วานนี้ (20 สิงหาคม) ที่บริเวณหน้าศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก กลุ่มพลเมืองโต้กลับ นำโดย พันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ แกนนำกลุ่ม พร้อมด้วยผู้เข้าร่วมกิจกรรมประมาณ 20 กว่าคน เข้าร่วมกิจกรรม ‘ยืน หยุด ขัง 1.12 ชั่วโมง’ พร้อมห้อยป้ายปล่อยเพื่อนเรา เพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวนักกิจกรรมที่โดนจับกุม โดยในวันนี้มี รุ้ง-ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล และ สุรีย์รัตน์ ชิวารักษ์ แม่ของ เพนกวิน-พริษฐ์ ชิวารักษ์ แกนนำราษฎร มาร่วมยืนด้วย
ปนัสยากล่าวว่า เมื่อวันก่อน จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน ก็ได้ยื่นขอประกันใหม่ แต่ก็โดนยกคำร้อง ทั้งที่ไม่ได้ผิดเงื่อนไขที่กำหนดไว้ คือไม่ได้พูดพาดพิงสถาบันฯ ให้เสื่อมเสียเลย แต่ศาลบอกว่า จตุภัทร์กลับไปจัดการชุมนุมต่อ แล้วใช้พฤติการณ์ที่เกิดขึ้นใหม่มาถอนประกัน ซึ่งมันก็น่าสงสัย ตอนนี้มีเพื่อนเรา 5 คนแล้วที่ติดโควิดจากในเรือนจำ และไม่ได้รับการดูแลอย่างดีเท่าที่ควร อย่างเพนกวินเป็นผู้ป่วยระดับสีเหลืองแล้ว และเป็นหอบหืดด้วย ซึ่งจากที่คุยกับแม่เพนกวิน ตอนนี้เพนกวินอาการค่อนข้างน่าเป็นห่วง มีไข้และมีเสมหะ เอกซเรย์ปอดมีฝ้าขาวแล้ว ที่เพนกวินฝากบอกเรามาคือเหนื่อยแต่ก็ยังไหว ยิ่งทำให้เราเป็นห่วง
ปนัสยากล่าวอีกว่า ทางเราได้ติดต่อกับโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ไว้แล้วว่าจะขอส่งตัวผู้ต้องหาหรือจำเลยที่เป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ไปรักษาที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ แต่สุดท้ายราชทัณฑ์ก็ปฏิเสธ โดยหมอบอกกับเพนกวินว่า รอให้อาการหนักกว่านี้ค่อยว่ากัน นี่คือสิ่งที่คนเป็นหมอควรจะทำหรือไม่ ถ้าคุณดูแลไม่ได้ก็ควรจะโอนย้ายเพื่อนเราไปที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เพื่อให้ได้รับการดูแลที่ดี
ส่วนกระแสข่าวว่า นิว-สิริชัย นาถึง อดอาหารมา 4 วัน คาดว่าเป็นเพราะเครียด เพราะเข้าไปในเรือนจำครั้งแรก ซึ่งนิวเองก็ไม่ควรจะติดเพราะออกมาเรียกร้องเรื่องเหล่านี้ เขากำลังแกล้งให้เพื่อนเราไปติดโควิด ซึ่งเพื่อนเราก็ติดจากเจ้าหน้าที่ที่อยู่ในเรือนจำที่เขาได้ไปส่งอาหารให้เพื่อนเรา อยากถามว่า กระทรวงยุติธรรม ราชทัณฑ์ กำลังทำอะไรอยู่
ส่วนสถานการณ์เหตุปะทะกันที่สามเหลี่ยมดินแดง ปนัสยากล่าวว่า เป็นห่วงมาก ทั้งคนที่ไปชุมนุมและประชาชนที่อยู่โดยรอบ แต่ยืนยันว่า การตอบโต้ของทั้งสองฝั่งไม่เคยเท่ากัน ประชาชนมีแค่มือเปล่า พลุ สี แต่เจ้าหน้าที่รัฐมีกระสุนยางและแก๊สน้ำตา หรือกระทั่งกระสุนจริงที่ยังไม่รู้ว่ามาจากใคร แต่ยิงใส่เด็กอายุ 15 ปี ซึ่งขณะนี้ยังไม่ฟื้น เราเป็นห่วงมากๆ แต่เราจะไม่กีดกันพวกคุณออกจากขบวน เราจะไม่ห้ามปราม แต่เป็นห่วงมากๆ ยืนยันว่า ไม่ควรมีใครมาเจ็บแม้แต่นิดเดียว ซึ่งเราไม่กังวลว่าการเคลื่อนไหวของกลุ่มไหนจะทำให้น้ำหนักการชุมนุมของเราลดลง เพราะเราชัดเจนในการสื่อสาร ซึ่งคนที่ชุมนุมที่สามเหลี่ยมดินแดงก็มีข้อเรียกร้องเดียวกับเราคือ 3 ข้อเรียกร้อง และที่เร่งด่วนก็คือไล่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกไปในตอนนี้
ด้านสุรีย์รัตน์กล่าวว่า การที่เพนกวินกับเพื่อนถูกขังในครั้งนี้ ก่อนเข้าไปพวกเขาไม่ได้ติดโควิด แต่พอเข้าไปแล้วติดโควิด และมีคนที่ติดโควิดรอบสอง วันนี้ตนเพิ่งไปเยี่ยมลูกและเพิ่งได้กลับจากเรือนจำ รวมทั้งรู้สึกเป็นห่วงสิริชัยเพราะอดอาหาร
“เมื่อวานนี้ได้ทราบข่าวว่า สถานพยาบาลได้ให้ยารักษาโรคหอบหืดผิด พอมาวันนี้ได้ทราบว่าลืมให้ยารักษาโควิดกับเพนกวินจนต้องมีการทักเตือน มันเกิดความผิดพลาดอะไรขึ้นกันแน่ เมื่อคืนประมาณเวลาตีหนึ่ง เพนกวินมีอาการหอบหืดกำเริบ ไม่มีหมอมาดู ใช้วิธีเช็กปอดด้วยการให้ซิตอัพ ซึ่งเพนกวินทำได้เพียงหนึ่งครั้ง และหมอยังมาบอกแม่ว่าดูแลอย่างดี” สุรีย์รัตน์กล่าว
สุรีย์รัตน์กล่าวต่อไปว่า ตนได้รับการยืนยันจากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ว่ามีความพร้อมในการรับเด็กเข้าไปดูแล เหลือแค่ทางกรมราชทัณฑ์ที่ยืนยันไม่ให้เพนกวินกับเด็กๆ ไป หมอก็ยังมาบอกกับตนว่าทุกวันดี แต่หมอรู้หรือไม่ว่าสิริชัยอดอาหารมา 4 วันแล้ว เราไม่อยากเสียเวลาที่จะมาทดลองว่าอาการจะดีขึ้นในแต่ละวันหรือไม่ ชีวิตคนไม่ควรมาเสี่ยงว่าตาดีได้ตาร้ายเสีย คนไข้เตียงรอบๆ ข้างของเพนกวินมีแต่คนที่มีอาการแทรกซ้อนและติดเชื้อหนัก เสียชีวิตไปหลายราย เพนกวินเองก็มีโอกาสที่จะติดเชื้อไปด้วย
วันนี้ที่ไปเยี่ยมลูก ลูกได้โชว์แผลที่หลังมือจากการถูกเข็มเจาะ ซึ่งต้องทำแผลเอง ลูกโชว์แผลที่มือพร้อมพูดกับตนว่า ถ้าแบบนี้ติดเชื้อจะทำอย่างไร ซึ่งมันก็มีกรณีแบบนี้เยอะที่มีข่าวออกมาว่าติดเชื้อในกระแสเลือดและเสียชีวิต หรือการให้ยาผิดแล้วตาย ถือว่าดีที่ลูกตนยังจำตัวยาได้ ก็เลยยังไม่ได้กิน ลองคิดดูว่าถ้าหากเป็นยาฉีด ลูกของตนไม่ตายไปแล้วหรืออย่างไร แล้วยังมาบอกว่าดูแลได้ดี ในช่วงหลังก็เริ่มมีปัญหาในการเข้าเยี่ยมแล้ว หลังจากที่เรารู้เยอะขึ้นว่าลูกตนสุขภาพแย่ลง และเริ่มมีท่าทางไม่อยากให้ตนได้เยี่ยมแล้ว
“เด็กต้องหาขวดในถังขยะมารองน้ำกิน และเด็กบอกว่ายุงเยอะมากจะเป็นไข้เลือดออก เพนกวินเคยอดอาหารมานาน ร่างกายยังไม่ฟื้น เพนกวินเคยเป็นไข้เลือดออกซึ่งเป็นซ้ำไม่ได้ ถ้าหากเป็นไข้เลือดออกซ้ำก็อาจจะตายได้ คุณช่วยอนุญาตให้เด็กย้ายไปโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เด็กไม่ได้ไปไหน รักษาเสร็จก็กลับมาอยู่เรือนจำเหมือนเดิม เด็กไม่ได้หนีไปไหน การรักษามันลองไม่ได้ คุณบอกให้ลองก่อน ถ้าเป็นลูกคุณ คุณจะเสี่ยงไหม เอาคนที่คุณรักมารักษาที่โรงพยาบาลนี้กล้าหรือไม่ ลูกทุกคนมีค่ากับพ่อแม่” สุรีย์รัตน์กล่าวในที่สุด