×
SCB Omnibus Fund 2024

‘หุ้นจีน’ ฟื้นตัวแรงสุดรอบ 14 ปี ดึงความมั่งคั่งเศรษฐีจีนกลับมาถึง 7.1 หมื่นล้านดอลลาร์หรือราว 2.2 ล้านล้านบาท

17.03.2022
  • LOADING...
หุ้นจีน

ช่วง 2 วันทำการที่ผ่านมา ตลาดหุ้นจีนและฮ่องกงฟื้นตัวกลับขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ภายหลังจากที่ดิ่งลงอย่างหนักก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะตลาดหุ้นฮ่องกง หากดูจากดัชนี Hang Seng ที่ดิ่งลงจากระดับ 21,000 จุด เมื่อวันที่ 7 มีนาคม ไปทำจุดต่ำสุดของรอบที่ 18,235 จุด เมื่อวันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา ก่อนจะใช้เวลาเพียงสองวันฟื้นตัวกลับมาอยู่ในระดับเดิม หลังทางการจีนประกาศว่าจะกลับมาช่วยให้ตลาดหุ้นมีเสถียรภาพมากขึ้น

 

การฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งของหุ้นฮ่องกงและจีน ส่งผลให้ความมั่งคั่งรวมของเศรษฐีจากจีนแผ่นดินใหญ่ฟื้นตัวกลับมารวมกันถึง 7.1 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 2.2 ล้านล้านบาท 

 

อย่างกรณีของ Pony Ma แห่ง Tencent Holding, William Ding เจ้าของ NetEase และ Colin Huang ผู้ก่อตั้ง Pinduoduo มหาเศรษฐีเหล่านี้ล้วนแต่มีความมั่งคั่งฟื้นตัวกลับขึ้นมาคนละมากกว่า 5 พันล้านดอลลาร์ หรือกว่า 1.6 แสนล้านบาท อิงจากข้อมูลของ Bloomberg Billionaires Index 

 

การฟื้นตัวของหุ้นจีนในครั้งนี้ถือว่าเป็นการฟื้นตัวได้ดีที่สุดในรอบ 14 ปีนับแต่ปี 2008 หลังจากทางการจีนได้ประกาศว่าจะกลับมาช่วยให้ตลาดหุ้นมีเสถียรภาพมากขึ้น โดยก่อนหน้านี้ตลาดหุ้นจีนไหลลงอย่างต่อเนื่องจากความกังวลในหลายปัจจัย เช่น การแพร่ระบาดของโควิดระลอกใหม่ หรือความเสี่ยงจากการถูกคว่ำบาตรสืบเนื่องจากประเด็นระหว่างรัสเซียและยูเครน รวมไปถึงการที่หุ้นจีนที่จดทะเบียนในสหรัฐฯ อาจถูกถอดออกจากตลาด 

 

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าหุ้นจีนจะเริ่มฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้บ้างแล้ว แต่ภาพรวมตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาบรรดามหาเศรษฐีจีนยังคงมีความมั่งคั่งลดลง โดยจากข้อมูล ณ วันที่ 16 มีนาคม 2565 มหาเศรษฐีของจีน 75 ราย สูญเสียความมั่งคั่งไปรวมกัน 1.85 แสนล้านดอลลาร์ หรือราว 5.9 ล้านล้านบาท โดยหนึ่งในผู้ที่สูญเสียความมั่งคั่งไปมากสุดคือ Zhong Shanshan ผู้ถือหุ้นของ Nongfu Spring ที่ความมั่งคั่งลดลง 1.61 หมื่นล้านดอลลาร์ มาเหลือ 6.37 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่ Jack Ma แห่ง Alibaba มีความมั่งคั่งลดลง 1.7 พันล้านดอลลาร์ เหลือความมั่งคั่ง 3.67 หมื่นล้านดอลลาร์ 

 

Joshua Crabb ผู้จัดการกองทุนของ Robeco Hong Kong กล่าวว่า ส่วนตัวเขาไม่คิดว่าการแถลงของทางการจีนล่าสุดเพียงแค่นั้นจะเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญ แต่ถ้ารัฐบาลเริ่มส่งสัญญาณเกี่ยวกับนโยบาย และเราเริ่มเห็นถ้อยคำเพิ่มเติมในทิศทางเดียวกัน มันอาจจะทำให้ตลาดเจอจุดต่ำสุดได้ในที่สุด

 

ขณะที่ Wang Shenshen นักกลยุทธ์อาวุโสของ Mizuho Securities กล่าวว่า “ความตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐฯ น่าจะตึงเครียดมากขึ้น การเผชิญหน้ากันระหว่างสองประเทศพัฒนาจากเรื่องของการค้ามาสู่การเงิน โดยเริ่มจากประเด็นเกี่ยวกับการถอดหุ้นจีนออกจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ แต่ก็ไม่รู้ว่าความตึงเครียดนี้จะไปจบลงที่ตรงไหน และจะรุนแรงขึ้นมากหรือไม่” 

 

อย่างไรก็ดี นักลงทุนต่างชาติกล้าที่จะกลับเข้าซื้อหุ้นจีนอีกครั้ง โดยนักลงทุนต่างชาติเป็นฝ่ายซื้อสุทธิในหุ้นจีนอีกครั้งนับแต่วันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมา โดยเป็นการซื้อสุทธิ 3.2 พันล้านหยวน หรือราว 1.6 หมื่นล้านบาท ในส่วนของหุ้นจีนแผ่นดินใหญ่

 

เมื่อดูจากสิ่งที่เคยเกิดขึ้นในอดีตเกี่ยวกับคำพูดของทางการจีน อาจจะเป็นสัญญาณของการผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว โดย 7 ครั้งที่ผ่านมา เมื่อ Liu He ผู้ที่มีอำนาจสูงสุดในการดูแลด้านเศรษฐกิจจีนกล่าวถึงเสถียรภาพของตลาดทุน ดัชนี CSI 300 ซึ่งเป็นดัชนีอ้างอิงที่สำคัญของหุ้นจีนแผ่นดินใหญ่ จะให้ผลตอบแทนเฉลี่ยสูงถึง 19% ในระยะเวลา 6 เดือน 

 

อ้างอิง:

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH


Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising