×

China Evergrande สร้างประวัติศาสตร์เหตุฉ้อโกงครั้งใหญ่สุด หลังแจ้งรายได้เกินจริง 7.8 หมื่นล้านดอลลาร์ ก.ล.ต. สั่งปรับ 581 ล้านดอลลาร์

20.03.2024
  • LOADING...

คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และดูแลตลาดหลักทรัพย์ของจีน (CSRC) หรือ ก.ล.ต. เปิดเผยว่า บริษัทลูกในเครือของ China Evergrande บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของจีน ซึ่งกำลังประสบปัญหาขาดสภาพคล่องจนผิดนัดชำระหนี้ ได้สำแดงรายได้เป็นเท็จ โดยแจ้งรายได้เกินจริง คิดเป็นมูลค่าสูงถึง 78,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.8 ล้านล้านบาท) ทำให้ทางการจีนตั้งข้อหาฉ้อโกงแก่ Hui Ka Yan หรือในชื่อภาษาจีนกลางว่า Xu Jiayin 

 

แถลงการณ์ของทาง ก.ล.ต.จีน ระบุว่า ทางการได้สั่งปรับบริษัทฐานฉ้อโกง คิดเป็นมูลค่าสูงถึง 4,180 ล้านหยวน หรือราว 2.1 หมื่นล้านบาท พร้อมสั่งปรับ Hui Ka Yan ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ China Evergrande และเคยดำรงตำแหน่งบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดของจีนอีก 6.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงห้ามเจ้าตัวยุ่งเกี่ยวกับตลาดหลักทรัพย์ตลอดชีวิต ขณะที่ Xia Haijun และ Pan Darong อดีตผู้บริหารระดับสูงของบริษัทก็ถูกสั่งห้ามยุ่งเกี่ยวกับตลาดหลักทรัพย์ตลอดชีวิตเช่นกัน 

 

รายงานระบุว่า ข้อกล่าวหาดังกล่าวมีขึ้นหลังทาง ก.ล.ต.จีน พบหลักฐานที่บริษัทลูกของ China Evergrande อย่าง Heng Da รายงานรายได้เกินจริงจากการขายหุ้นกู้มูลค่าราว 2.08 เหมือนล้านหยวนในช่วงปี 2020-2021 ทำให้สัดส่วนกำไรของบริษัทในปี 2020 เพิ่มขึ้นมากกว่าปีก่อนหน้า 60% และมากกว่า 86% ในปี 2021 ถือเป็นเจตนาฉ้อโกงทางการเงินอย่างชัดเจน 

 

รายงานระบุว่า ข้อกล่าวหาของ China Evergrande นับเป็นการฉ้อโกงที่ใหญ่ที่สุดอีกครั้งในประวัติศาสตร์จีน เทียบได้กับ Luckin Coffee Inc. และ Enron Corp ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับชื่อเสียงของอดีตผู้ตรวจสอบบัญชีอย่าง PricewaterhouseCoopers และการกำกับดูแลทางการเงินของประเทศจีน ขณะที่นักวิเคราะห์อีกส่วนหนึ่งกังวลว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์โดยรวมของ China Evergrande ที่กำลังพยายามฟื้นฟูกิจการอยู่ในเวลานี้ 

 

ยิ่งไปกว่านั้น ความเคลื่อนไหวของ ก.ล.ต. ครั้งนี้ อาจเป็นสัญญาณปูทางไปสู่การดำเนินคดีที่ร้ายแรงยิ่งขึ้นต่อ Hui ซึ่งถูกตำรวจควบคุมตัวเมื่อปีที่แล้ว เนื่องจาก ‘ต้องสงสัยว่าก่ออาชญากรรมที่ผิดกฎหมาย’ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาทางอาญาต่อ Hui ต่อสาธารณะ 

 

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งมองว่า ค่าปรับมูลค่าเกือบ 8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ จะทำให้บริษัทซึ่งมีหนี้สินประมาณ 3.32 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ จ่ายเงินน้อยลงในการชำระหนี้ให้กับเจ้าหนี้ทั่วโลก แม้ว่าศาลฮ่องกงจะสั่งให้บริษัทเลิกกิจการในช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมาก็ตาม

 

กระนั้น นักวิเคราะห์ก็มองว่าความเคลื่อนไหวของ ก.ล.ต. เป็นสิ่งจำเป็น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นเกี่ยวกับความโปร่งใสของตลาดจีน และเป็นไปตามคำมั่นของ ก.ล.ต.จีน ที่จะปกป้องนักลงทุนรายย่อยอย่างสุดความสามารถ โดยการสั่งปรับ China Evergrande ในครั้งนี้มากกว่าสถิติเดิมที่เคยสั่งปรับ Ant Group ยักษ์ใหญ่ด้านฟินเทค มูลค่า 7.1 พันล้านหยวน ฐานละเมิดนโยบาย 

 

อ้างอิง: 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising