จีนเชิญผู้บริหารของธุรกิจยักษ์ใหญ่สหรัฐฯ เข้าร่วมในการประชุมประจำปีสัปดาห์นี้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าปักกิ่งพยายามบรรเทาแรงกดดันทางการค้าแทนที่จะตอบโต้รุนแรง
จีนพยายามดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศมาโดยตลอดเพื่อเสริมสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันก็มองหาผลประโยชน์ทางธุรกิจที่อาจมีอิทธิพลต่อทำเนียบขาว โดยเฉพาะภายใต้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ Donald Trump รัฐบาลสหรัฐฯ ได้เพิ่มภาษีศุลกากรสำหรับสินค้าจีนทั้งหมดถึง 2 ครั้ง ตั้งแต่เดือนมกราคม แต่จีนกลับตอบโต้ด้วยการประกาศเก็บภาษีและข้อจำกัดเฉพาะเจาะจงกับบริษัทอเมริกันเพียงไม่กี่แห่ง
การหารือนอกรอบที่งานประชุม China Development Forum ซึ่งจัดโดยรัฐบาลจีนในกรุงปักกิ่งในสัปดาห์นี้ สะท้อนถึงท่าทีที่ประนีประนอมมากกว่าคำแถลงอย่างเป็นทางการก่อนหน้านี้ที่ว่าจีนพร้อมต่อสู้ “ในสงครามทุกรูปแบบ” กับสหรัฐฯ
Tim Cook ซีอีโอของ Apple พูดคุยกับแขกคนอื่นๆ ก่อนพิธีเปิด China Development Forum 2025 ที่ Diaoyutai Guesthouse เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2025 ในกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน
ภาพ: Jiang Qiming/China News Service/VCG via Getty Images
Stephen Roach นักวิชาการอาวุโสจากศูนย์ Paul Tsai China Center แห่ง Yale Law School กล่าวว่า นี่เป็นช่วงเวลาที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนสำหรับบทบาทของอเมริกาในเศรษฐกิจโลก เรากำลังกลับไปสู่ระบบภาษีศุลกากรที่ประวัติศาสตร์บอกเราว่าสามารถทำลายล้างได้อย่างมาก เขาคาดว่าจะมีความไม่แน่นอนด้านนโยบายมากขึ้นในสหรัฐฯ และทั่วโลกเป็นเวลานานมาก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- สงครามการค้าเดือด จีนเจอทั้งศึกนอกศึกใน! จับตา CEO ระดับโลกจ่อตบเท้าเข้าพบสีจิ้นผิง หวังทวงคืน FDI
- เปิด 10 สินค้าไทยเสี่ยงโดนสหรัฐฯ ขึ้นภาษี ทรัมป์ไล่เช็กบิลประเทศไหนไปแล้วบ้าง
- ทรัมป์จ่อขึ้นภาษีรถยนต์-ยา-ชิป อีก 25% เริ่ม 2 เม.ย. ค้าโลกป่วน WTO ออกโรงเตือนโลกเสี่ยงเผชิญเศรษฐกิจถดถอย
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ผันผวนในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่นักลงทุนพยายามประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจจากแผนการเปลี่ยนแปลงภาษีศุลกากรของ Trump ที่มีต่อประเทศคู่ค้าหลักของสหรัฐฯ
ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) Jerome Powell กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า มาตรการภาษีอาจทำให้ความคืบหน้าในการลดอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ล่าช้าออกไป
ทั้งนี้ หากสหรัฐฯ เริ่มใช้มาตรการภาษีขนาดใหญ่ในช่วงต้นเดือนเมษายน เศรษฐกิจจะเปลี่ยนจากการบริหารต้นทุนและลดความเสี่ยงไปสู่การแยกตัวทางเศรษฐกิจโดยสิ้นเชิง และหากเป็นเช่นนั้น เกมอาจจบลงได้ ดังนั้นระดับความวิตกกังวลในขณะนี้จึงค่อนข้างสูง และนี่คือเหตุผลที่จีนพยายามส่งสารแห่งความมั่นใจ”
รัฐบาล Trump ขู่ที่จะเรียกเก็บภาษีชุดใหม่กับประเทศคู่ค้าหลักตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน ขณะที่จีนได้เพิ่มปริมาณการค้ากับประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และสหภาพยุโรป แต่สหรัฐฯ ยังคงเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของจีนในระดับประเทศเดี่ยว
China Development Forum จัดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์และวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยมี Tim Cook ซีอีโอของ Apple เป็นหนึ่งในผู้บริหารที่เข้าร่วม แต่ Elon Musk ซีอีโอของ Tesla ไม่ได้เข้าร่วมด้วย
นอกจากนี้ ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา Steve Daines วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันของสหรัฐฯ ได้พบกับนายกรัฐมนตรี Li Qiang ของจีนในกรุงปักกิ่ง ซึ่งเป็นครั้งแรกที่นักการเมืองสหรัฐฯ เดินทางไปเยือนจีน นับตั้งแต่ Trump เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อเดือนมกราคม
Daines กล่าวว่า นี่เป็นก้าวแรกสู่ก้าวสำคัญต่อไป ซึ่งจะเป็นการประชุมระหว่างประธานาธิบดี Xi และประธานาธิบดี Trump แต่จะเกิดขึ้นเมื่อใดและจะเกิดขึ้นที่ใดนั้น ยังต้องติดตามกันต่อไป
จีนซึ่งเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกยังคงเป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญสำหรับบริษัทข้ามชาติหลายแห่ง ไม่ต้องพูดถึงห่วงโซ่อุปทานที่สำคัญของพวกเขา
แม้จะพยายามที่จะเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจระหว่างประเทศ แต่จีนก็ได้เตือนถึงมาตรการตอบโต้ภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ และได้ดำเนินการเพิ่มเติม
หลังจากที่สหรัฐฯ คว่ำบาตรบริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของจีน HUAWEI ในช่วงที่ Trump ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นวาระแรก ปักกิ่งก็ได้จัดทำรายชื่อนิติบุคคลที่ไม่น่าเชื่อถือซึ่งจำกัดกิจกรรมทางธุรกิจของต่างชาติกับจีน
จีนได้เพิ่ม PVH บริษัทแม่ของ Calvin Klein และบริษัทอื่นๆ ของสหรัฐฯ อีกไม่กี่แห่งเข้าไปในรายชื่อนี้หลังจากการขึ้นภาษีศุลกากรในปีนี้ เมื่อวันจันทร์ จีนยังกล่าวอีกว่าในไม่ช้านี้ จีนจะเปิดเผยมาตรการใหม่ๆ ที่จะทำให้จีนมีฐานทางกฎหมายในการต่อต้านแรงกดดันจากต่างชาติ
ภาพ: Zhang Xiangyi/China News Service/VCG via Getty Images
อ้างอิง: