×

นักเศรษฐศาสตร์ประเมิน ‘จีนเปิดประเทศ’ ดัน GDP ปีหน้าโตเกิน 5% เผยไทยเตรียมรับอานิสงส์ส่งออก-ท่องเที่ยว จับตาคลื่นเงินเฟ้อระลอกใหม่

27.12.2022
  • LOADING...

นักเศรษฐศาสตร์ประเมินว่า การประกาศเตรียมยกเลิกมาตรการกักตัวนักท่องเที่ยวของจีนจะฟื้นความเชื่อมั่นและกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ผลักดัน GDP จีนปี 2023 โต 5% เป็นอย่างน้อย ส่วนไทยเตรียมรับอานิสงส์ส่งออก-ท่องเที่ยว พร้อมแนะให้จับตาคลื่นเงินเฟ้อระลอกใหม่จากจีนปีหน้า

 

ดร.อมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สำนักวิจัย ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ระบุว่า การประกาศเตรียมยกเลิกมาตรการกักตัวนักท่องเที่ยวของจีนเมื่อวานนี้ (26 ธันวาคม) นับว่าเป็นการเคลื่อนไหวที่เร็วกว่าที่เคยคาดไว้ โดยอาจไม่ได้มีนัยแค่เรื่องลดการกักตัวเท่านั้น แต่สิ่งสำคัญคือเป็นการผ่อนคลายมาตรการโควิดที่มากขึ้น ซึ่งหมายความว่าคนจีนจะเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศมากขึ้น และมีความเชื่อมั่นในการใช้จ่ายมากขึ้น ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศฟื้นตัว


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


ดร.อมรเทพ คาดว่าปัจจัยเหล่านี้อาจทำให้เศรษฐกิจจีนโตมากกว่าที่คาดไว้ จากเดิมที่ประมาณ 4.1% แต่ถ้ามีการเปิดเมืองและมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจชัดเจนขึ้น จีนน่าจะขยับขึ้นมาโตได้ประมาณเกือบ 5% ในปี 2023 เป็นอย่างน้อย แต่ว่าการเติบโตรอบนี้ของจีนอาจจะเป็นการเติบโตจากข้างใน

 

“อย่าลืมว่าตอนนี้เราเห็นตัวเลขการออมของชาวจีนสูงขึ้น สะท้อนว่าหากจีนผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์มากขึ้น ผู้คนมีความเชื่อมั่นมากขึ้น และคนกว่า 1 พันล้านคนในประเทศก็พร้อมเอาเงินออมออกมาใช้จ่าย แปลว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ จะเริ่มดีขึ้น”

 

ดร.อมรเทพ ยังเชื่อว่ารัฐบาลจีนจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอีก หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันจะเริ่มลดลงอย่างชัดเจน พร้อมมองว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ง่ายที่สุดวันนี้คือการกระตุ้นด้านอสังหาริมทรัพย์ ที่จะทำให้คนกล้าใช้จ่ายและลงทุนมากขึ้น

 

ลุ้นส่งออกไทยพลิกเป็นบวก ท่องเที่ยวสดใสกว่าเดิม

ดร.อมรเทพ กล่าวอีกว่า การผ่อนคลายนโยบายโควิดเป็นศูนย์ของจีนครั้งนี้เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจไทยหลายด้าน โดยเฉพาะการส่งออกและท่องเที่ยว

 

“จากเดิมที่เราคิดว่าการส่งออกของไทยปีหน้าจะติดลบ แต่ถ้าจีนสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ดี การส่งออกในกลุ่มสินค้าเกษตร อาหาร และยางพาราเพื่อใช้ในจีนอาจจะทำได้ดี อย่างไรก็ตาม อย่าลืมว่าเศรษฐกิจโลกยังดูไม่ดี โดยสหรัฐอเมริกาและยุโรปยังมีปัญหา แปลว่าการส่งออกของไทยไปจีนเพื่อให้จีนส่งออกไปประเทศอื่นยังคงลำบากอยู่ และถึงแม้เศรษฐกิจจีนจะฟื้นรอบนี้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเศรษฐกิจโลกและการส่งออกไปตลาดโลกจะดีได้ และยังมีความท้าทายอยู่”

 

นอกจากนี้ ดร.อมรเทพ ยังระบุอีกว่า เมื่อไรที่คนจีนออกนอกประเทศได้ ประเทศไทยจะเป็นประเทศที่ได้รับผลประโยชน์สูงสุด เพราะชาวจีนที่มาประเทศไทยรอบนี้จะเป็นกลุ่มที่พร้อมจะใช้จ่ายก่อน ไม่ว่าจะเป็นคนจีนที่เดินทางเป็นครอบครัว นักธุรกิจ นักท่องเที่ยวที่ต้องการเข้ามารักษาพยาบาล (Medical Tourist) และกลุ่มคนจีนที่มากว้านซื้ออสังหาริมทรัพย์ ซึ่งต้องการอสังหาริมทรัพย์นอกประเทศเก็บไว้เพื่อป้องกันความเสี่ยงในอนาคต โดยเราไม่น่าจะเห็นทัวร์ศูนย์เหรียญในระยะสั้น

 

อย่างไรก็ตาม ต้องจับตาดูว่าหลังจากช่วงวันหยุดตรุษจีนจะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นมากแค่ไหน และจีนจะรับมืออย่างไร แต่ ดร.อมรเทพ เชื่อว่าจีนน่าจะเดินหน้าผ่อนคลายต่อเนื่อง แต่จะเน้นการเดินทางและผ่อนคลายในประเทศจีน ก่อนจะอนุญาตให้คนจีนออกนอกประเทศ เพราะสิ่งที่รัฐบาลจีนต้องการคือการให้เศรษฐกิจหมุนเวียนในประเทศก่อน

 

แนะจับตาคลื่นเงินเฟ้อระลอกสอง

ดร.อมรเทพ ยังเตือนว่าเมื่อคนจีนกล้าใช้จ่ายเงินและเดินทาง เงินเฟ้อของจีนต้องเร่งตัวขึ้นอยู่แล้ว โดยไทยอาจได้รับผลกระทบจากภาระต้นทุนที่สูงขึ้นนี้อีกระลอกในปีหน้า เนื่องจากไทยเป็นประเทศผู้นำเข้าสุทธิจากจีน หลังจากปีนี้ได้รับผลกระทบจากเงินเฟ้อฟากสหรัฐฯ ไปแล้ว

 

“จากปีนี้ที่เราเจอเงินเฟ้อจากฝั่งสหรัฐฯ แต่ปีหน้าแม้เงินเฟ้อสหรัฐฯ จะลดลง แต่เงินเฟ้อของไทยอาจไม่ได้ลงเร็ว เนื่องมาจากจะเผชิญเงินเฟ้อระลอกที่ 2 จากจีน เนื่องจากจีนจะเป็นผู้ส่งออกเงินเฟ้อในปีหน้า ผ่านต้นทุนสินค้าของจีนที่สูงขึ้น”

 

ทั้งนี้ เมื่อชาวจีนเดินทางและใช้จ่ายมากขึ้น ราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ ที่เคยลดลงในช่วงก่อนหน้าเนื่องจากความกังวลว่าสหรัฐฯ และยุโรปจะเข้าสู่ภาวะถดถอย ก็อาจจะขยับขึ้น

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising