ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิต และ ดัชนีฮั่งเส็ง ปรับตัวลดลงแรงในวันนี้ (17 สิงหาคม) หลังจากสำนักงานบริหารจัดการกฎระเบียบตลาดแห่งรัฐ (SAMR) ของจีน ได้เปิดเผยร่างกฎระเบียบควบคุมดูแลการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมบนโลกอินเทอร์เน็ต ซึ่งกฎระเบียบดังกล่าวครอบคลุมไปถึงการสั่งห้ามการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม และยังกำหนดข้อบังคับการใช้ข้อมูลอย่างเข้มงวด ซึ่งถือเป็นมาตรการล่าสุดที่ทางการจีนนำมาบังคับใช้กับบริษัทเทคโนโลยี
โดยดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 3,446 จุด ลดลง 70.31 จุด หรือ 2.00% ส่วน ดัชนีฮั่งเส็ง ปิดตลาดที่ 25,745 จุด ลดลง 435 จุด หรือ 1.66% โดยหุ้น Baidu Inc. และหุ้น NetEase Inc. ปรับตัวลงไปกว่า 5% ขณะที่หุ้น Alibaba และ Tencent ก็ปรับตัวลงเช่นกันกว่า 4%
แถลงการณ์บนเว็บไซต์ของ SAMR ระบุว่า ผู้ประกอบการธุรกิจไม่ควรใช้ข้อมูล รวมไปถึงระบบอัลกอริทึม หรือวิธีการทางเทคนิคอื่นๆ เพื่อขโมยทราฟฟิกหรือทางเลือกของผู้ใช้งาน ขณะเดียวกันผู้ประกอบการต้องไม่ใช้วิธีทางเทคนิคในการนำข้อมูลของผู้ประกอบการรายอื่นไปใช้อย่างผิดกฎหมาย โดย SAMR เตือนว่า หากพบการกระทำที่ละเมิดข้อบังคับเหล่านี้ ทางรัฐบาลจะส่งตัวแทนเข้าดำเนินการตรวจสอบ
ทั้งนี้กฎระเบียบดังกล่าวได้จัดทำขึ้นจากประชาพิจารณ์ที่เปิดรับฟังความเห็นจากสาธารณชนไปเมื่อไม่นานนี้ ก่อนจะพิจารณาเริ่มบังคับใช้ในวันที่ 15 กันยายน 2564
ก่อนหน้านี้ SAMR ได้ดำเนินการลงโทษด้วยการสั่งปรับเงินบริษัทเทคโนโลยีหลายแห่ง เช่น อาลีบาบา กรุ๊ป ที่ปรับเป็นเงินจำนวน 2.75 พันล้านดอลลาร์เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาฐานผูกขาดตลาด และยังได้สั่งปรับ เทนเซ็นต์ โฮลดิ้ง เป็นเงิน 7.7 หมื่นดอลลาร์ในช่วงเดือนกรกฎาคม ฐานครอบครองลิขสิทธิ์เพลงแต่เพียงผู้เดียว
สำหรับการปรับตัวลงของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีจีนยังต่อเนื่องมาจากประเด็นการเข้าควบคุมสถาบันกวดวิชาในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ประกอบกับเหตุการณ์เมื่อวันจันทร์ (16 สิงหาคม) ที่นักลงทุนได้เทขายหุ้นจีนที่ทำธุรกิจเกมออนไลน์ หลังจากรัฐบาลได้วิจารณ์ถึงอุตสาหกรรมดังกล่าวว่ามีการสร้างปัญหาให้เยาวชนเสพติด
นอกจากนี้ทางรัฐบาลจีนยังพูดถึงประเด็นเรื่องแอลกอฮอล์และบุหรี่ ที่ทำให้ตลาดกังวลว่าอาจจะมีการเข้าควบคุมในระยะข้างหน้า ซึ่งผลจากการแทรกแซงโดยรัฐบาลจีนเป็นจำนวนมาก ทำให้ทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ของสหรัฐฯ ออกมาเตือนถึงความเสี่ยงการลงทุนในหุ้นจีน
อ้างอิง: