×

นิติเวชรับอวัยวะภายใน ‘น้องเมย’ พรุ่งนี้ ทราบผล 30 พ.ย. แจงยังไม่มีมาตรฐาน เก็บอวัยวะไว้ต้องบอกญาติหรือไม่

22.11.2017
  • LOADING...

     สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม นำโดยนายสมณ์ พรหมรส ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ พร้อมด้วยนายแพทย์ไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ รองผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และแพทหญิงปานใจ โวหารดี ผู้อำนวยการกองส่งเสริมและพัฒนางานนิติวิทยาศาสตร์ ชี้แจงกรณีการผ่าชันสูตรพลิกศพนายภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือน้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 ที่เสียชีวิตเมื่อวันที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมา

     นายสมณ์กล่าวว่า ทางสถาบันรับหนังสือจากทางพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรอำเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม เพื่อขอให้ชันสูตรศพของน้องเมยซ้ำเป็นครั้งที่ 2 หลังมีการผ่าชันสูตรครั้งแรกที่ศูนย์อำนวยการแพทย์พระมงกุฎเกล้า เนื่องจากญาติยังติดใจสงสัยถึงสาเหตุการเสียชีวิต จึงร้องขอให้พนักงานสอบสวนดำเนินการชันสูตรซ้ำ

     ทางสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ตั้งคณะกรรมการซึ่งเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ 3 คน โดยเริ่มผ่าชันสูตรศพเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน แต่ไม่พบชิ้นส่วนสำคัญคือสมอง หัวใจ และกระเพาะอาหาร จึงแจ้งประสานไปยังโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าผ่านพนักงานสอบสวน เพื่อขอให้ส่งอวัยวะสำคัญดังกล่าวมาให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ตรวจพิสูจน์

     ประเด็นคาใจคือทำไมแพทย์โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าหรือพนักงานสอบสวนจึงไม่แจ้งต่อสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ว่าได้เก็บอวัยวะสำคัญภายใน

     นายแพทย์ไตรยฤทธิ์ชี้แจงว่า พนักงานสอบสวนเป็นคนกลางในการส่งศพมาผ่าพิสูจน์ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งทางพนักกงานสอบสวนก็คงไม่ทราบว่าศพมีอวัยวะภายในไม่ครบ ขณะที่ผู้ผ่าพิสูจน์ทีมแรกมีความตั้งใจดีที่จะเก็บอวัยวะสำคัญเอาไว้เพื่อตรวจอย่างละเอียด และไม่ทราบล่วงหน้าว่าจะมีการขอชันสูตรซ้ำ ยืนยันว่าสิ่งที่ทีมแพทย์โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าทำเป็นวิธีการที่ถูกต้อง เนื่องจากมีการเก็บอวัยวะไว้อย่างดี ซึ่งอวัยวะภายในของน้องเมยทั้งหัวใจ สมอง และกระเพาะอาหาร จะถูกส่งมาถึงที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ในวันพรุ่งนี้ (23 พ.ย.) จากนั้นจะใช้เวลา 7 วันในการตรวจชันสูตร คาดว่าจะทราบสาเหตุการเสียชีวิตได้ในวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้

     ขณะที่แพทย์หญิงปานใจ โวหารดี ผู้อำนวยการกองส่งเสริมและพัฒนางานนิติวิทยาศาสตร์กล่าวว่า การชันสูตรพลิกศพในกรณีการตายแบบผิดธรรมชาติจะยึดคำตอบหรือการหาสาเหตุการเสียชีวิตเป็นประโยชน์สูงสุด ดังนั้นการผ่าชันสูตร กฎหมายระบุให้สามารถผ่าชันสูตรศพได้ทันทีโดยไม่ต้องแจ้งญาติก่อน ส่วนเมื่อผ่าชันสูตรเสร็จแล้ว ในขั้นตอนการส่งศพคืนจำเป็นจะต้องแจ้งให้ญาติทราบหรือไม่ว่ามีการเก็บอวัยวะภายในไว้

     เนื่องจากว่ายังไม่มีมาตรฐานหรือแนวทางที่ชัดเจนในประเทศไทยว่าจะต้องแจ้งญาติ ในครั้งต่อไปจะต้องพิจารณาเรื่องการสื่อสารระหว่างแพทย์และญาติมากขึ้น ญาติมีสิทธิ์ที่จะสอบถามแพทย์ว่าได้มีการเก็บอวัยวะไว้ ในทางปฏิบัติที่ผ่านมาก็มีแนวทางที่ทำทั้งสองแบบ คือมีทั้งที่แพทย์เก็บไว้แล้วอาจจะแจ้งว่าตรวจเสร็จแล้ว ให้ญาติมารับไปทำพิธีเอง หรือแบบที่ญาติมอบให้แพทย์ทำพิธีในภายหลังเลย ยืนยันว่าการเก็บอวัยวะไว้ตรวจสอบเป็นแนวทางที่กระทำได้เพื่อให้ได้คำตอบทางคดี

     ส่วนกรณีที่แพทย์ออกสาเหตุการตายในใบมรณบัตรว่าหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันนั้น แพทย์หญิงปานใจชี้แจงว่า สำหรับหนังสือรับรองการตาย ตามกฎหมายต้องแจ้งภายใน 24 ชั่วโมง สิ่งที่แพทย์ทำคือต้องรีบผ่าหาสาเหตุการตายเบื้องต้น คือผ่าเจออะไรต้องรีบบอกเลย ส่วนหลังการชันสูตรครบถ้วนแล้วแพทย์สามารถให้ความเห็นเพิ่มได้ ถึงแม้จะขัดกับความเห็นครั้งแรกก็ไม่เป็นไร เพราะถือว่าเป็นการตรวจเพิ่มเติม

 

 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising