×

‘โอกาสยุติสงครามยังห่างไกล’ เปิดข้อสรุปปูตินคุยสีจิ้นผิง หนุนแผนสันติภาพ แต่มองยูเครน-ตะวันตกไม่พร้อมเดินหน้า

22.03.2023
  • LOADING...
โอกาสยุติสงคราม

การพูดคุยครั้งสำคัญระหว่างประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย กับประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ของจีน ที่เกิดขึ้นระหว่างทริปการเยือนกรุงมอสโกตลอด 2 วันที่ผ่านมา (20-21 มีนาคม) เกิดขึ้นท่ามกลางการจับตามองจากผู้นำโลก โดยเฉพาะยูเครนและชาติตะวันตก หลังจากที่ผู้นำจีนพยายามนำเสนอแผนสันติภาพ 12 ประการเพื่อยุติสงครามยูเครน และวางบทบาทการเยือนครั้งนี้ว่าเป็น ‘การเดินทางแห่งสันติภาพ’ 

 

อย่างไรก็ตาม ความหวังในการผลักดันสันติภาพให้เกิดขึ้นยังดูเป็นเรื่องยาก โดยปูตินจะแสดงท่าทีเห็นด้วยว่าแผนสันติภาพของจีนอาจยุติสงครามได้จริง แต่ก็มองว่าแผนของจีนจะเดินหน้าไปได้ก็ต่อเมื่อยูเครนและชาติตะวันตกพร้อมที่จะให้เกิดขึ้น 

 

นอกเหนือจากประเด็นสงคราม การพบกันของสีและปูตินที่ต่างเรียกอีกฝ่ายว่า ‘เพื่อนรัก’ ถูกจับตามองว่าเป็นความเคลื่อนไหวเชิงยุทธศาสตร์และเป็นความท้าทายที่สำคัญโดยเฉพาะต่อสหรัฐอเมริกา 

 

ซึ่งทั้งสองผู้นำมีการขยายความร่วมมือทั้งด้านเศรษฐกิจ พลังงาน และความมั่นคง พร้อมแสดงจุดยืนและความกังวลร่วมกันที่มีต่อการขยายอิทธิพลทั้งของชาติตะวันตกและ NATO ไปยังภูมิภาคอื่น

 

และนี่คือรายละเอียดสำคัญทั้งหมดของการพูดคุยที่เกิดขึ้น

 

ยุคใหม่แห่งความสัมพันธ์

 

  • การเจรจา 2 วันที่ทำเนียบเครมลินเป็นไปอย่างยิ่งใหญ่และเปี่ยมล้นด้วยพิธีการ ขณะที่ปูตินและสียกย่อง ‘ยุคใหม่’ ในความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศ 

 

  • ในงานเลี้ยงอาหารค่ำภายหลังการพูดคุยกันอย่างไม่เป็นทางการเมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา (20 มีนาคม) ซึ่งเป็นวันแรกที่สีเดินทางถึงมอสโก ปูตินได้ประกาศว่าความร่วมมือทวิภาคีของจีนและรัสเซียนั้นคือ “ความเป็นไปได้และโอกาสอันไม่จำกัดอย่างแท้จริง” พร้อมทั้งอวยพรให้เกิด “ความเจริญรุ่งเรืองทั้งต่อชาวรัสเซียและชาวจีน”

 

  • ขณะที่การพูดคุยกับผู้นำจีนและเรียกขานกันว่าเพื่อนรักยังถูกมองว่าเปรียบเสมือนการโค่นล้มความพยายามในการโดดเดี่ยวรัสเซียและปูติน หลังจากที่ไม่กี่วันก่อนหน้านี้ศาลอาญาระหว่างประเทศได้ออกหมายจับปูตินในข้อหาก่ออาชญากรรมสงคราม จากการบีบบังคับเนรเทศเด็กๆ ชาวยูเครนไปยังรัสเซียอย่างไม่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ตอนนี้เขาได้พิสูจน์ให้เห็นว่ายังคงมีมิตรภาพสำคัญจากจีนอยู่

 

  • อย่างไรก็ตาม อเล็กซานเดอร์ กาบูเยฟ (Alexander Gabuev) นักวิเคราะห์ผู้เชี่ยวชาญด้านจีน และสมาชิกอาวุโสของ Carnegie Endowment for International Peace มองความสัมพันธ์ระหว่างจีนและรัสเซีย และผลลัพธ์จากการออกหมายจับปูตินดังกล่าว ว่ามีแต่จะเพิ่มอำนาจต่อรองของจีนให้อยู่เหนือรัสเซีย

 

  • “สีจิ้นผิงไม่ได้อายที่ได้พบกับปูติน และคำตัดสินนี้ทำให้ ‘เพื่อนรัก’ ของสีจิ้นผิงอยู่ในเงื้อมมือของเขามากขึ้นเท่านั้น” กาบูเยฟกล่าว

 

  • ในการพูดคุยกันเมื่อวันจันทร์นานกว่า 4 ชั่วโมงครึ่ง ทั้งสีและปูตินตอกย้ำความสัมพันธ์ใกล้ชิดและมุมมองในเชิงยุทธศาสตร์ที่จีนและรัสเซียมีร่วมกัน 

 

  • โดยปูตินกล่าวต่อสีว่ารู้สึก ‘อิจฉาเล็กน้อย’ ต่อระบบการพัฒนาเศรษฐกิจและเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับรัฐของจีนที่มีประสิทธิภาพอย่างมาก 

 

  • ทางฝ่ายสีก็กล่าวยกย่องปูติน โดยทำนายว่าชาวรัสเซียจะเลือกเขาให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีอีกครั้งในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นปีหน้า แม้จะยังไม่มีความชัดเจนว่าปูตินจะลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีต่ออีกสมัยหรือไม่

 

แผนสันติภาพยุติสงครามยูเครน

 

  • แผนสันติภาพ 12 ประการของจีน เพื่อหาทางออกให้กับสถานการณ์สงครามยูเครน ซึ่งจนถึงวันนี้ยืดเยื้อมานานเกือบ 13 เดือน ถูกวางเป็นประเด็นหลักในการพบกันของสีและปูติน

 

  • ปูตินกล่าวแสดงจุดยืนต่อสีตั้งแต่การพบกันวันแรกว่ารัสเซียนั้นพร้อมสำหรับการหารือต่อข้อเสนอของจีนเพื่อยุติสงครามยูเครน และรัสเซียนั้น “เปิดรับกระบวนการเจรจาเสมอ”

 

  • โดยในแถลงการณ์ร่วมภายหลังการพูดคุยเป็นทางการเมื่อวานนี้ (21 มีนาคม) เขาระบุว่า “ข้อเสนอของจีนในการยุติความขัดแย้งสามารถใช้เป็นพื้นฐานของข้อตกลงสันติภาพได้” แต่มองว่าแผนสันติภาพจะสามารถเดินหน้าได้ก็ต่อเมื่อรัฐบาลเคียฟและชาติตะวันตกนั้นมีความพร้อม 

 

  • “เราเชื่อว่าบทบัญญัติหลายข้อของแผนสันติภาพที่จีนเสนอนั้นสอดคล้องกับแนวทางของรัสเซีย และสามารถใช้เป็นพื้นฐานสำหรับข้อตกลงอย่างสันติ เมื่อพวกเขาพร้อมสำหรับสิ่งนั้นในชาติตะวันตกและเคียฟ อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้เรายังไม่เห็นความพร้อมดังกล่าวจากฝ่ายของพวกเขา” ปูตินกล่าว

 

  • สำหรับเนื้อหาหลักของแผนสันติภาพ 12 ประการ ที่จีนเผยแพร่ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ระบุข้อเรียกร้องหลักคือ การเจรจาสันติภาพและให้แต่ละฝ่ายเคารพอธิปไตยของชาติ โดยเน้นการลดระดับความรุนแรงและการหยุดยิงในยูเครน แต่ขาดรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีการยุติสงคราม และไม่มีเงื่อนไขให้รัสเซียถอนกำลังทหารออกจากยูเครนอย่างชัดเจน 

 

  • ขณะที่ฝ่ายยูเครนแสดงจุดยืนมาตลอดว่าต้องการให้รัสเซียถอนกำลังทหารออกไปจากประเทศก่อนที่จะมีการเปิดการเจรจาใดๆ ก็ตาม ซึ่งที่ผ่านมารัสเซียไม่เคยมีทีท่าหรือส่งสัญญาณว่าจะทำตามที่ยูเครนต้องการ

 

  • ทั้งนี้ สองผู้นำยังได้ลงนามในแถลงการณ์ร่วม ระบุว่าสิ่งสำคัญคือต้อง “เคารพข้อกังวลทางกฎหมายของทุกประเทศ” และเน้นย้ำว่าสิ่งสำคัญคือต้องป้องกันไม่ให้ความขัดแย้งในยูเครนทวีความรุนแรงจนเกินการควบคุม

 

  • “ฝ่ายต่างๆ เรียกร้องให้ยุติขั้นตอนทั้งหมดที่ทำให้เกิดการขยายความตึงเครียดและความเป็นปรปักษ์ที่ยืดเยื้อ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้วิกฤตทวีความรุนแรงมากขึ้น” แถลงการณ์ระบุ

 

  • อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่ปูตินและสีเห็นพ้องต้องกันคือ “สงครามนิวเคลียร์จะต้องไม่มีวันปะทุขึ้น” 

 

ความร่วมมือด้านความมั่นคงและการทหาร

 

  • เนื้อหาแถลงการณ์ร่วมยังระบุถึงความกังวลของรัสเซียและจีนที่มีต่อการขยายอิทธิพลและบทบาทมากขึ้นของ NATO ในภูมิภาคเอเชีย อีกทั้งยังกล่าวหาสหรัฐฯ ว่าพยายาม ‘บั่นทอน’ ความมั่นคงของโลก

 

  • “ฝ่ายต่างๆ เรียกร้องให้สหรัฐฯ หยุดบ่อนทำลายความมั่นคงระหว่างประเทศและภูมิภาค ตลอดจนเสถียรภาพทางยุทธศาสตร์ทั่วโลก เพื่อรักษาความได้เปรียบทางทหารฝ่ายเดียว”ทั้งสองประเทศระบุในแถลงการณ์

 

  • นอกจากนี้ ทั้งสีและปูตินยังหารือข้อกังวลเกี่ยวกับสนธิสัญญา AUKUS ซึ่งเป็นข้อตกลงความมั่นคงไตรภาคีระหว่างสหรัฐฯ สหราชอาณาจักร และออสเตรเลีย ที่มีเป้าหมายสำคัญคือการต่อต้านการขยายอิทธิพลของจีนในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก และภายใต้ข้อตกลง สหรัฐฯ จะมอบเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์อย่างน้อย 3 ลำให้แก่ออสเตรเลีย

 

  • ทางด้านสีกล่าวต่อผู้สื่อข่าวหลังการพูดคุยกับปูตินว่า “ในฐานะสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ มอสโกและปักกิ่งจะส่งเสริมโลกหลายขั้ว และสนับสนุนความมั่นคงทางด้านอาหารและพลังงาน” พร้อมทั้งยืนยันว่า “ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและรัสเซียนั้นมีความสำคัญต่อความสงบเรียบร้อยของโลกสมัยใหม่และชะตากรรมของมนุษยชาติ”

 

  • ขณะที่สีและปูตินยืนยันว่าประเทศของพวกเขาจะดำเนินการฝึกซ้อมทางทหารร่วมกันอย่างสม่ำเสมอ และจะเพิ่มพูนความร่วมมือระหว่างกองทัพให้มากขึ้นด้วย

 

ความร่วมมือด้านพลังงาน

 

  • ผลกระทบจากการที่ชาติตะวันตกคว่ำบาตรพลังงานทั้งก๊าซและน้ำมันของรัสเซียส่งผลให้รัฐบาลเครมลินพยายามหาหนทางเพื่อเปลี่ยนเส้นทางจัดส่งพลังงานไปยังเอเชียให้มากยิ่งขึ้น โดยปูตินกล่าวว่ารัสเซียนั้นสามารถตอบสนองความต้องการแหล่งพลังงานที่มากขึ้นของจีนได้

 

  • ในการพบปะกันรอบนี้สองผู้นำยังบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับท่อส่งก๊าซ Power of Siberia 2 ซึ่งจะส่งก๊าซธรรมชาติของรัสเซียไปยังจีนผ่านทางมองโกเลีย

 

  • ขณะที่บริษัท Gazprom ยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานของรัสเซีย กล่าวเมื่อวันอังคารว่า ปริมาณก๊าซที่ส่งรายวันไปยังจีนผ่านท่อส่ง Power of Siberia ที่มีอยู่นั้นเพิ่มสูงเป็นประวัติการณ์

 

ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ

 

  • กรณีเศรษฐกิจรัสเซียที่เผชิญผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตกอย่างต่อเนื่อง เป็นอีกประเด็นที่ถูกหยิบยกขึ้นหารือในระหว่างการพูดคุยของปูตินและสี โดยปูตินระบุว่าการขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างทั้งสองประเทศนั้นเป็น ‘สิ่งสำคัญอันดับแรก’ สำหรับรัสเซีย

 

  • ผู้นำทั้งสองยังได้ลงนามในแถลงการณ์เกี่ยวกับการพัฒนาพื้นที่สำคัญด้านความร่วมมือทางเศรษฐกิจจนถึงปี 2030 โดยปูตินเน้นย้ำความร่วมมือทางด้านการเกษตรเป็นพิเศษ และกล่าวว่ารัสเซียพร้อมที่จะเพิ่มปริมาณการจัดส่งเนื้อสัตว์และเมล็ดพืชให้แก่จีน

 

  • นอกจากนี้ ปูตินยังกล่าวด้วยความเชื่อมั่นว่า “การผนึกกำลังกันจะทำให้ทั้งสองประเทศกลายเป็นผู้นำระดับโลกในด้านไอทีและปัญญาประดิษฐ์”

 

  • ทั้งนี้ ปูตินยังบอกต่อสีว่ารัสเซียนั้นนิยมใช้เงินหยวนของจีนในการค้าขายกับประเทศแถบเอเชีย แอฟริกา และลาตินอเมริกา

 

  • อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ Macro-Advisory บริษัทที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจ มองว่าแม้ว่ารัสเซียจะให้ความสนใจในความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับจีนอย่างมาก แต่ก็เตือนว่าความสัมพันธ์ของสองประเทศนั้นยังมีขีดจำกัด 

 

  • “สีจะยุติความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับรัสเซียทันที หากมันทำให้ต้องสูญเสียความสัมพันธ์ที่มีต่อชาติตะวันตก”

 

สหรัฐฯ-ยูเครน ชี้รัสเซียต้องถอนทหาร

 

  • ทางด้านทำเนียบขาวแสดงท่าทีหลังการพูดคุยระหว่างสีและปูติน โดยระบุว่าจุดยืนของจีนนั้นไม่เป็นกลาง และเรียกร้องให้จีนกดดันรัสเซียให้ถอนกำลังทหารออกจากดินแดนอธิปไตยของยูเครน เพื่อยุติสงคราม

 

  • ขณะที่รัฐบาลเคียฟแสดงความยินดีที่จีนมีส่วนร่วมในความพยายามทางการทูตเพื่อยุติสงคราม แต่ยืนยันว่ารัสเซียต้องถอนทหารออกจากยูเครน และเน้นย้ำถึงความสำคัญของบูรณภาพแห่งดินแดนของยูเครน

 

  • โดยประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครน กล่าวเมื่อวันอังคารว่า เคียฟแนะนำจีนให้เข้าร่วมสูตรสันติภาพของยูเครนเพื่อยุติสงคราม แต่ยังคงรอคำตอบอยู่

 

  • อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ วิจารณ์การเยือนรัสเซียของสีว่าแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของจีนที่จะให้ ‘ความคุ้มครองทางการทูต’ สำหรับความโหดร้ายที่รัสเซียกระทำในยูเครน

 

  • เขากล่าวว่า “โลกไม่ควรหลงกลกับความเคลื่อนไหวทางยุทธวิธีใดๆ ของรัสเซีย ที่ได้รับการสนับสนุนจากจีนหรือประเทศอื่นใดเพื่อจะหยุดสงครามนี้” และ “การเรียกร้องให้หยุดยิง ซึ่งไม่รวมถึงการถอนกองกำลังทหารรัสเซียออกจากดินแดนของยูเครน จะกลายเป็นการสนับสนุนการให้สัตยาบันต่อการยึดครองดินแดนของรัสเซีย”

 

ภาพ: Contributor / Getty Images

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising