Citigroup สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ของโลก ปรับตัวเลขคาดการณ์ GDP จีนในปีนี้ขึ้นจาก 4.7% เป็น 5% ซึ่งตรงกับเป้าหมายการเติบโตของรัฐบาลจีน หลังตัวเลขกิจกรรมทางเศรษฐกิจแดนมังกรบางส่วนเริ่มมีสัญญาณเชิงบวก
อวี่เซี่ยงหรง หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ Citigroup ระบุในรายงานว่า เศรษฐกิจจีนน่าจะผ่านพ้นจุดต่ำสุดไปแล้ว ทำให้มีโอกาสที่ยอดค้าปลีกและการผลิตภาคอุตสาหกรรมจะปรับตัวดีขึ้นในช่วงหลังจากนี้ ขณะที่การส่งออกที่หดตัวในช่วงที่ผ่านมาก็น่าจะมีแนวโน้มดีขึ้นเช่นกัน หลังตัวเลขการผลิตในประเทศของจีนล่าสุดสามารถกลับมาขยายตัวได้เป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน
“หากนำปัจจัยข้างต้นมาประกอบกับมาตรการกระตุ้นของภาครัฐ GDP ในปีนี้ของจีน ก็มีโอกาสที่แตะระดับเป้าหมายของรัฐบาลที่ 5% ก่อนหน้านี้เราปรับลดประมาณการเศรษฐกิจจีนลงไปอยู่ที่ 4.7% เพราะผิดหวังกับมาตรการกระตุ้นของภาครัฐ แต่การผ่อนคลายมาตรการในภาคอสังหาริมทรัพย์ล่าสุดก็ทำให้เรามีมุมมองเชิงบวกมากขึ้น” อวี่ระบุ
แม้ว่าดัชนีชี้วัดทางเศรษฐกิจของจีนหลายๆ ตัวจะเริ่มดูมีเสถียรภาพมากขึ้น แต่การฟื้นตัวจะเป็นไปได้อย่างต่อเนื่องหรือไม่ ยังเป็นสิ่งที่ต้องจับตามองต่อไป โดยนักเศรษฐศาสตร์จากหลายสำนักยังแสดงความกังวลต่อการฟื้นตัวของอุปสงค์ภายในประเทศ ตลาดแรงงาน และวิกฤตในภาคอสังหาริมทรัพย์
หนึ่งในปัจจัยชี้วัดสำคัญที่หลายฝ่ายกำลังจับตาดูอย่างใกล้ชิดหรือดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในช่วงเทศกาลหยุดยาว วันชาติของจีน ระหว่างวันที่ 29 กันยายน – 6 ตุลาคม โดยข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์ของจีนพบว่า ในช่วง 3 วันแรกของเทศกาล ยอดขายของร้านค้าปลีกและร้านอาหารในประเทศปรับตัวสูงขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 8.3% ซึ่งถือเป็นสัญญาณเชิงบวก
ขณะเดียวกันกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวของจีนยังพยากรณ์ด้วยว่า ในช่วงเทศกาลหยุดยาวดังกล่าว ชาวจีนจะมีการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศถึง 900 ล้านทริป ซึ่งสูงกว่าตัวเลขในช่วงก่อนเกิดวิกฤตโควิดถึง 5%
คริสตี ฮัง นักวิเคราะห์ของ Bloomberg Intelligence ระบุว่า เพื่อผลักดันให้ GDP ในปีนี้เติบโตได้ตามเป้าหมาย รัฐบาลจีนอาจมีการออกมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ออกมาเพิ่มเติมอีก เนื่องจากยอดขายบ้านใหม่ของจีนขณะนี้ยังดูไม่สู้ดีนัก โดยเฉพาะในเดือนที่ผ่านมาซึ่งหดตัวไปถึง 34%
อ้างอิง: