วันนี้ (17 มีนาคม) หลังประกาศไม่ร่วมสังฆกรรมในการลงมติวาระ 3 การพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของที่ประชุมร่วมรัฐสภา ชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส. ภูมิใจไทย เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า ประชุมกันมาทั้งวันและตกลงกันแล้วว่าจะเอาอย่างไร แต่กลับมาพลิกกลางอากาศ เพราะตอนแรกตกลงกัน 3 ญัตติว่าจะลงมติอันไหน อย่างไร มองว่าเป็นการทำหน้าที่ที่ทุกคนอภิปราย ไม่ได้ทำด้วยเจตนาที่บริสุทธิ์ ทำตามคำสั่ง ตามเกม เป็นเรื่องทำตามเกมไปแล้ว ไม่ใช่เจตนารมณ์จากความถูกต้อง แต่เป็นการซ่อนดาบไว้แทง มองไปแล้วบ้านเมืองเหมือนเป็นทางลูกรัง ที่ไม่ใช่ทางซูเปอร์ไฮเวย์ และจะมีปัญหาตามมาอีกแน่นอน เป็นเรื่องความต้องการของบุคคล มากกว่าทำให้บ้านเมืองสงบสุข
“รัฐธรรมนูญฉบับนี้ต้องแก้ ผมไม่สนใจหรอกว่าใครจะเลือกนายกฯ แต่คนที่บ้านผมมีทางลูกรัง เขาวิ่งเล่นมาตั้งแต่เด็กจนโต ยังมาเจอแบบนี้อยู่ ถามว่าลูกหลานเขาต้องมาเจอแบบนี้หรือ การแบ่งสรรงบประมาณไม่ถูกต้อง การกระจายอำนาจไม่มี ประชุมมาแล้ว 2 วาระ วาระที่ 3 ศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน แต่เป็นหน้าที่ของเรา เราก็ต้องทำ จะหยุดไว้ก่อนแล้วไปทำประชามติแล้วลงวาระ 3 ก็ได้ แต่นี่ต้องการล้ม แล้วจะไม่เริ่มใหม่เมื่อไรอีก ที่ประชุมกันไปเสียงบประมาณมากมาย เป็นเรื่องแกล้งๆ ทำหรือ รู้กันหรือ อย่านึกว่าคนอื่นเขาไม่รู้ทัน มันกลายเป็นว่าโกหกคนทั้งประเทศ แต่ทำตัวเป็นพระเอก สังคมขาดแก่นสารที่ถูกต้อง” ชาดากล่าว
ส่วนเรื่องพรรคร่วมรัฐบาล ชาดาบอกว่า เป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่ต้องไปคุยกัน เรื่องรัฐธรรมนูญก็เป็นเรื่องของรัฐธรรมนูญ คนละประเด็น เพราะนี่คือการประกาศกับประชาชน
“ประกาศในนามส่วนตัว แต่พรรคก็ไม่เอาด้วยอยู่แล้ว มันเสียความรู้สึกหลายอย่าง เท่ากับ 9 ชั่วโมงมันไร้สาระไปเลย” ชาดา กล่าวย้ำ
ขณะที่หลังชาดาประกาศ สมาชิกสภาสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ภูมิใจไทยได้เดินออกจากห้องประชุมด้วย