สถานีโทรทัศน์ BBC ของอังกฤษ เปิดเผยผลการวิจัยระดับความมั่งคั่งร่ำรวยของประชากรโลก หรือ Global Wealth Report ซึ่งจัดทำโดยธนาคารชั้นนำอย่าง Credit Suisse พบว่า ในปี 2020 ที่ผ่านมา ขณะที่ทั่วโลกกำลังเผชิญกับการระบาดครั้งใหญ่ของโควิด -19 กลับมีประชากรมากกว่า 5 ล้านคนสามารถขยับสถานะขึ้นแท่นเป็นเศรษฐีเงินล้าน สวนทางกับวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น
รายงานระบุว่า ในขณะที่คนจนหลายคนจนลง จำนวนคนรวยขั้นเศรษฐีกลับเพิ่มขึ้นถึง 5.2 ล้านคน ทำให้ทั่วโลกมีเศรษฐีร่ำรวยเพิ่มขึ้นเป็นทั้งหมด 56.1 ล้านคน ขณะเดียวกันในปีที่ผ่านมามีประชากรวัยผู้ใหญ่มากกว่า 1% ที่ขยับสถานะก้าวสู่สังคมเศรษฐีเงินล้านเป็นครั้งแรก
ทั้งนี้สาเหตุหลักที่ทำให้ร่ำรวยขึ้นเป็นผลมาจากการฟื้นตัวของตลาดหุ้นและราคาบ้านและที่ดินในหลายประเทศทั่วโลกที่ปรับตัวแพงขึ้น ทำให้ประชากรเหล่านี้มีมูลค่าทรัพย์สินเพิ่มมากขึ้น
ด้านทีมนักวิจัยของ Global Wealth Report กล่าวว่า ผลการวิจัยครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่าการสร้างความมั่งคั่งร่ำรวยส่วนบุคคลไม่มีส่วนเกี่ยวข้องสัมพันธ์ใดๆ กับสถานการณ์เศรษฐกิจที่ย่ำแย่เพราะโควิด-19 ระบาดแม้แต่น้อย
ขณะที่ แอนโทนี ชอร์ร็อกส์ (Anthony Shorrocks) นักเศรษฐศาสตร์และผู้เขียนรายงานฉบับนี้กล่าวว่า โควิด-19 ส่งผลกระทบต่อตลาดในช่วงระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น โดยเห็นได้ว่าช่วงครึ่งปีแรกของปี 2020 ตลาดหุ้นทั่วโลกตกอยู่ในสภาวะขาลง ก่อนที่จะพลิกกลับมาเติบโตอย่างมากในช่วงครึ่งปีหลัง ตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นไป
อย่างไรก็ตามแม้จะมีคนรวยเพิ่มมากขึ้น แต่งานวิจัยก็พบว่าหากตัดปัจจัยด้านอสังหาริมทรัพย์ออกไป ความมั่งคั่งของคนส่วนใหญ่จะลดลงทันที แสดงให้เห็นถึงระดับที่แตกต่างกันของคนรวยที่รวยเข้าขั้นเหลือกินเหลือใช้กับคนรวยที่มีกินมีใช้ โดยชอร์ร็อกส์ระบุว่า ถ้าไม่นับคนรวยเพราะบ้านและที่ดิน ความมั่งคั่งของคนส่วนใหญ่อยู่ในระดับเท่าเดิม และหลายรายน้อยลงกว่าเดิม
นอกจากนี้ทีมนักวิจัยเชื่อว่าการปรับเปลี่ยนนโยบายของธนาคาร นำโดยธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ด้วยการเพิ่มอัตราดอกเบี้ย จะทำให้มีการปรับฐานสินทรัพย์และความร่ำรวย ส่งผลให้ในระยะยาวจำนวนเศรษฐีอาจมีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง
ด้านผู้เชี่ยวชาญจากธนาคารเครดิตสวิสชี้ว่า ราคาอสังหาริมทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นและตลาดหุ้นที่ขยับขึ้น เป็นผลมาจากนโยบายปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเหล่าธนาคารเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้การประเมินสินทรัพย์ของหลายคนเพิ่มขึ้นจนเข้าขั้นเศรษฐี ดังนั้นหากมีการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย มูลค่าสินทรัพย์เหล่านี้ก็จะลดลงด้วย
ในส่วนของผลการศึกษาวิจัยโดยรวมพบว่า ความมั่งคั่งร่ำรวยทั่วโลกในปี 2020 ที่ผ่านมามีการขยายตัวเติบโตที่ 7.4% และนับตั้งแต่เริ่มต้นศตวรรษที่ 21 จำนวนคนร่ำรวยที่มีเงินระหว่าง 10,000-100,000 ดอลลาร์สหรัฐ มีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่าจาก 507 ล้านคนในปี 2000 มาอยู่ที่ 1,700 ล้านคนในช่วงกลางปี 2020 ซึ่งจำนวนที่เพิ่มขึ้นนี้สะท้อนให้เห็นการเติบโตทางเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ โดยเฉพาะจีนที่มีการขยายตัวของชนชั้นกลางของสังคมมากที่สุดในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา ขณะที่การออกกฎระเบียบของรัฐบาลและธนาคารกลางทั่วโลกก็มีส่วนสำคัญที่ช่วยสนับสนุนให้เกิดการกระจายรายได้ทั่วถึงมากขึ้น
ขณะเดียวกันหัวหน้าเจ้าหน้าที่ด้านการลงทุนของธนาคารเครดิตสวิสใช้โอกาสนี้ออกมาเตือนรัฐบาลทั่วโลก ที่กำลังเดินหน้าออกนโยบายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ระบาดว่า แม้จะช่วยประคองให้เศรษฐกิจเดินหน้าต่อไปได้ แต่การแทรกแซงดังกล่าวก็มีราคาที่ต้องจ่าย ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือระดับหนี้สาธารณะต่อ GDP โดยขณะนี้พบว่า หนี้สาธารณะต่อ GDP ในหลายประเทศทั่วโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า 20% แล้ว
พิสูจน์อักษร: ชนเนตร ลอยครุฑ
อ้างอิง:
