วานนี้ (2 มีนาคม) ชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวกรณีการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียวของฝ่ายค้านว่า ปกติการอภิปรายไม่ไว้วางใจตามรัฐธรรมนูญจะมีสองรูปแบบ คืออภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ซึ่งรวมถึงนายกรัฐมนตรีด้วย กับอภิปรายคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทั้งคณะ อย่างแรกอภิปรายได้เฉพาะรัฐมนตรีที่ระบุในญัตติ อย่างสองอภิปรายใครก็ได้ เพราะเป็นคณะรัฐมนตรีกันทุกคนทั้งคณะ
ทั้งนี้ เมื่อดูจากญัตติฝ่ายค้านที่เขียนมาไม่ได้อภิปรายทั้งคณะ อภิปรายเฉพาะนายกรัฐมนตรี ในฐานะรัฐมนตรีเพียงคนเดียว ส่วนตัวเห็นว่าจะทำให้เกิดปัญหาในการปฏิบัติ และควบคุมการประชุมในหลายประเด็น เช่น อย่างแรกฝ่ายรัฐบาลบอกว่าจะให้อภิปรายเพียงวันเดียว เพราะอภิปรายนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว อันนี้คงเป็นประเด็น เพราะดูจากญัตติที่เขียนมา ดูว่าประเด็นมันกว้างขวางมากมายเหลือเกิน
ชูศักดิ์กล่าวอีกว่า อย่างที่สองเข้าใจว่าฝ่ายค้านพุ่งเป้าไปที่นายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้ารัฐบาลที่ต้องรับผิดชอบในการกำกับดูแลการบริหารราชการแผ่นดินของทุกกระทรวง แน่นอนโดยระบบเบื้องต้นย่อมเป็นความรับผิดชอบของกระทรวงทั้งหลายที่เกี่ยวข้อง หนีไม่พ้นที่นายกรัฐมนตรีจะต้องให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเป็นคนตอบ ปัญหาจึงจะอยู่ที่การซักถามและตั้งประเด็นการอภิปราย เช่น มุ่งเน้นไปที่กระทรวงใดกระทรวงหนึ่งว่ารัฐมนตรีกระทำการ ละเว้นกระทำการไม่ชอบอย่างนั้นอย่างนี้ ซึ่งนายกฯ ไม่ได้ไปเกี่ยวข้องอะไรด้วย ท้ายที่สุดก็คงจะเกิดการประท้วงกันวุ่นวาย ว่าไม่ได้อภิปรายรัฐมนตรีคนนั้น
“โดยส่วนตัวไม่ทราบว่าฝ่ายค้านคิดอย่างไร แต่เห็นว่ามีมุมมองทางการเมืองมากเกินไปหรือไม่ และเกรงว่าการอภิปรายครั้งนี้จะไม่สำเร็จตามความมุ่งหมายของการอภิปรายไม่ไว้วางใจ การเหมารวมว่านายกรัฐมนตรีคือต้นตอของปัญหา จึงอภิปรายนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว ผมเห็นว่าทุกคนรู้ดีว่าปัญหาการเมืองการปกครองของประเทศเราจากอดีตสู่ปัจจุบันคืออะไร” ชูศักดิ์กล่าว