×

COMME des GARÇONS x ไก่-ณฐพล บุญประกอบ กับการทำแฟชั่นฟิล์ม มิติใหม่ที่ฉีกทุกกฎเกณฑ์

13.09.2019
  • LOADING...
COMME des GARÇONS: The Inspiration

เมื่อต้นปีที่ผ่านมา หลายคนคงเคยเห็นแฮชแท็ก #10yearschallenge ที่กลายเป็นกระแสในโลกโซเชียลฯ แคปเปญที่เป็นเหมือน ‘ไทม์แมชชีน’ พาเราย้อนกลับไปดูตัวเอง (และคนอื่นๆ) เมื่อ 10 ปีที่แล้ว 

 

เช่นเดียวกันกับตัวเลข 10 ปีของ ไก่-ณฐพล บุญประกอบ ที่หลายคนคุ้นชื่อเขาในฐานะผู้กำกับ 2,215 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว เจ้าของรางวัลภาพยนตร์สารคดียอดเยี่ยมจากเวทีภาพยนตร์แห่งชาติ สุพรรณหงส์ ปี 2561 

.

ล่าสุด ไก่ ณฐพล ได้ร่วมกับ COMME des GARÇONS ประเทศไทย ในโอกาสที่ในปี 2563 แบรนด์จะครบรอบ 10 ปีของการเปิดสาขาแรกในไทย ในแคมเปญ COMME des GARÇONS: The Inspiration พร้อมภาพยนตร์สั้นที่มีชื่อว่า ‘Decade’ ที่จะมาถ่ายทอดเรื่องราว ตีความ บอกเล่ามุมมองของแบรนด์ในสายตาของผู้กำกับชาวไทย

 

นอกจากนี้ยังมีอีกสองผู้กำกับชาวไทยที่ร่วมสร้างสรรค์งานของตัวเองในแคปเปญเดียวกันนี้ด้วยคือ มุก-ปิยะกานต์ บุตรประเสริฐ ผู้กำกับหญิงจากซีรีส์ซิตคอมระดับตำนานอย่าง เนื้อคู่ประตูถัดไป, เนื้อคู่อยากรู้ว่าใคร และ เนื้อคู่ The Final Answer ส่วนอีกคนคือ ป่าน-โชติธัช เจนเกียรติฟู ช่างภาพ ผู้กำกับสารคดีและโฆษณา 

 

THE STANDARD POP มีโอกาสได้สัมภาษณ์พิเศษ ไก่ ณฐพล เกี่ยวกับวิธีการทำงาน มุมมองต่อวงการแฟชั่นของ เรอิ คาวาคูโบะ ผู้ก่อตั้ง COMME des GARÇONS ที่สำคัญคือไอเดียการทำงานที่เขาเลือกถ่ายทอดโดยนำเรื่องราวของคนใน 5 ช่วงวัยที่ห่างกัน 10 ปี มาเป็นบริบทดำเนินเรื่อง โดยเล่ามันออกมาผ่านรูปแบบ Performance Art ได้อย่างน่าสนใจ    

 

COMME des GARÇONS: The Inspiration

 

รู้สึกอย่างไรที่ Club 21 ติดต่อให้มาทำโปรเจกต์นี้

รู้สึกว่าเขาโทรผิดหรือเปล่า คือเรารู้จัก Club 21 เพราะมีเพื่อนทำงานที่นั่น แต่ในขณะเดียวกันมองเข้าไปในกระจกเห็นตัวเองก็นึกในใจ กูแฟชั่นตรงไหน แล้วยิ่งเป็นงานของ COMME des GARÇONS อีก เรามีความรู้ด้านแฟชั่นและข้อมูลเกี่ยวกับแบรนด์ต่ำมาก เลยไม่แน่ใจว่าเขาอยากได้หนังแบบไหนจากเรา ตอนแรกก็แปลกใจก่อน แต่ก็ลองเข้าไปคุยดู แล้วมาปรับจูนกัน เลยคิดว่ามันน่าสนใจและท้าทายดี

 

แล้วแบบนี้คุณทำการบ้านเพิ่มเติมเกี่ยวกับแบรนด์อย่างไร

ด้วยความที่เราเข้ามาแบบว่างเปล่ามาก ความรู้เรื่องแฟชั่นเราน้อยมาก เลยต้องทำการบ้านเยอะ ตั้งแต่วันแรกและทุกๆ วันที่เข้าไปคุย เพราะเราอยากทำให้งานมันออกมาดี 

 

อีกใจหนึ่งเราก็อยากเข้าใจด้วยว่า ทำไมแบรนด์นี้มันถูกพูดถึง และได้รับความเคารพจากโลกแฟชั่น เลยไปอ่านบทสัมภาษณ์ของ เรอิ คาวาคูโบะ (ดีไซเนอร์และผู้ก่อตั้ง) ไปไล่ดูงานเขา ไปอ่านนิทรรศการที่เขาจัดที่ The MET มันน่าสนใจมาก ทำให้เรามองคำว่าแฟชั่นเปลี่ยนไป จากก่อนหน้านี้เราอาจจะไม่แคร์เรื่องแฟชั่น แต่ตอนนี้เราเข้าใจแก่นของคำว่าแฟชั่นมากขึ้น ทั้งวิธีคิด วิธีการออกแบบ แล้วคนทั่วไปมองเห็นแบรนด์อยู่ที่ตรงไหนกันแน่ เราคิดว่าเรามีความเข้าใจสิ่งนี้มากขึ้นกว่าที่ผ่านมา 

 

COMME des GARÇONS: The Inspiration

 

หลังจากที่หาข้อมูลมาเรื่อยๆ สุดท้ายคุณได้แรงบันดาลใจอะไรกลับมาทำงานชิ้นนี้

ตอนแรกเหมือนเราอยู่กลางทะเล เราว่ายไปมั่วทุกทิศ ด้วยความที่แฟชั่นมันเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และถ้าจะพูดถึงสิ่งที่ใหญ่กว่าเรื่องการแต่งตัว มันก็น่าจะเป็นเรื่องวิธีคิดของยุคสมัย เลยย้อนกลับมาถึงเรื่องจุดประสงค์ในการทำหนังเรื่องนี้ที่ COMME des GARÇONS เข้ามาในไทยครบ 10 ปี หรือจะเป็นวาระครบรอบ 50 ปีของแบรนด์ก็ตาม ก็คิดได้ว่าช่วงอายุ 10 ปีนี่มันเกิดการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างเยอะนะ

 

เราไม่ได้รีเสิร์ชแค่เรื่องแบรนด์อย่างเดียว แต่ยังมีเรื่องของช่วงเวลาที่มาช่วยเล่าเรื่อง เลยไปเจองานวิจัยของ ดาเนียล กิลเบิร์ต ชื่อว่า ‘End of History Illusion’ ที่ค้นพบว่า ‘มนุษย์จะมองว่าตัวเองเป็นรูปปั้นที่สำเร็จแล้วตลอดเวลา’ ทำให้เข้าใจว่าปัจจุบันคือภาพสุดท้ายที่เราจะเป็นแล้วในชีวิต 

 

เช่น เราคิดว่าอีก 10 ปีข้างหน้าเราก็จะแต่งตัวแบบนี้ ไม่เปลี่ยนไปจากนี้เยอะหรอก อาจจะรวยขึ้น แต่ความชอบเราน่าจะเหมือนเดิม ทั้งที่จริงแล้วเรามองกลับไปเราเปลี่ยนเยอะมาก เปลี่ยนตลอดเวลา เลยรู้สึกว่าทฤษฎีนี้มันเข้ากับแฟชั่นและความเปลี่ยนผ่าน เราเลยเอามาเขย่ารวมกับงานนี้ กลายมาเป็น Big Idea โดยการซอยออกมาเป็น 5 ช่วงวัย ที่กินช่วงอายุของคนทั่วไป อายุ 10 ถึง 50 ปี ซึ่งมันบอกอะไรเราได้เยอะเหมือนกัน 

 

COMME des GARÇONS: The Inspiration

 

มีวีธีการเลือกเสียง Voice Over ที่เราได้ยินในคลิปอย่างไร

เราสัมภาษณ์จริงทั้งหมด เพราะด้วยความที่เราจะพูดในนามของยุคสมัยซึ่งมันกว้างมาก ในแต่ละช่วงอายุสามารถจะเป็นใคร ฐานะ ความชอบ หรือมาจากที่ไหนก็ได้ เราเลยต้องการคนที่เขามีอินไซต์เกี่ยวกับแบรนด์ เพราะการที่คนคนหนึ่งจะชอบแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่ง เขาจะต้องชอบวิธีคิด วิถีชีวิต รสนิยมบางอย่างที่มันตรงกับตัวตนของเขา 

 

COMME des GARÇONS มีความขบถ ท้าทายค่านิยมสังคม ไม่หยุดนิ่ง สนุก แต่ก็เคร่งขรึมในบางที เลยให้ทางแบรนด์คัดเลือกคน 5 ช่วงวัยมา ทั้งลูกค้าและคนที่รู้จักแบรนด์ ถึงเราคาดเดาคำตอบไม่ได้ แต่เราเชื่อว่าแต่ละวัยจะมีมุมมองที่เป็นสากลของวัยนั้นๆ เช่น ถ้าเราไปถามวัย 20 ปี ก็จะบอกว่าโลกมันกว้างและดูน่ากลัว พอ 30 ปี ก็จะรู้สึกว่าอยากทำอะไรให้มันเต็มที่เป็นชิ้นเป็นอัน เราคิดว่าคนส่วนใหญ่น่าจะมีความรู้สึกไปในทิศทางที่ใกล้กัน มันเลยสะท้อนออกมาในงานที่มีคนหนึ่งคนออกมาพูดแทนคนส่วนใหญ่ และจะเข้าถึงทุกคนได้

 

ในแง่ของวีธีการเล่าเรื่องและคอนเซปต์ การทำแฟชั่นฟิล์มมันต่างจากงานที่เคยทำหรือเปล่า 

เราไม่เคยทำแฟชั่นฟิล์มมาก่อนเลย มากสุดก็แค่เป็นช่างภาพช่วยถ่ายประมาณ 3-4 งาน แต่ไม่เคยกำกับเอง และไม่เคยคิดว่าจะทำได้ วิธีคิดแฟชั่นฟิล์มจะตรงข้ามกับการทำหนังทั่วไปในแบบที่เราคุ้นเคยที่เป็นงานเชิงตรรกะมากๆ ทั้งตัวละคร เป้าหมาย ทุกอย่างต้องมีเหตุผลรองรับให้คนดูเชื่อ 

 

แต่ตอนที่เราไปเป็นช่างภาพแฟชั่นฟิล์ม เราเห็นผู้กำกับเขาไม่คิดเรื่องความเป็นเหตุเป็นผลเลย มีแต่เรื่อง Aesthetic อย่างเดียว นอกบทเยอะ และคิดตามตรรกะไม่ได้ เราไม่รู้ว่าทำไมนางแบบถึงทำท่านี้ ทำไมคนนี้ใส่ชุดนี้ มันอธิบายไม่ได้ ซึ่งนั่นก็เป็นเสน่ห์ของงานแฟชั่น มันเหนือเหตุผล มันเป็นเรื่องของความรู้สึก

 

แต่ในเรื่องนี้ก็ยังเป็นตัวเรา เราทำในแบบที่เราถนัด เราไม่สามารถถอดวิธีคิดแบบมีเหตุผลออกไปได้ เรื่องนี้ก็เลยจะเป็นแฟชั่นฟิล์มที่คนสามารถถอดรหัสได้ อาจจะง่ายกว่าแฟชั่นฟิล์มทั่วไป มีสัญลักษณ์บางอย่าง เช่น การถ่ายภาพ การตัดต่อที่ทำให้เป็นเนื้อเดียวกันเพื่อให้คนเข้าใจ

 

COMME des GARÇONS: The Inspiration

COMME des GARÇONS: The Inspiration

 

ในงานชิ้นนี้เราจะเห็นการนำท่าทาง การเคลื่อนไหวของผู้คนมาใช้เล่าเรื่อง ทำไมถึงเลือกใช้วิธีนี้

เราโตมาจากการทำมิวสิกวิดีโอที่มีเพลงที่เป็นทั้งบทและตัวเล่าเรื่อง แล้วค่อยเอาภาพมาประกอบเพลง เรื่องนี้ก็เช่นกัน เราเอาสิ่งที่ได้จากการสัมภาษณ์มาเป็นบทของเรื่อง แล้วค่อยตีความออกมาเป็นภาพ ไม่ว่ามันจะสัมพันธ์หรือขัดแย้งกับสิ่งที่เขาพูดก็ตาม เราได้พี่ปูเป้ (ศศพินทุ์ ศิริวาณิชย์) ที่เป็น Performance Artist มาช่วยออกแบบท่า ซึ่งน่าสนใจมาก เพราะว่ามันเป็นอีกวิธีที่ไม่ใช่การพูดออกมาโดยตรงเหมือนบทหนังที่เราเขียน วีธีการคิดเลยเป็นเชิงคอนเซปต์ แล้วค่อยสื่อสารออกมาผ่านท่าทางที่จะอยู่ก้ำกึ่งระหว่างตรรกะและความสวยงาม ตอนทำงานพี่เขาก็จะถามเราว่าซีนนี้คีย์เวิร์ดคืออะไร สิ่งที่เราอยากถ่ายทอดออกมาคืออะไร เช่น ความทะเยอทะยาน เราเลือกฉากเป็นบันได ท่าทางมันก็จะถูกพัฒนาตามเซตอัปนี้ การยกมือ การเดินโดยพร้อมเพรียงกัน 

 

COMME des GARÇONS: The Inspiration

COMME des GARÇONS: The Inspiration

 

ในเมื่อจุดเริ่มต้นคือการทำความเข้าใจแฟชั่น แล้วถึงเวลาถ่ายทำ คุณเลือกชุดให้นางแบบแต่ละช่วงวัยใส่อย่างไร

จริงๆ ในหนังอาจจะไม่มีบอกไว้ แต่เราให้คนที่มาสัมภาษณ์อธิบายความชอบของเขาว่ามีวิธีการแต่งตัวอย่างไร ชอบสิ่งนี้เพราะอะไร ตอนนี้เขาใส่ชุดอะไรอยู่ แล้วอีก 10 ปีข้างหน้าเขาจะใส่อะไร และเช่นกัน 10 ปีที่แล้วเขาใส่อะไร แล้วเราเอาคำตอบนี้มาแมตช์กับชุดที่แบรนด์มี 

 

ระหว่างที่ทำงานนี้ ได้เจอสิ่งที่เรารู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งกับแบรนด์ไหม

ทางแบรนด์เล่าให้เราฟังว่า แนวคิดของแบรนด์จริงๆ คือการนิยามธรรมเนียมของสังคมใหม่ แล้วท้าทายกฎระเบียบ กรอบคิด แนวความเชื่อเดิมที่เรามีต่ออะไรบางอย่าง เรารู้สึกว่านี่คือสิ่งที่เราสามารถเชื่อมโยง เราไม่เคยมองว่าแฟชั่นจะต้องทำหน้าที่นี้ อย่างเรอิเองก็มีวีธีการวางตัวของเขาต่อแบรนด์ หรือสื่อต่างๆ ที่แปลกไป เขาเคยพูดว่าไม่อยากทิ้งอะไรไว้ให้คนข้างหลัง ไม่อยากสืบทอดแบรนด์ ทุกอย่างจะจบเมื่อเขาจากไป ซึ่งพีกเหมือนกัน และเราเชื่อว่านั่นคือหน้าที่ของศิลปิน 

 

หลังจากโปรเจกต์นี้ ยังมีความสนใจที่อยากทำแฟชั่นฟิล์มอีกไหม

จริงๆ มันก็สนุกนะ แต่เราว่าอยู่ที่แต่ละโจทย์ เราชอบงานนี้เพราะว่ามันเปิดกว้างมาก ทำอะไรก็ได้ เราเจอสิ่งที่เราอยากทำ แต่ถ้าจะถามว่าเราอยากทำหนังแฟชั่นไหม โดยแบรนด์โยนโจทย์มาให้ แล้วทำให้มันดูสวย คงจะเลือกผิดคน เพราะเราไม่ใช่คนที่ทำแบบนั้นได้ แต่ครั้งนี้เราได้ตีความ เราได้อิสระกับวิธีคิด เราได้ทำในสิ่งที่เราอยากทำจริงๆ 

 

COMME des GARÇONS: The Inspiration

COMME des GARÇONS: The Inspiration

 

ภาพ: ชัชวาล จันทโชติบุตร 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

FYI

แคมเปญ COMME des GARÇONS: The Inspiration จะเปิดตัวพร้อมฉายภาพยนตร์สั้นชุดพิเศษนี้เป็นครั้งแรกในวันที่ 9 ตลุาคม 2562 ที่ศูนย์การค้าเอราวัณ แบงค็อก 

 

ตัวอย่างภาพยนตร์สั้น

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising