เครดิตบูโรเปิดเผยข้อมูล 7 เดือนแรกของปีนี้ พบคนกู้สินเชื่อ Nano Finance ที่มีดอกเบี้ยสูงเพิ่มขึ้นถึง 4.7% ในเดือนเดียว สะท้อนว่าคนยังขาดสภาพคล่อง ขณะที่หนี้ใกล้เสียหรือ SM (ที่ค้างชำระ 1-3 เดือน) เพิ่มขึ้นก้าวกระโดดถึง 34.5%MoM
วันนี้ (19 กันยายน) สุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (เครดิตบูโร) ระบุผ่าน Facebook ว่า จากฐานข้อมูลสถิติที่ไม่มีตัวตน (No Privacy) ของเครดิตบูโร แสดงให้เห็นว่า 7 เดือนแรกของปีนี้ พบหนี้ครัวเรือนไทยทรงตัวแทบไม่เปลี่ยนจากเดือนมิถุนายน อยู่ที่ 13.6 ล้านล้านบาท เหตุสินเชื่อหลายประเภทลดลงหรือทรงตัว ท่ามกลางภาวะที่สถาบันการเงินส่วนใหญ่เข้มงวดมาตรฐานการให้สินเชื่อ อย่างไรก็ตาม สินเชื่อ Nano Finance ที่มีดอกเบี้ยสูงกลับเพิ่มขึ้นถึง 4.7%
สุรพลกล่าวอีกว่า จากข้อมูลล่าสุดเดือนกรกฎาคม 2567 สะท้อนว่า บรรดาลูกหนี้ยังอยู่ในสภาพมีหลุมรายได้และภูเขาหนี้ ดังนี้
- ตัวเลขหนี้ครัวเรือนในฐานข้อมูลสถิติเครดิตบูโรเท่ากับ 13.6 ล้านล้านบาท แทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเดือนมิถุนายน 2567 โดยที่พอจะเพิ่มได้บ้างคือ Nano Finance +4.7%MoM
- NPL ขยับเพิ่มจาก 1.16 ล้านล้านบาท มาเป็น 1.19 ล้านล้านบาท คิดเป็น 8.7% ของหนี้รวม ซึ่งเคยประมาณการณ์ว่าคงจะไปถึง 1.2 ล้านล้านบาท ไม่ช้าไม่นาน กล่าวคือไหลต่อ แต่คงไม่ไหลบ่าแบบน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำโคลนถึงหลังคา
- SM เที่ยวนี้ที่น่าสนใจ กล่าวคือเดือนมิถุนายน 2567 ปรับลดลงมาจากไตรมาสก่อนอย่างมากจนเหลือ 5 แสนล้านบาท แต่ผ่านไป 1 เดือน เข้าเดือนกรกฎาคม กลับกระโดดมาเป็น 6.7 แสนล้านบาท เพิ่ม 1.7 แสนล้านบาท ดูจากตารางจะพบว่า
สินเชื่อบ้านเพิ่มจาก 1.43 แสนล้านบาทเป็น 1.69 แสนล้านบาท โตขึ้น 18%MoM สินเชื่อส่วนบุคคลเพิ่มจาก 8.5 หมื่นล้านบาท เป็น 1.13 แสนล้านบาท โตขึ้น 33%MoM สินเชื่อธุรกิจที่คนตัวเล็กกู้ (Commercial Loan) จาก 2.6 หมื่นล้านบาท มาเป็น 4.4 หมื่นล้านบาท โตขึ้น 69%MoM ขณะที่สินเชื่อรถยนต์ บัตรเครดิต นิ่งๆ กับลดลง
ทั้งนี้ หนี้กำลังจะเสีย (Special Mentioned: SM) หมายถึงหนี้ที่ค้างชำระ 31-90 วัน ขณะที่หนี้เสีย (Non-Performing Loan: NPL) คือหนี้ที่ค้างชำระเกิน 90 วัน
สุรพลกล่าวอีกว่า สงครามการสู้รบระหว่างหนี้ปกติไหลมาเป็นหนี้กำลังจะเสีย หนี้กล่าวถึงเป็นพิเศษหรือหนี้ SM โดยมีอาวุธคือการปรับโครงสร้างหนี้เชิงป้องกัน Preemptive Debt Restructure หรือที่เรียกว่า DR ภายใต้มาตรการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรมหรือ RL มีความเข้มข้นมากในเวลานี้ และจะเพิ่มมากขึ้นแน่ๆ จนถึงสิ้นปีแน่นอน
“แต่เอ๊ะ ตัวเลขของหนี้เรื้อรัง หนี้เรื้อรังรุนแรง ที่เข้ามาตรการช่วยเหลือ อันเป็นเรือธงของการสู้รบตอนนี้ไปได้เท่าไรแล้ว เพราะ P-Loan แบบหมุนเวียนของลูกหนี้รายได้น้อยที่มีลักษณะจ่ายดอกสะสมมาในอดีตที่มากกว่าจ่ายเข้าต้นนั้นก็เป็นส่วนหนึ่งของ P-Loan ที่มีการไหลมาเป็น SM เพิ่มอย่างมีนัยสำคัญในเดือนกรกฎาคมนี้
“ความโปร่งใสในตัวเลขจะสร้างความเชื่อถือเชื่อมั่นให้กับเรือธงนะครับ ความจริงมันไม่เซาะกร่อนบ่อนทำลายอะไรเลย ฝากท่านผู้ดำเนินรายการช่วยขานไขนะครับ
“กราบเรียนมาด้วยความสุจริตใจเป็นที่ตั้ง ขัดเคืองใจก็อย่าใช้อำนาจเป็นธรรมนะครับ…มันบาป” สุรพลกล่าว