×

ผลกระทบโควิด-ล็อกดาวน์ ฉุดกำไรไตรมาส 3 กลุ่มทิสโก้แผ่วเหลือ 1,560 ล้าน ขณะที่ NPLs ขยับแตะ 3%

14.10.2021
  • LOADING...
tisco

ศักดิ์ชัย พีชะพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มทิสโก้ เปิดเผยว่า ในไตรมาสที่ 3/2564 กลุ่มทิสโก้มีกำไรสุทธิ 1,560 ล้านบาท ลดลง 6.3% จากไตรมาสก่อนหน้า โดยมีสาเหตุมาจากการแพร่ระบาดระลอกใหม่ของโควิด และมาตรการปิดเมือง (Lockdown) ที่ยืดเยื้อ ส่งผลให้ธุรกิจชะลอตัวลง โดยรายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลง 1.8% ตามการปล่อยสินเชื่อที่ชะลอตัว รายได้ค่าธรรมเนียมอ่อนตัวลง 9.9% จากธุรกิจนายหน้าประกันภัยและธุรกิจจัดการกองทุนที่อ่อนตัวลง ประกอบกับการรับรู้ผลขาดทุนบางส่วนจากมูลค่าเงินลงทุนที่ผันผวนตามสภาวะตลาดทุนทั่วโลก

 

อย่างไรก็ดี ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (Expected Credit Loss: ECL) ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 0.5% ของยอดสินเชื่อเฉลี่ย เนื่องจากการบริหารจัดการคุณภาพสินทรัพย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและสถานการณ์ที่เริ่มคลี่คลายในช่วงท้ายของไตรมาส ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้นเฉลี่ย (ROAE) อยู่ที่ 16.2% 

 

สำหรับผลประกอบการงวด 9 เดือนแรกของปี 2564 กลุ่มทิสโก้มีกำไรสุทธิ 4,990 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.7% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากรายได้ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจตลาดทุนที่เติบโต และการรับรู้กำไรจากเงินลงทุน โดยรายได้ค่าธรรมเนียมเติบโต 5.8% เป็นผลมาจากปริมาณการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ที่เพิ่มขึ้น และการออกกองทุนใหม่ที่ตอบรับความต้องการของลูกค้า อย่างไรก็ตาม ธุรกิจธนาคารพาณิชย์ยังคงอ่อนตัว โดยรายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลง 10.1% จากสินเชื่อที่ชะลอตัว และรายได้ค่าธรรมเนียมที่ยังอ่อนตัวลงจากธุรกิจนายหน้าประกันภัยเป็นหลัก บริษัทมีอัตราผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้นเฉลี่ย (ROAE) งวด 9 เดือนแรกอยู่ที่ 16.9% 

 

ด้านเงินให้สินเชื่อรวมของกลุ่มทิสโก้ ณ วันที่ 30 กันยายน 2564 มีจำนวน 204,408 ล้านบาท ลดลง 9.1% จากสิ้นปีก่อนหน้า โดยบริษัทยังคงดำเนินนโยบายการปล่อยสินเชื่ออย่างระมัดระวังท่ามกลางการระบาดระลอกใหม่ ในขณะที่หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 3.0% ซึ่งอยู่ในระดับที่ดีกว่าความคาดหมาย และมีผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ตามคุณภาพสินทรัพย์ที่สามารถควบคุมได้ดี ทั้งนี้ บริษัทยังคงมีระดับเงินสำรองหนี้สูญต่อหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Loan Loss Coverage Ratio) อยู่ในระดับสูงที่ 196.5% 

 

โดยธนาคารทิสโก้ยังคงมีประมาณการอัตราเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) อยู่ที่ 24.7% สูงกว่าอัตราเงินกองทุนขั้นต่ำ 11.0% ที่กำหนดโดยธนาคารแห่งประเทศไทย และมีอัตราเงินกองทุนชั้นที่ 1 และชั้นที่ 2 ต่อสินทรัพย์เสี่ยงอยู่ที่ 19.7% และ 5.0% ตามลำดับ 

 

ศักดิ์ชัยระบุว่า ในไตรมาสที่ผ่านมา บริษัทได้ให้ความช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจและมาตรการปิดเมืองอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นการแก้หนี้ให้ตรงจุดและยั่งยืนเพิ่มเติมจากการช่วยเหลือเป็นการทั่วไป โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าเช่าซื้อและจำนำทะเบียนรถยนต์ โดยเปิดโครงการพิเศษ ‘คืนรถจบหนี้’ สำหรับลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบรุนแรงและไม่สามารถกลับมาชำระหนี้ได้ ซึ่งตลอดทั้งโครงการมีผู้สนใจเข้าร่วมทั้งสิ้นกว่า 3,000 ราย ขณะเดียวกัน ยังเปิดตัวโครงการคุ้มคาร์ ‘ขายรถปิดหนี้’ เพื่อช่วยเหลือลูกค้าในกลุ่มที่มีความจำเป็นต้องขายรถหรือต้องการส่งต่อรถให้กับเจ้าของใหม่ สามารถนำรถยนต์มาประกาศขายผ่านเว็บไซต์ TaladRod.com  โดยเปิดให้ลูกค้าที่สนใจลงทะเบียนได้จนถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2564 

 

“หากมองไปในระยะข้างหน้า แม้จะเห็นสัญญาณบวกของสถานการณ์การติดเชื้อโควิดในประเทศที่เริ่มดีขึ้นจากการเข้าถึงวัคซีนที่มากขึ้น และการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยไม่ต้องกักตัวในเดือนพฤศจิกายน แต่บริษัทจะยังคงให้ความสำคัญกับนโยบายการดำเนินธุรกิจอย่างรอบคอบระมัดระวังและเน้นการเติบโตอย่าง ‘มั่นคงและยั่งยืน’ นั่นหมายถึงความพอดีในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง การบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ การให้ความช่วยเหลือลูกค้าอย่างตรงกลุ่มและแก้ปัญหาได้แบบเบ็ดเสร็จ” ศักดิ์ชัยกล่าว

 

ศักดิ์ชัยกล่าวอีกว่า นอกจากนโยบายการเติบโตทางธุรกิจอย่างพอดีแล้ว บริษัทจะแสวงหาโอกาสการเติบโตใหม่ในกลุ่มที่เป็น Growth Engine ควบคู่กันไปด้วย อาทิ การเป็นที่ปรึกษาทางการเงินที่ดี (TISCO Advisory) การสนับสนุนเงินให้สินเชื่อรถยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle: EV) เพื่อตอบสนองแนวคิด Green Economy ของทางภาครัฐ การขยายการเติบโตของสินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์และรถบรรทุกเพื่อเงินทุนหมุนเวียนให้แก่ผู้ประกอบการรายย่อม และการพัฒนาธุรกิจ Freedom Platform เพื่อช่วยลูกค้ากลุ่มพนักงานรายได้ประจำในการวางแผนทางการเงินและแก้ไขหนี้ เป็นต้น

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising