×

ถึงเป้าก่อนกำหนด อังกฤษเสนอฉีดวัคซีนเข็มแรกให้ประชาชนอายุ 50 ปี และกลุ่มเสี่ยงสูงทุกคนแล้ว

โดย THE STANDARD TEAM
13.04.2021
  • LOADING...
อังกฤษเสนอฉีดวัคซีนเข็มแรกให้ประชาชนอายุ-50-ปี

รัฐบาลสหราชอาณาจักร ประกาศบรรลุเป้าหมายในการเสนอฉีดวัคซีนเข็มแรกให้ประชาชนที่มีอายุมากกว่า 50 ปี และกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงทุกคนแล้ว เตรียมลุยฉีดวัคซีนประชาชนอายุ 40 ปีเป็นกลุ่มต่อไป

 

นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน กล่าวถึงการบรรลุเป้าหมายดังกล่าวว่าเป็น “อีกหนึ่งหลักชัยที่สำคัญอย่างยิ่งในโครงการวัคซีนของเรา

 

“บัดนี้ เราจะเดินหน้าต่อกับการฉีดวัคซีนเข็มที่สอง และก้าวสู่เป้าหมายในการเสนอฉีดวัคซีนให้ประชาชนวัยผู้ใหญ่ทุกคนภายในสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้”

 

ด้าน แมตต์ แฮนค็อก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า “ผมดีใจที่ทีมงานทำงานกันได้อย่างยอดเยี่ยมเช่นนี้ จนเราสามารถบรรลุเป้าหมายได้ก่อนกำหนด

 

“สถานการณ์การระบาดของโรคกำลังเปลี่ยนไปในทุกส่วนของสหราชอาณาจักร เนื่องจากในทุกๆ วัน มีประชาชนจำนวนมากขึ้นได้รับความปลอดภัยจากวัคซีนโควิด-19”

 

ขณะเดียวกัน เขายังได้เรียกร้องให้ผู้ที่มีสิทธิ์ได้รับวัคซีนให้เข้ามารับการฉีดวัคซีน โดยกล่าวเสริมว่า “วัคซีนมีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ และช่วยชีวิตผู้คนได้มากกว่า 10,000 ชีวิตแล้ว

 

“โครงการวัคซีนมีผลอย่างมากในการลดความกดดันสำหรับโรงพยาบาล และช่วยให้เราค่อยๆ ผ่อนคลายข้อจำกัดต่างๆ ได้”

 

ทั้งนี้ ประชาชนมากกว่า 32 ล้านคนในสหราชอาณาจักรได้รับวัคซีนเข็มแรกแล้ว โดยเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา มีการฉีดวัคซีนเข็มที่สองให้ประชาชนในสหราชอาณาจักรมากถึง 475,230 คน ทำให้ปัจจุบันมีผู้ได้รับวัคซีนครบทั้งสองโดสแล้วกว่า 7.6 ล้านคน นั่นหมายความว่ารัฐบาลสหราชอาณาจักรบรรลุเป้าหมายในการเสนอการฉีดวัคซีนเข็มแรกให้แก่กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงสุด 9 อันดับแรกภายในวันที่ 15 เมษายน

 

สำหรับกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงสุด 9 อันดับแรก ได้แก่ ผู้ที่มีอายุมากกว่า 50 ปีทุกคน, ผู้ทีมีอายุ 16 ปีขึ้นไปที่มีโรคประจำตัวหรือปัญหาสุขภาพ, ผู้ดูแลผู้สูงอายุและผู้พิการที่ไม่ได้รับค่าจ้าง และผู้ปฏิบัติงานด้านสุขภาพและสังคม ซึ่งทั้งหมดนี้ครอบคลุม 99% ของผู้ที่มีความเสี่ยงสูงที่จะเสียชีวิตด้วยโควิด-19

 

เซอร์ไซมอน สตีเวนส์ ประธานบริหาร NHS England หรือระบบบริการสุขภาพแห่งชาติของอังกฤษ กล่าวถึงข่าวดังกล่าวว่าเป็น “ความสำเร็จที่น่าเหลือเชื่อ” ที่ประชาชนอายุมากกว่า 50 ปี จำนวน 19 ใน 20 คนได้รับการฉีดวัคซีนเข็มแรกแล้ว

 

เขาระบุว่าโครงการฉีดวัคซีน “ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของเรา” พร้อมเสริมว่า “นี่คือตั๋วใบหนึ่งที่จะนำพาเราให้หลุดพ้นจากโรคระบาดครั้งนี้ และเป็นความหวังที่แท้จริงสำหรับอนาคต”

 

การประกาศข่าวดังกล่าวของรัฐบาลเกิดขึ้นในวันเดียวกับที่สหราชอาณาจักรเริ่มผ่อนคลายข้อจำกัดการล็อกดาวน์ทั่วประเทศ

 

