×

Gary Oldman กับบทบาทที่ยากที่สุดในชีวิตการแสดงเรื่อง Darkest Hour

02.03.2018
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

3 Mins. Read
  • แกรี โอลด์แมน เคยมีชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์เพียงแค่ 2 ครั้งเท่านั้น ครั้งแรกที่เขาเข้าชิงคือในปี 2012 สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม จากบท จอร์จ สไมลีย์ เรื่อง Tinker Tailor Soldier Spy และครั้งที่สองคือในปีนี้ สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม กับบท วินสตัน เชอร์ชิล จากเรื่อง Darkest Hour

ระหว่างการถ่ายทำภาพยนตร์ Darkest Hour ทุกวันจะมีรถตู้มาจอดรอตอน 1.45 น. มารับแกรี โอลด์แมน ไปกองถ่ายเพื่อไปนั่งแปลงโฉมอีกเกือบ 4 ชั่วโมง แต่งตัวอีก 45 นาที ไม่กินไม่นอนอยู่ภายใต้ร่างนั้นวันละ 12 ชั่วโมง โดยมีเวลาส่วนตัวหลังเลิกกองแค่วันละ 7 ชั่วโมง!

 

คุณคิดว่านักแสดงที่เคารพในหน้าที่การทำงานของตัวเองต้องตั้งใจขนาดไหนในการรับบทเป็นใครสักคน และที่แน่ๆ นักแสดงหลายคนทีเดียวที่ทุ่มสุดชีวิตเพื่อโอกาสที่ได้รับ เพื่อทำให้คนดูทั่วโลกได้เห็นว่าความสามารถของมนุษย์คนหนึ่งอาจไม่มีขีดจำกัด

 

 

ดารามากฝีมืออย่าง แกรี โอลด์แมน รับบท วินสตัน เชอร์ชิล นายกรัฐมนตรีของอังกฤษในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ตัวละครหลักในหนัง Darkest Hour บทที่เจ้าตัวยอมรับว่าเป็นงานที่ยากที่สุดในชีวิตนักแสดง

 

ความตั้งใจของเขาไม่เพียงได้เสียงตอบรับในแง่คำวิจารณ์จากสื่อและผู้ชม มันยังได้ส่งให้เขาชนะรางวัลลูกโลกทองคำตัวแรกในสาขาดารานำชายยอดเยี่ยม ภาพยนตร์ดราม่า และทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในตัวเต็งรางวัลดารานำชายออสการ์ในปีนี้ แต่กว่าจะมาเป็นวินสตัน เชอร์ชิล เขาต้องผ่านการแปลงโฉมหลายชั่วโมง รวมทั้งการฝึกซ้อม เลียนแบบทั้งกิริยาท่าทางและน้ำเสียงของวินสตัน ทำทุกอย่างให้เข้าที่เพื่อช่วงเวลาการถ่ายทำเพียง 50 วัน!

 

 

แกรีทุ่มเทกับการแสดงครั้งนี้มาก เมื่อเขารู้ว่าตัวเองจะต้องรับบทบุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์ เขาเคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า “อย่างแรกเลย คุณต้องรู้ว่าคุณกำลังรับบทเป็นใคร เรามีเวลาฝึกฝนหนักๆ แค่ 4 สัปดาห์ก่อนการถ่ายทำ กับช่วงเวลาการถ่ายทำ 50 วัน คุณต้องยอมตื่นขึ้นมาในทุกๆ เช้าเพื่อโกนผม ทำกิจวัตรต่างๆ เพื่อเป็นตัวละคร แต่ก่อนที่สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้น ผมต้องฝึกซ้อมอยู่คนเดียว ผมเรียกมันว่าการแสดงในห้องครัว ผมใช้เคาน์เตอร์ครัวเป็นที่วางบท เพราะมันสูงกว่าโต๊ะตัวอื่น ผมก้มไปอ่านบท เดินอ่านไปรอบๆ บ้าน ผมกำลังมองหาความรู้สึก พยายามหาเสียงที่เข้ากับตัวละครวินสตัน”

 

ระหว่างการถ่ายทำทุกๆ วัน เวลา 1.45 น. ทางทีมงานจะส่งรถมารับแกรีไปเพื่อเริ่มแต่งหน้า เขาแทบไม่ได้กินหรือนอนในกองถ่ายเลยเพื่อที่จะให้ซิลิโคนและการแต่งหน้ายังดูเหมือนใหม่ โดยซิลิโคนที่ใช้แต่งให้เขากลายเป็นวินสตันนั้นมีความบอบบางมาก แต่ละชิ้นอยู่ได้ไม่เกิน 10 วัน หลังจาก 10 วันไปแล้วมันต้องถูกแทนที่ด้วยอันใหม่ แกรีต้องใช้เวลาแปลงโฉมราว 4 ชั่วโมงทุกๆ เช้าเพื่อให้แน่ใจว่าเครื่องมือที่ติดบนใบหน้าเขาจะไม่หลุด แต่ละวันใช้เวลา 12 ชั่วโมงในการถ่ายทำ และต้องใช้เวลา 1-2 ชั่วโมงเพื่อลบเครื่องสำอาง รวมทั้งเอาซิลิโคนออกหลังจากเลิกกองแล้ว

 

แกรีให้สัมภาษณ์ไว้ว่านี่เป็นการแสดงที่ยากที่สุดในฐานะนักแสดง แต่เป็นความยากที่สนุก เพราะการที่มองเข้าไปในกระจกและเห็นตัวเองกลายเป็นวินสตัน มันทำให้เขาเห็นถึงจิตวิญญาณของตัวละครนี้ เป็นเพราะทุกคนที่มีส่วนร่วมทำให้มันกลายเป็นจริง ทั้งการแต่งหน้าและเครื่องแต่งกาย นอกจากนี้เขายังจำบทของตัวละครได้แม่นยำขนาดที่ว่า ถ้าผู้กำกับ โจ ไรต์ เปลี่ยนฉากแสดง เขาจะนึกถึงบทในฉากนั้นๆ ได้ทันที

 

Photo: www.local706.org

 

พูดถึงชื่อ แกรี โอลด์แมน นักแสดงวัย 59 ปีคนนี้ ฝีมือการแสดงของเขามีความหลากหลายและเรียกได้ว่ามีสไตล์การแสดงที่ไม่ธรรมดา เขาเริ่มอาชีพนักแสดงเมื่อปี 1979 ประสบความสำเร็จจากการเล่นละครเวทีหลายเรื่อง เช่น The Massacre at Paris (1980), Saved (1983) และ Hamlet (1987) หลังจากนั้นจึงเข้าสู่การเล่นหนังบนจอภาพยนตร์ โดยในยุค 1990 เขาเล่นเป็นตัวละครหลากหลายแนวทั้ง ลี ฮาร์วีย์ ออสวอลด์ ในเรื่อง JFK (1991) และเป็น เคานต์แดรกคูลา ในเรื่อง Bram Stoker’s Dracula (1992) หรือที่รู้จักกันดีกับการรับบทเป็น ซิเรียส แบล็ก ในภาพยนตร์มหากาพย์ Harry Potter

 

แต่เชื่อหรือไม่ว่าดาราความสามารถล้นอย่างแกรีเคยมีชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์เพียงแค่ 2 ครั้งเท่านั้น ครั้งแรกที่เขาเข้าชิงคือในปี 2012 สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม จากบท จอร์จ สไมลีย์ เรื่อง Tinker Tailor Soldier Spy และครั้งที่สองคือในปีนี้ สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม กับบท วินสตัน เชอร์ชิล จากเรื่อง Darkest Hour นอกจากนี้แกรียังเคยชนะรางวัลจากเวทีอื่นมาแล้วมากมาย เขาเป็นเจ้าของรางวัล BAFTA 3 ตัว, รางวัล Empire Awards 3 ตัว, รางวัล London Film Critics’ Circle 2 ตัว และรางวัลลูกโลกทองคำ 1 ตัว

 

 

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising