนโลยีต่างๆ มันจะสามารถตอบโจทย์ปัฐหาของคนได้ลึก ช่วยแก้ปัญหาในเชิงลึกถึงต้นตอ และ Dynamic การปรับไปตามเจเนอเรชันของลูกค้าในวัยต่างๆ ได้อย่างตรงจุดกับความต้องการ เรียกว่านี่เป็นจุดแข็งของ Supplement ที่เราสามารถสร้างผลิตภัณฑ์ที่เข้าถึงคนได้อย่างถูกกลุ่ม และทำให้เขาสามารถใช้ได้อย่างสะดวก ง่ายดาย และที่สำคัญคือมันเห็นผลอย่างชัดเจน ต่อไปพอ Supplement เราแข็งแรงมากๆ มันอาจจะเป็นอะไรมากกว่านั้น เช่น อาหารเสริมที่มาจากธรรมชาติ ซึ่งคำว่าอาหารเสริมมันไม่จำเป็นว่าต้องมาจากการกินอย่างเดียว มันสามารถเสริมได้ในทุกๆ มิติ และสุดท้ายมันเสริมได้แม้กระทั่งเรื่องของ Experience หรือเอามาทำเป็น Life Platform ซึ่งเป็นแผนในอนาคตที่เราจะนำเสนอต่อไป 

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์