ในยุคสมัยที่ความหลากหลายทางเพศสภาพ (LGBTQIA+) ได้รับการยอมรับและเปิดกว้างมากขึ้น ธุรกิจต่างๆ เริ่มตระหนักถึงความสำคัญของกลุ่มลูกค้า LGBTQIA+ ไม่เพียงเพราะเป็นการแสดงออกถึงความเท่าเทียมทางสังคม แต่ยังเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่ทรงพลังและสามารถสร้างผลกำไรอย่างมีนัยสำคัญ
สิ่งที่น่าสนใจคือกำลังซื้อของกลุ่ม LGBTQIA+ ทั่วโลกนั้นไม่ควรถูกมองข้าม จากการสำรวจของ LGBT Capital ในปี 2020 ระบุว่า กำลังซื้อของกลุ่มนี้มีมูลค่าสูงถึง 3.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเทียบเท่ากับขนาดเศรษฐกิจของประเทศเยอรมนี นอกจากนี้ยังคาดการณ์ว่าตัวเลขนี้จะเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคตอันใกล้
“เราเห็นความสำคัญของ Rainbow Economy ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง มีศักยภาพทางการเงิน ข้อมูลจาก ททท. พบว่ามี Spending Power สูงกว่ากลุ่มนักท่องเที่ยวทั่วไปถึง 40% มีไลฟ์สไตล์เรียบหรู มีความ Loyalty ต่อแบรนด์สูง และเป็นกลุ่มที่มีความสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ” ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา กล่าว
ข้อมูลจากนิตยสาร GAY TIMES และ LGBT Capital พบว่า กลุ่ม LGBTQIA+ ทั่วโลกมีจำนวนกว่า 500 ล้านคน อยู่ในเอเชีย 288 ล้านคน และในไทยประมาณ 4 ล้านคน และคาดการณ์ว่าประชากรกลุ่มนี้จะขยายตัวไปถึง 1 พันล้านคนทั่วโลกในปี 2050 ประเทศไทยมีรายได้จากการท่องเที่ยวจากกลุ่มนี้ราว 2.3 แสนล้านบาท มากเป็นอันดับ 1 ในเอเชีย และอันดับ 4 ของโลก จึงนับเป็นตลาดใหญ่ด้านการท่องเที่ยวของโลกอีกกลุ่มหนึ่ง
สำหรับ CPN ตลอด 5 ปีที่ผ่านมาได้จัดงาน Pride อย่างต่อเนื่องและยิ่งใหญ่ขึ้นทุกๆ ปี ให้พื้นที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั่วประเทศเป็นพื้นที่ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนแสดงความเป็นตัวตนได้อย่างอิสระ โดยเฉพาะกลุ่ม LGBTQIA+ ที่เป็น Soft Power สำคัญของประเทศไทย
โดยปีนี้ได้ผนึกพันธมิตรหน่วยงานโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ หรือ UNDP ประจำประเทศไทย ภาครัฐ และเอกชน นำโดยกรุงเทพมหานคร, บริษัท สไปร์ซซี่ ดิสก์ จำกัด, Muse by Metinee, บางกอกไพรด์ และบริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด เนรมิตพื้นที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั่วประเทศให้เป็นพื้นที่แห่งการเฉลิมฉลอง Pride Month เดือนแห่งความภาคภูมิใจของ LGBTQIA+ ทั่วโลก ภายในงาน Thailand’s Pride Celebration 2024 “Pride For All”
งานดังกล่าวจะเกิดขึ้นตลอดเดือนมิถุนายน ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล 24 สาขาทั่วประเทศ โดยเฉพาะศูนย์การค้า Tourists Malls ในเมืองท่องเที่ยว 15 สาขาทั่วประเทศ ครอบคลุมทุกภูมิภาค เป็นพื้นที่ศักยภาพสูง และเป็นแลนด์มาร์กของจังหวัด ได้แก่ เซ็นทรัลเวิลด์, เซ็นทรัล วิลเลจ, เซ็นทรัล พระราม 9, เซ็นทรัล อยุธยา, เซ็นทรัล ภูเก็ต, เซ็นทรัล สมุย, เซ็นทรัล หาดใหญ่, เซ็นทรัล พัทยา, เซ็นทรัล มารีนา, เซ็นทรัล ศรีราชา, เซ็นทรัล จันทบุรี, เซ็นทรัล อุดรธานี, เซ็นทรัล เชียงใหม่, เซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ต และเซ็นทรัล เชียงราย
