เสรีพิศุทธ์เชื่อ แก้ไขรัฐธรรมนูญลบอำนาจ ส.ว. ร่วมเลือกนายกฯ ไม่ได้

(19 ธันวาคม) พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส. บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวถึงกรณีที่พรรคเสนอชื่อ สมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง เป็นกรรมาธิการวิสามัญศึกษาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่าต้องหาคนที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาช่วยกัน ในส่วนนี้พรรคพิจารณาแล้วว่าเป็นบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถในด้านนี้จริงๆ และตั้งใจที่จะเข้ามาช่วยแก้ไข

เมี่อถามว่าการส่งสมชัยเข้าไปในคณะกรรมาธิการ คาดหวังให้ไปเดินหน้าเรื่องอะไรเป็นพิเศษ 

พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่าช่วงนี้เป็นเพียงขั้นตอนของการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ จากนั้นจะมีการหารือกันว่ามีรัฐธรรมนูญมาตราใดที่สมควรได้รับการแก้ไข ซึ่งอาจตรงกับพรรคการเมืองทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลหรืออาจจะมากกว่านั้น แต่อย่างน้อยๆ เราก็ได้คนที่มีคุณภาพมาช่วยทำงานให้พี่น้องประชาชน ซึ่งก่อนที่จะมีการเสนอชื่อสมชัยก็ได้มีการพิจารณาคนอื่นๆ รวมถึงคนในพรรคเสรีรวมไทยด้วย

เมื่อถามว่าดูชื่อคณะกรรมาธิการทั้ง 49 คนแล้ว การทำงานจะออกมาทิศทางใด 

พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่าอย่างที่ได้บอกไปแล้วว่าเสียงของฝ่ายค้านน้อยกว่าของฝ่ายรัฐบาล อยู่ที่กรรมาธิการว่ามีความตั้งใจทำให้ประชาชนไหม ผมคิดว่าพี่น้องประชาชนที่ติดตามการเมืองต้องเข้าใจ จะเห็นว่ารัฐธรรมนูญไม่ได้ไม่ดีทุกมาตรา แต่กระนั้นยังมีอีกหลายมาตราที่ต้องได้รับการแก้ไข อย่างกรณีที่มีการพยายามจะตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาเพื่อศึกษามาตรา 44 ซึ่งความจริงเป็นความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ซึ่งพรรคฝ่ายค้านพยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาของพี่น้องประชาชน แต่ฝ่ายรัฐบาลกลับไม่ยอม เพราะหากมีการแก้ไขก็ต้องเรียกผู้ออกคำสั่งมาชี้แจง นั่นคือ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ทำให้อะไรต่อมิอะไรไม่สุจริต เอาไว้เลือกตั้งครั้งหน้าค่อยไปกำหนดทิศทางกันใหม่และให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน

เมื่อถามว่าฝ่ายค้านมีเสียงน้อยกว่าฝ่ายรัฐบาลจะทำให้การทำงานเป็นอย่างไร 

พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่าส่วนตัวคิดว่าน่าจะดีกว่าตอนพิจารณามาตรา 44 เพราะญัตติเรื่องรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องที่ทั้งสองฝ่ายมีความเห็นร่วมกัน อย่างไรก็ตามเราจะทำเต็มที่เพื่อประชาชน แต่คิดว่าอะไรที่เป็นอำนาจของเขา เขาก็คงไม่ยอม เช่น การแก้ไขให้ ส.ว. ไม่มีอำนาจเลือกนายกรัฐมนตรี ในส่วนนี้เขาคงไม่มีทางยอม

สำหรับกรณีที่ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี จะเข้ามาดำรงตำแหน่งเป็นประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ นั้น พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่าพีระพันธุ์ได้ออกจากพรรคประชาธิปัตย์เพื่อไปเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีแล้ว ถือว่าประกาศตัวชัดเจนแล้วว่าอยู่ฝั่งใด ย่อมต้องทำตามที่ผู้มีอำนาจสั่งการ ขณะที่การเข้าเป็นกรรมาธิการวิสามัญของ อุดม รัฐอมฤต อดีตกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ส่วนตัวไม่ขอแสดงความคิดเห็นกรณีนี้ เพราะพรรคเล็กเสนอได้แค่คนเดียว

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์