“5 ปีก่อน ผมส่งอีเมลมากกว่า 2,000 ฉบับไปถึงสถาบันศิลปะทั่วโลก บอกว่าผมกำลังสร้างหนังไซไฟฟอร์มยักษ์ และขอให้พวกเขาออกแบบเอเลี่ยนหนึ่งสายพันธ์ุ ยานอวกาศหนึ่งลำ และดวงดาวอีกหนึ่งดวง มีคนส่งอีเมลกลับมากว่า 2,000 คน ผมเลือกมา 12 คน และจ้าง 5 คนในจำนวนนั้นเป็นเวลา 2 ปี ผมให้อิสระพวกเขาในการสร้างสรรค์เต็มที่ โดยผมจะสไกป์คุยกับเขาอาทิตย์ละครั้ง จากนั้นผมค่อยปะติดปะต่อจากแบบที่พวกเขาทำไว้มากกว่า 5,000 รูป ตลอดเวลา 2 ปี”
ลุค เบซง (Luc Besson) ให้สัมภาษณ์ถึงส่วนหนึ่งในการทำงานของหนังเรื่องนี้ Valerian and the City of a Thousand Planets ผลงานล่าสุดของเขาที่รวบรวมความฝันและความคลั่งไคล้ในการ์ตูนที่ชื่นชอบมาตลอด 45 ปี จนกลายเป็นภาพยนตร์ได้อย่างน่าชื่นชม
และนี่คือเรื่องราวก่อนจะมาเป็นภาพยนตร์เรื่องนี้
– Valerian and the City of a Thousand Planets เป็นเรื่องราวของวาเลเรียน (เดน เดอฮาน) และลอเรลีน (คาร่า เดเลวีน) คู่หูเจ้าหน้าที่พิทักษ์สันติสุขให้กับประชาชนทั่วจักรวาล พวกเขาได้รับภารกิจให้เดินทางไปยังมหานครอัลฟา มหานครไร้ขอบเขตที่เป็นบ้านของทุกเผ่าพันธุ์ทั่วจักรวาลเพื่อไขความลับบางอย่าง และกลายเป็นภารกิจที่ไม่ใช่แค่ปกป้อง ‘มนุษยชาติ’ แต่หมายความถึงการปกป้อง ‘ทุกสิ่งมีชีวิต’ ในจักรวาล
– ลุคชอบอ่านการ์ตูนตั้งแต่เด็ก ทุกวันพุธเขาจะต้องไปที่ร้านหนังสือเพื่อรอหนังสือเล่มใหม่ จนอายุ 10 ขวบ เขาเปิดเจอการ์ตูนรายสัปดาห์เรื่อง Valerian and Laureline จากนิตยสาร Pilote และกลายเป็นแฟนพันธุ์แท้ของการ์ตูนเรื่องนี้ เขาฝันอยากเป็นเหมือนพระเอกวาเลเรียน และตกหลุมรักลอเรลีน นางเอกในเรื่องแบบหัวปักหัวปำ
– Valerian and Laureline เป็นผลงานของปิแอร์ คริสติน และฌอง-คล็อด เมอซิเยร์ สองนักเขียนล้ำอนาคตชาวฝรั่งเศส การ์ตูนเรื่องนี้วางขายยาวนานกว่า 4 ทศวรรษ ตั้งแต่ตั้งแต่ปี 1967 จนถึงปี 2010 มีทั้งหมด 22 เล่ม แปลไปแล้ว 21 ภาษา และมียอดขายมากกว่า 10 ล้านฉบับ
– หลังจากนั้นเรื่องราวทุกอย่างในวาเลเรียนก็ฝังอยู่ในหัวของลุคแบบสลัดไม่ออก เขาคิดถึงการเอาการ์ตูนเรื่องนี้มาทำเป็นหนังอยู่ตลอดเวลา แต่รู้ดีว่าข้อจำกัดทางด้านเทคโนโลยีของวงการภาพยนตร์ในตอนนั้นยังไม่สามารถทำตามภาพฝันของเขาได้ จึงได้แต่เก็บเอาแรงบันดาลใจเล็กๆ ไปใส่ไว้ในหนังเรื่องอื่นๆ แทน อย่างเรื่อง The Fifth Element (1997) ก็ได้แรงบันดาลใจจาก Valerian and Laureline เล่มที่ 15 ชื่อตอน The Circles of Power
– ถ้าจำกันได้ ใน Star Wars ชุดของเจ้าหญิงเลอา (Return of the Jedi), แท่นแช่แข็งคาร์บอไนต์ (The Empire Strikes Back), กองทัพโคลน (Attack of the Clones) และเอเลี่ยนวัตโต เจ้าของร้านขายขยะ (The Phantom Menace) ก็ได้แรงบันดาลใจมาจาก Valerian and Laureline รวมทั้งซิกเนเจอร์อย่าง Millennium Falcon ก็มีต้นแบบจากยานอินทรูเดอร์ (Astroship XB982) ที่ลุคปลื้มมากๆ เช่นกัน
– จนวันหนึ่งเจมส์ คาเมรอน ชวนลุคไปเยี่ยมกองถ่ายหนังเรื่อง Avatar (2009) และเมื่อหนังออกฉาย ลุคก็รู้ทันทีว่าโลกภาพยนตร์พร้อมแล้วที่จะทำตามความฝันของเขา ลุคทุ่มเททุกอย่างแล้วหยิบเรื่อง Valerian and Laureline เล่มที่ 6 Ambassador of the Shadows มาสร้าง Valerian and the City of a Thousand Planets ขึ้นมา
– เขาลงทุนอยู่ในทุกกระบวนการสร้าง ทั้งกำกับ โปรดิวซ์ และเขียนบทด้วยตัวเอง ถ้ายังหนุ่มกว่านี้ บทพระเอกอย่างวาเลเรียนก็น่าจะตกเป็นของเขาด้วยเช่นกัน โปรเจกต์นี้ใช้เวลาเตรียมการทั้งหมด 5 ปีเต็ม ใช้งบประมาณ 197 ล้านยูโร กลายเป็นหนังที่ใช้ทุนสร้างสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ฝรั่งเศส
– ต้องใช้บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านวิชวลเอฟเฟกต์ถึง 3 บริษัท เพื่อทำให้ความฝันของเขาเป็นจริง และนี่เป็นครั้งแรกที่บริษัท WETA (The Lord of the Rings, The Hobbit), ILM (Star Wars, Star Trek) และ Rodeo Fx (Fantastic Beasts and Where to Find Them) จับมือกันสร้างหนังเรื่องนี้ขึ้นมา ในที่สุดความฝันที่รอมาตลอด 45 ปีของเขาก็เกิดขึ้น
– ในเรื่องนี้มีเอเลี่ยนที่มีบทบาทมากกว่า 200 สายพันธุ์ โดยลุคได้เขียนหนังสือที่มีความหนา 600 หน้า เพื่ออธิบายลักษณะนิสัยทั้งหมดเอาไว้ และนักแสดงทุกคนต้องอ่านคู่มือนี้ก่อนถ่ายทำ เพื่อเลือกวิธีการแสดงได้อย่างสมจริงที่สุด
– ลุคขึ้นชื่อเรื่องความเฉียบคมในการสร้างตัวละครหญิง (นาตาลี พอร์ตแมน จาก Léon: The Professional, มิลลา โจโววิช จาก The Fifth Element และ Lucy, มิเชล โหยว จาก The Lady) คราวนี้เป็นคิวของคาร่า เดลาวีน ที่มารับบท ลอเรลีน ซึ่งเขามีวิธีการออดิชันไม่เหมือนคนอื่น คือให้คาร่าแต่งเรื่องขึ้นมาแล้วเล่าให้เขาฟัง โดยห้ามใช้คำพูด หรือไม่ก็ให้แสดงเป็นสัตว์ หรืออะไรประหลาดๆ ที่ไม่เกี่ยวกับบทแทน
– ในวัยเด็ก คาร่าฝันอยากเป็นซูเปอร์ฮีโร่ และความฝันก็เป็นจริงในเรื่องนี้ นอกจากนี้เธอยังเป็นเกมเมอร์ชั้นเซียน เกมโปรดคือ Call of Duty ลองไปพิสูจน์ฝีมือกับเธอได้ ชื่อในเกมของเธอคือ ‘Caradele’
– ลุคให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับคาร่าและเดน ผู้รับบทเป็นลอเรลีนและวาเลเรียนไว้ว่า “ผมอ่านหนังสือเรื่องนี้ตั้งแต่อายุ 10 ขวบ ผมรู้จักตัวละครทั้งสองดีเหมือนเพื่อนผม ซึ่งทันทีที่ผมพบนักแสดงนำทั้งสองคน ผมแน่ใจทันทีว่าพวกเขาคือคนที่ใช่ พวกเขามีเคมีเข้ากันสุดๆ แต่เท่านั้นไม่พอหรอกนะ ผมเสิร์ชเอารูปของทั้งคู่ทั่วทั้งอินเทอร์เน็ต มาเปรียบเทียบกับตัวละครทุกมุมทั้งซ้ายขวาหน้าหลัง เพื่อให้มันเป๊ะทุกมุมกล้อง