“ประเทศไทยถือเป็นประเทศที่เปิดโอกาสให้ทุกเพศสภาพแสดงออกได้อย่างอิสระ แสดงตัวตนได้อย่างชัดเจน มีความพร้อม และสามารถดึงดูดกลุ่ม LGBTQIA+ ในหลากหลายมิติ สะท้อนศักยภาพประเทศไทยในการเป็นเจ้าภาพ World Pride 2030”
ทั้งนี้สำหรับเทศกาล Pride month คือเทศกาลสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจประเทศ โดยในปี 2023 มีนักท่องเที่ยวไทยและทั่วโลกกว่า 1.6 แสนคนมาร่วมฉลองงาน Pride ที่เซ็นทรัลเวิลด์ และราว 5.2 แสนคนที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั่วไทย ซึ่งปีนี้คาดการณ์ว่าจะมีคนมาร่วมงานมากกว่าครึ่งล้านตลอดเดือนมิถุนายน
สิ่งที่น่าสนใจคือการเติบโตของกลุ่ม LGBTQIA+ ทั่วโลกและกำลังซื้อมหาศาลของพวกเขาเป็นโอกาสทางธุรกิจที่ไม่ควรมองข้าม ธุรกิจที่เข้าใจและให้การสนับสนุนกลุ่มนี้จะได้รับความภักดีและการสนับสนุนจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง
ผลสำรวจของ Nielsen ในปี 2018 พบว่า ผู้บริโภค LGBTQIA+ มีแนวโน้มที่จะภักดีต่อแบรนด์ที่ให้การสนับสนุนและเข้าใจความต้องการของพวกเขา โดยพวกเขามีแนวโน้มที่จะใช้จ่ายกับแบรนด์ที่แสดงออกถึงความเท่าเทียมและความหลากหลายทางเพศสภาพมากกว่าแบรนด์ที่ไม่แสดงออกถึงความใส่ใจในประเด็นเหล่านี้
การศึกษาของ Community Marketing & Insights ในปี 2020 ระบุว่า 78% ของผู้บริโภค LGBTQIA+ มีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้าจากบริษัทที่สนับสนุนความเท่าเทียมทางเพศสภาพ นอกจากนี้ 71% ของผู้บริโภค LGBTQIA+ ยังระบุว่า พวกเขาเต็มใจที่จะจ่ายเงินมากกว่าเพื่อสินค้าหรือบริการจากบริษัทที่ให้การสนับสนุนชุมชน LGBTQIA+ อย่างจริงใจ
การที่ธุรกิจให้ความสำคัญกับกลุ่ม LGBTQIA+ ไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มยอดขายและสร้างความภักดีในกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเท่านั้น แต่ยังส่งผลดีต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์ในวงกว้างอีกด้วย จากผลสำรวจของ Edelman พบว่า 76% ของผู้บริโภคทั่วโลกมีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้าจากแบรนด์ที่สนับสนุนความเท่าเทียมทางสังคม
ด้วยศักยภาพทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและแนวโน้มการเติบโตที่สดใสของกลุ่ม LGBTQIA+ ทั่วโลก การที่ CPN ให้ความสำคัญและสนับสนุนกลุ่มนี้ผ่านงาน Thailand’s Pride Celebration 2024 “Pride For All” จึงไม่เพียงแต่เป็นการแสดงจุดยืนด้านความเท่าเทียมทางสังคม แต่ยังเป็นการลงทุนที่ชาญฉลาดเพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้ากลุ่มนี้ ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านธุรกิจค้าปลีกที่ใส่ใจและตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่มอย่างแท้จริง พร้อมทั้งสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์ในระยะยาว และร่วมผลักดันประเทศไทยสู่การเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว LGBTQIA+ ทั่วโลกอย่างยั่งยืน