คริส ฮอปสัน ประธานบริหารของ NHS Providers ซึ่งเป็นตัวแทนของ NHS Trust ออกมาเรียกร้องให้ผู้ที่ได้รับการเสนอวัคซีนเข้ารับการฉีดวัคซีน โดยกล่าวว่า “เมื่อเรากลับไปที่สวนสาธารณะและผับ กลับไปเล่นกีฬา และกลับเข้าร้านค้าต่างๆ เราจะยังคงทำทุกอย่างที่เราทำได้เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อ และให้แน่ใจว่าการล็อกดาวน์ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย”

 

สำหรับเป้าหมายต่อไปของรัฐบาลสหราชอาณาจักร คือการเสนอฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนที่มีอายุ 40-49 ปี โดยรัฐบาลเผยว่าอยู่ระหว่างเตรียมการเพื่อเสนอการฉีดวัคซีนเข็มแรกให้กับผู้ใหญ่ทุกคนภายในสิ้นเดือนกรกฎาคม ซึ่งผู้ที่อยู่ในช่วงอายุ 40 ปี คือกลุ่มต่อไปที่จะได้รับวัคซีนในอังกฤษ ส่วนในไอร์แลนด์เหนือนั้น ได้เริ่มมีการเสนอให้ประชาชนที่มีอายุต่ำกว่า 50 ปีทำการจองการนัดหมายเพื่อเข้ารับการฉีดวัคซีนแล้ว

 

BBC วิเคราะห์ว่า เมื่อพิจารณาจากความรวดเร็วของโครงการฉีดวัคซีนในสหราชอาณาจักรแล้วนั้น การบรรลุเป้าหมายการเสนอฉีดวัคซีนให้แก่กลุ่มเสี่ยงสูงทั้งหมดภายในกลางเดือนเมษายนไม่ใช่เรื่องที่คาดไม่ถึง อย่างไรก็ตาม การจัดหาวัคซีนจะเป็นตัวแปรสำคัญสำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป โดยสิ่งที่ต้องจับตาคือปริมาณวัคซีนของ Pfizer และ Moderna จะสามารถเข้ามาช่วยเติมเต็มช่องว่างที่เกิดขึ้นอันเนื่องมาจากปัญหาในการจัดหาวัคซีน AstraZeneca ได้หรือไม่

 

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา วัคซีน Moderna กลายเป็นวัคซีนตัวที่สามที่ได้รับอนุมัติให้ใช้ในสหราชอาณาจักร ควบคู่ไปกับ Pfizer-BioNTech และ Oxford-AstraZeneca โดยเริ่มฉีดในเวลส์เป็นที่แรก ตามด้วยสกอตแลนด์ และคาดว่าจะฉีดในอังกฤษเป็นลำดับต่อไป

 

โดยประชาชนทุกคนในสหราชอาณาจักรที่มีอายุต่ำกว่า 30 ปี จะได้รับการเสนอวัคซีนโควิด-19 ตัวอื่นๆ นอกเหนือไปจาก AstraZeneca หลังจากพบหลักฐานที่เชื่อมโยงกับการเกิดลิ่มเลือดอุดตัน

 

ทั้งนี้ สหราชอาณาจักรมีผู้ติดโควิด-19 จำนวน 3,568 ราย และเสียชีวิต 13 รายในวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่ทางการอนุญาตให้ประชาชนเริ่มกลับมาทำกิจกรรมต่างๆ ได้ หลังจากที่ล็อกดาวน์ประเทศในช่วงที่ผ่านมา

 

โดยในอังกฤษนั้น สวนสาธารณะ ผับ ร้านจำหน่ายสินค้าหรือบริการที่ไม่จำเป็น รวมถึงร้านทำผม เริ่มกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง ขณะที่คำสั่งห้ามออกจากบ้านในไอร์แลนด์เหนือก็สิ้นสุดลงในวันจันทร์เช่นกัน ส่วนในเวลส์ อนุญาตให้ร้านขายสินค้าที่ไม่จำเป็น และบริการที่ต้องมีการสัมผัสใกล้ชิดกลับมาเปิดทำการได้อีกครั้ง ยกเว้นในสกอตแลนด์ที่ร้านจำหน่ายสินค้าและบริการที่ไม่จำเป็น จะยังคงปิดต่อไปถึงวันที่ 26 เมษายน

 

ในขณะเดียวกัน มีรายงานว่าทางการเร่งตรวจหาเชื้อเชิงรุกในเขตวอนด์สเวิร์ทและแลมเบททางตอนใต้ของลอนดอน หลังจากพบคลัสเตอร์การติดโควิดสายพันธุ์แอฟริกาใต้

 

กรมอนามัยและบริการสังคมระบุว่า เป็นการตรวจเชิงรุกครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา หลังจากพบผู้ติดเชื้อ 44 รายที่ได้รับการยืนยันแล้ว และอีก 30 รายอยู่ระหว่างรอยืนยันผล 

 

ภาพ: Dan Charity – Pool / Getty Images

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

อ้างอิง:  

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising