เคยไหม อยากใส่เสื้อผ้าเปิดเผยสรีระที่สวยงาม แต่ติดปัญหา ‘เซลลูไลต์’ ที่มองดูคล้ายผิวเปลือกส้ม ยิ่งผิวดูไม่เรียบเนียน ยิ่งไม่มั่นใจ ว่าแต่เจ้าเซลลูไลต์นี้เกิดขึ้นมาได้อย่างไร อันตรายไหม แล้วมีวิธีใดจะช่วยลดเซลลูไลต์อย่างได้ผลแบบไม่ต้องเจ็บตัวหรือเสียค่าใช้จ่ายราคาแพง คงต้องไปขอความรู้จาก Training Manager ผู้เชี่ยวชาญจาก Clarins ที่จะมาช่วยไขข้อข้องใจและแนะวิธี ‘ง่าย’ แต่ ‘ดี’ ในการจัดการกับเซลลูไลต์ที่ทำได้จริงในชีวิตประจำวัน

 

THE STANDARD มีโอกาสได้คุยกับ ศรัณยา จิตต์สนิทกุล ผู้เชี่ยวชาญของ Clarins ตำแหน่ง Training Manager ที่มีชั่วโมงบินในประเทศไทยมายาวนานกว่า 17 ปี ที่จะมาให้ความรู้เกี่ยวกับทางเลือกในการลดเซลลูไลต์ผ่านการขัดผิวและการนวดที่สาวๆ ทุกคนสามารถทำได้ง่ายๆ ในชีวิตประจำวัน แต่ก่อนจะไปทำความเข้าใจถึงการนวดด้วยผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ในการกำจัดเซลลูไลต์ คุณศรัณยาจะเริ่มต้นให้ข้อมูลเกี่ยวกับสาเหตุการเกิดเซลลูไลต์ดังนี้

 

 

สาเหตุของการเกิดเซลลูไลต์

คนทั่วไปมักจะรู้จักเซลลูไลต์ว่ามันก็คือไขมันนั่นแหละ แต่จริงๆ เซลลูไลต์ก็คือก้อนไขมันที่อยู่ใต้ผิวหนังของคนเรา ซึ่งถ้าใต้มีผิวหนังมีไขมันอยู่จำนวนมากจะทำให้ผิวหนังไม่เรียบเนียน ตะปุ่มตะป่ำ คล้ายผิวของเปลือกส้มนั่นเอง ซึ่งมักจะเกิดขึ้นบริเวณหน้าท้อง ต้นขา และช่วงสะโพก การเกิดเซลลูไลต์จะมีหลายปัจจัยด้วยกัน เช่น เกิดจากการสะสมไขมัน เราอาจจะรับประทานอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตเยอะเกินไป กินของทอด ของมันเยอะ หรือโตแล้วระบบการเผาผลาญน้อยลงก็จะเกิดการสะสมไขมันได้ง่าย ปัจจัยต่อมาคือระบบการไหลเวียนที่ไม่ดี มีการคั่งค้างของน้ำเหลืองและผิวที่ขาดความกระชับเนื่องจากอายุมากขึ้น ขาดการออกกำลังกาย ก็เป็นสาเหตุของการเกิดเซลลูไลต์ด้วยเหมือนกัน เมื่อไรที่ 3 ปัจจัยนี้เกิดขึ้นพร้อมกัน เราจะเจอกับปัญหาเซลลูไลต์แน่ๆ นอกจากนี้เซลลูไลต์ยังเกี่ยวข้องโดยตรงกับฮอร์โมนเอสโตรเจน จึงพบปัญหาเซลลูไลต์ในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายถึง 80% (พบในผู้หญิงยุโรปมากกว่าเอเชีย) อย่างคนที่รับประทานยาคุมกำเนิดหรือผู้หญิงหลังคลอดก็จะเจอกับเซลลูไลต์ง่าย เพราะร่างกายจะมีระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนสูง

 

 

เซลลูไลต์อันตรายมากน้อยแค่ไหน

THE STANDARD ไปหาข้อมูลและผลวิจัยเกี่ยวกับเซลลูไลต์มาเพิ่มก็พบว่าหลายงานวิจัยทั้งไทยและต่างประเทศมีผลสรุปในทิศทางเดียวกันว่าเซลลูไลต์ไม่ใช่การเจ็บป่วย ไม่ก่อให้เกิดโรคร้าย แต่สำหรับผู้หญิงที่กำลังเผชิญกับปัญหานี้ตามหน้าท้อง ต้นแขน และต้นขามักจะไม่ชอบ และมันมีผลต่อความมั่นใจในการแต่งตัว เพราะไม่สามารถอวดสรีระที่สวยงามได้ มีผลต่อสุขภาพจิตและอารมณ์ ขณะที่ผลวิจัยบอกว่าเซลลูไลต์ไม่ได้อันตรายอย่างที่คิด แต่แพทย์ส่วนใหญ่ก็ยังอยากเตือนให้ทุกคน โดยเฉพาะสาวๆ ตระหนักถึงการป้องกันเซลลูไลต์ให้มากขึ้น เพราะการที่ร่างกายของเรามีเซลลูไลต์เกิดขึ้นเท่ากับเป็นสัญญาณเตือนสุขภาพโดยทั่วไปได้ว่าเรากำลังมีไลฟ์สไตล์ที่ไม่ถูกต้องหรือเปล่า รับประทานอาหารที่ทำให้สะสมไขมันมากเกินไป ไม่ออกกำลังกาย ดื่มน้ำหรือพักผ่อนน้อย พฤติกรรมเหล่านี้นอกจากจะเป็นต้นเหตุของเซลลูไลต์แล้วยังอาจบานปลายไปสร้างโรคอื่นๆ ตามมาอีกได้

 

 

วิธีการกำจัดเซลลูไลต์

หลายคนสงสัยว่าเซลลูไลต์สามารถรักษาให้หายขาดได้ไหม คำตอบคือปัจจุบันยังไม่มีวิธีการรักษาและกำจัดเซลลูไลต์ที่ได้รับการยืนยันทางการแพทย์ว่าสามารถกำจัดเซลลูไลต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและหายขาด แต่เซลลูไลต์ก็เป็นสิ่งที่คนเราสามารถลดได้ เช่น ลดเซลลูไลต์จากการปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ ตั้งแต่เรื่องการคุมอาหาร เลิกรับประทานของหวาน ของมัน ของทอด รับประทานผักผลไม้มากขึ้นแล้วหันมาออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ ก็จะช่วยให้ระบบในร่างกายเกิดการเผาผลาญไขมันออกไป แต่ควรใช้เวลาในการออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาทีขึ้นไป โดยเลือกกีฬาที่ตัวเองชื่นชอบ เช่น เดิน วิ่ง ปั่นจักรยาน หรือว่ายน้ำ นอกจากนี้ยังต้องเพิ่มความแอ็กทีฟให้ตัวเอง โดยเฉพาะสาวๆ ที่เกิดเซลลูไลต์มากกว่าผู้ชาย เพราะไม่ค่อยขยับร่างกาย ไม่ชอบเดิน ไม่ชอบออกกำลังกาย ไขมันจึงสะสมได้ง่าย เวลานั่งทำงานนานๆ ก็ลุกขึ้นเดินผ่อนคลายอิริยาบถบ้างก็สามารถช่วยลดเซลลูไลต์ได้ง่ายๆ

นอกจากนี้ยังมีวิธียอดนิยมคือ การขัดผิว การทาครีมสลายเซลลูไลต์ รวมถึงการนวดน้ำมันก็เป็นวิธีที่ช่วยสลายไขมันและกระตุ้นการไหลเวียน รวมถึงกำจัดของเสียในร่างกายได้ด้วย

 

 

ลดเซลลูไลต์ได้ง่ายๆ ผ่านกิจกรรมในชีวิตประจำวัน

“จริงๆ แล้วมีวิธีการลดเซลลูไลต์ที่ทำได้ง่ายๆ อยู่หลายวิธี แค่อาบน้ำก็ทำได้แล้วนะ เราอาจจะหาแปรง ฟองน้ำ หรือบางคนใช้ใยบวบมาขัดวนที่ผิว เน้นบริเวณที่มีเซลลูไลต์มากหน่อย การขัดผิวนี่แหละช่วยทำให้ระบบต่อมน้ำเหลืองไหลเวียนได้ดีและเป็นการช่วยขจัดเซลล์ไขมัน เพราะความร้อนจากการขัดถูจะทำให้ไขมันบางส่วนละลายได้ ทำให้ก้อนไขมันที่อยู่ใต้ชั้นผิวอันเป็นต้นเหตุของผิวเปลือกส้มอ่อนนุ่มลง ไม่จับตัวเป็นก้อน ผิวเปลือกส้มจึงดูเรียบเนียนขึ้น

“การนวดน้ำมันก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ได้รับความนิยม เพราะมันสบาย ไม่ต้องเจ็บตัว ไม่ต้องเสียเงินไปกับค่าเครื่องมือแพงๆ ทั้งยังช่วยทำให้สามารถนวดผิวได้คล่องขึ้น และไม่เหนี่ยวรั้งผิวจนทำให้ผิวเหี่ยวย่น การนวดจะช่วยให้ผิวบริเวณที่มีปัญหาเซลลูไลต์อ่อนนุ่มลง มันจะไปกระตุ้นระบบการไหลเวียน โดยเฉพาะในจุดที่มีเซลลูไลต์หรือก้อนไขมันสะสมที่อยู่ตามชั้นผิวหนัง พอมันถูกนวดกระตุ้นผ่านการนวดที่ถูกวิธีด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพ ทำให้ความหนาของชั้นไขมันลดลง เกิดการแตกตัวของก้อนไขมันเหล่านั้น นำไปสู่ผลลัพธ์ที่ทำให้เซลลูไลต์หรือผิวเปลือกส้มมีขนาดเล็กลงจนแลดูเรียบเนียนขึ้น

 

 

“วิธีที่ง่ายสุดอีกวิธีคือการนวดผิวขณะทาครีมบำรุง ซึ่งเป็นกิจวัตรที่เราทำอยู่แล้วในชีวิตประจำวัน หลักการเหมือนกับการขัดผิวขณะอาบน้ำ นั่นก็คือการกระตุ้นระบบการไหลเวียนของเลือดและกระตุ้นประสิทธิภาพของระบบการกำจัดของในร่างกาย อย่าง Clarins เองก็จะมีผลิตภัณฑ์ Body Lift ที่ถูกค้นคว้าวิจัยมาเพื่อลดเลือนปัญหาผิวเปลือกส้มโดยตรง สามารถใช้ทาบำรุงบริเวณที่มีปัญหาผิวเปลือกส้ม เช่น หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา แล้วใช้ชีวิตตามปกติ ตัวผลิตภัณฑ์จะทำหน้าที่ของมันในการกระชับผิวและช่วยลดเลือนผิวเปลือกส้มให้ดูเรียบเนียนขึ้นเอง”  

 

 

สเตปการเห็นผลลัพธ์จากครีมเจล Body Lift

“อย่างแรกที่จะเห็นผลเลยก็คือจะรู้สึกว่าผิวกระชับขึ้นเมื่อผ่านไปประมาณ 1-2 วัน หลังจากนั้นประมาณ 1 สัปดาห์จะเริ่มเห็นด้วยตาเปล่าว่ารอยผิวเปลือกส้มที่เป็นเซลลูไลต์จะลดลง แต่ถ้าจะให้ได้ผลดีที่สุดตามที่มีการทดสอบมาแล้วโดยผู้เชี่ยวชาญต้องใช้ต่อเนื่องเป็นเวลา 28 วัน จะเห็นผลเลยว่าผิวจะดูเรียบเนียนขึ้น แลดูเฟิร์มกระชับขึ้น ข้อดีอีกอย่างของผลิตภัณฑ์ Body Lift สำหรับคนที่ดูแลรูปร่างอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายหรือการพึ่งพาเทคโนโลยีสลายไขมันจากสถานบริการต่างๆ ก็สามารถใช้ผลิตภัณฑ์นี้ควบคู่ไปด้วยได้ เพื่อช่วยคงผลลัพธ์จากการออกกำลังกายหรือการสลายไขมันนั้นให้อยู่ได้ยาวนานขึ้น บวกกับวิธีการใช้ก็แค่ทาบำรุงผิว ซึ่งเป็นสิ่งที่เราทำอยู่แล้วในชีวิตประจำวันได้อย่างง่ายดายและประหยัดเวลาที่สุด”

 

เอาล่ะ สาวๆ น่าจะรู้จักและเข้าใจวิธีการกำจัดเซลลูไลต์ให้ผิวกลับมาแลดูสวยเรียบเนียนขึ้นด้วยวิธีการที่ไม่ยากเลย THE STANDARD อยากให้หนุ่มสาวสมัยใหม่ใส่ใจเรื่องเซลลูไลต์กันมากขึ้น แม้เซลลูไลต์จะไม่สร้างอันตรายใหญ่หลวง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันก็เป็นอีกหนึ่งสัญญาณเตือนว่าเรากำลังใช้ชีวิตที่ไม่สมดุลจนอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพอื่นๆ ที่เป็นอันตรายมากกว่าได้ ทางที่ดีมาเริ่มดูแลตัวเองตั้งแต่วันนี้ ปรับไลฟ์สไตล์ให้กิน ดื่ม ออกกำลังกายอย่างมีคุณภาพ และหมั่นทาครีมที่ช่วยกระชับผิวให้เรียบเนียน เพียงเท่านี้ก็สามารถเป็นเจ้าของหุ่นฟิตเฟิร์มกระชับได้แล้ว