วันนี้ (2 กันยายน) ที่พรรคประชาธิปัตย์ ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือ P-Move เดินทางมายื่นข้อเสนอเรื่องการบริหารจัดการทรัพยากรที่เป็นธรรม สิทธิของประชาชนในทรัพยากรธรรมชาติ ‘ดิน น้ำ ป่า’ รวมถึงเรื่องสิทธิชุมชน ต่อพรรคประชาธิปัตย์ โดยมี นริศ ขำนุรักษ์ รองหัวหน้าพรรค พร้อมด้วย รัชฎาภรณ์ แก้วสนิท ร่วมกันรับเรื่องดังกล่าวเพื่อเสนอต่อ เฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
สำหรับข้อเสนอที่กลุ่ม P-Move ยื่นให้พรรคในครั้งนี้ เพราะเห็นว่าเป็นภารกิจที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประกอบด้วย การยกเลิกนโยบายทวงคืนผืนป่าอันเกิดจากแผนแม่บทแก้ไขปัญหาการทำลายทรัพยากรป่าไม้ การบุกรุกที่ดินของรัฐ และการจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน การขอให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2541 และทบทวนมติ ครม. เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2561 เรื่อง มาตรการและแนวทางการแก้ไขปัญหาชุมชนในพื้นที่ป่าไม้ทุกประเภท การทบทวนแผนการเพิ่มพื้นที่ป่า 40% โดยบังคับให้ราษฎรต้องสูญเสียที่ดินตามนโยบายดังกล่าว และทบทวนกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
นริศกล่าวว่า ขอบคุณกลุ่ม P-Move ที่เห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นอีกช่องทางที่สามารถมายื่นข้อเสนอ และเห็นว่าพรรคยังเป็นที่พึ่งในการแก้ไขปัญหาได้ ในขณะนี้บุคลากรของพรรคยังไม่ได้ดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรี จึงต้องรอขั้นตอนโปรดเกล้าฯ ให้เรียบร้อยก่อน ดังนั้นการรับข้อเสนอในวันนี้ถือเป็นการรับฟังข้อเรียกร้อง ซึ่งตนจะนำไปเรียน เฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรค และนำไปจัดทำเป็นยุทธศาสตร์พรรคต่อไป อีกทั้งข้อเสนอที่กลุ่ม P-Move มายื่นในวันนี้ ตนก็เห็นว่าเป็นข้อเสนอที่ดี หากเราได้ดูแลกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ก็จะนำเรื่องที่เสนอในวันนี้ไปดำเนินการให้ได้มากที่สุด
นริศยังกล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาจากการที่ตนมีประสบการณ์เป็นประธานคณะกรรมาธิการที่ดินและสิ่งแวดล้อม ก็ได้รับข้อเสนอหลายข้อเสนอ และส่วนใหญ่เป็นข้อเสนอที่เป็นประโยชน์ อย่างเช่นโฉนดชุมชนก็เป็นนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งหากสามารถทำให้ครอบคลุมได้ 1 ล้านครัวเรือน จะทำให้คนที่อยู่ในชุมชนอยู่อย่างมีเสถียรภาพได้ และยังมองเห็นว่าการจัดทำแนวเขตที่ดินควรทำให้จบสิ้นภายใน 4 ปี
เนื่องจากเมื่อแนวเขตป่าไม่จบ เรื่องอื่นๆ ก็ไม่สามารถจบได้ ส่วนสมัยที่ตนเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยก็ลงพื้นที่เพื่อมอบโฉนดตามโครงการมอบโฉนดที่ดินทั่วไทย ซึ่งดำเนินการไปได้หลายจังหวัด โดยพิจารณาจาก 2 เงื่อนไข คือ เรื่องการครอบครองโดยชอบ และมีการทำกินในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง