ในช่วงเกือบหนึ่งเดือนที่ผ่านมา พรรครีพับลิกันได้จัดการเลือกตั้งขั้นต้นไปแล้วสองมลรัฐ คือที่มลรัฐไอโอวาและนิวแฮมป์เชียร์ ซึ่ง โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดี สามารถเอาชนะคู่แข่งคนสำคัญอย่าง รอน ดีแซนทิส และนิกกี เฮลีย์ ไปได้อย่างเด็ดขาดทั้งสองสนาม
อย่างไรก็ดี การที่ทรัมป์จะได้เป็นตัวแทนพรรคอย่างเป็นทางการนั้น เขาจะต้องชนะการเลือกตั้งในที่ประชุมใหญ่ของพรรครีพับลิกัน (National Convention) ซึ่งจะจัดขึ้นที่เมืองมิลวอกี มลรัฐวิสคอนซิน ในเดือนกรกฎาคม โดยที่เขาจะต้องรวบรวมเสียงของคณะผู้แทนเลือกตั้งจากแต่ละมลรัฐหรือ Delegate ให้ได้เกินกึ่งหนึ่งของ Delegate ทั้งหมด
คณะผู้แทนเลือกตั้งจากมลรัฐคืออะไร
ในระบบการคัดสรรผู้ที่จะเป็นตัวแทนของพรรคเพื่อลงชิงชัยในการเลือกตั้งประธานาธิบดีของทั้งพรรครีพับลิกันและเดโมแครตนั้น ทุกมลรัฐจะมีสิทธิมีเสียงในกระบวนการนี้ กล่าวคือแต่ละมลรัฐจะส่งผู้แทนเลือกตั้งหรือ Delegate มาประชุมในที่ประชุมใหญ่ของพรรค เพื่อโหวตกันว่านักการเมืองคนไหนจะได้คะแนนสูงสุด และได้เป็นผู้แทนพรรคลงชิงชัยในตำแหน่งประธานาธิบดีในเดือนพฤศจิกายน โดยที่จำนวน Delegate จะแปรผันตามจำนวนประชากรในแต่ละมลรัฐ รวมถึงว่ามลรัฐนั้นๆ ภักดีและลงคะแนนเสียงให้กับพรรคในการเลือกตั้งทั่วไปมากขนาดไหน
แต่เดิมนั้นระบบการเลือกตั้งในที่ประชุมใหญ่ไม่ได้มีความเป็นประชาธิปไตยเหมือนทุกวันนี้ กล่าวคือการเลือกผู้แทนเลือกตั้งหรือ Delegate นั้นก็เป็นหน้าที่ของบรรดานักการเมืองและผู้มีอิทธิพลของพรรคในแต่ละมลรัฐ ซึ่งก็แน่นอนว่าการที่ Delegate จะลงคะแนนให้กับใครมักจะขึ้นอยู่กับการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ซึ่งกันและกัน ซึ่งถึงแม้ว่าในตอนนั้นจะมีการเลือกตั้งขั้นต้นในบางมลรัฐแล้ว แต่ผลการเลือกตั้งก็ไม่ได้มีความหมายในทางปฏิบัติแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม ภายหลังการปฏิรูประบบการเลือกตั้งขั้นต้นในปี 1972 ระบบการคัดสรรผู้ที่จะเป็นตัวแทนของพรรคเพื่อลงชิงชัยในการเลือกตั้งประธานาธิบดีก็มีความเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น เพราะ Delegate จากแต่มลรัฐถูกกำหนดว่าจะต้องโหวตตามผลการเลือกตั้งขั้นต้น โดยที่บางมลรัฐใช้ระบบสัดส่วน เช่น ที่นิวแฮมป์เชียร์ทรัมป์ได้จำนวนผู้แทนไป 12 คน เพราะเขาได้คะแนนเสียง 54% ในขณะที่เฮลีย์ได้ไป 9 คน เพราะเธอได้คะแนนเสียงไป 43% แต่บางมลรัฐหลังจากนี้ก็ใช้ระบบ Winner-Take-All โดยที่ผู้ชนะจะได้ Delegate ทั้งหมดไปเลย
1215 คือ Magic Number
ในการเลือกตั้งขั้นต้นปีนี้ จำนวน Delegate ทั้งหมดที่พรรครีพับลิกันมีคือ 2,429 เสียง ดังนั้นผู้ที่จะก้าวมาเป็นผู้แทนพรรคได้จะต้องชนะการเลือกตั้งขั้นต้น และกวาดคะแนนได้อย่างน้อย 1,215 เสียง
ซึ่ง ณ ปัจจุบัน หลังจากผ่านไปสองสนาม ทรัมป์นั้นมีคะแนนนำเฮลีย์ด้วยจำนวนผู้แทนอยู่ที่ 32 ต่อ 17 ซึ่งสนามที่สำคัญมากต่อไปคือสนาม Super Tuesday ในเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ ซึ่งมี 15 มลรัฐจัดเลือกตั้งพร้อมกัน และมีจำนวน Delegate ให้ชิงชัยถึงเกือบ 900 เสียง ที่สำคัญหลายๆ มลรัฐใน Super Tuesday ใช้ระบบ Winner-Take-All ซึ่งก็แปลว่าทรัมป์อาจคว้าคะแนนถล่มทลายจนได้ Delegate เกือบถึงเป้าหมายที่ 1,215 เสียง และเฮลีย์อาจตัดสินใจขอยอมแพ้ในวันนั้นก็เป็นได้
เกาะติด การเลือกตั้งสหรัฐ 2024 ได้ที่ เว็บไซต์พิเศษ : เลือกตั้งสหรัฐฯ 2024 และ Facebook : THE STANDARD
ภาพ: Anna Moneymaker / Getty Images