ราคาหุ้น Evergrande ปรับตัวลดลง 12% ทันทีที่เปิดการซื้อขาย และทำระดับต่ำสุดรอบ 11 ปี หลังจากที่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (3 ธันวาคม) Evergrande ได้ส่งหนังสือแจ้งตลาดหลักทรัพย์ว่า ไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะสามารถหาเงินมาชำระคืนหนี้ได้
วันนี้ (6 ธันวาคม) หุ้นของ China Evergrande Group (3333.HK) ร่วงลง 12% สู่ 1.98 ดอลลาร์ฮ่องกง ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 11 ปี หลังจากบริษัทแจ้งต่อหลักทรัพย์ว่าไม่รับประกันว่าจะมีเงินเพียงพอที่จะชำระหนี้เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้หน่วยงานทางการของรัฐเรียกผู้ก่อตั้ง Evergrande เข้าพบในทันที และเป็นที่มาของการเตรียมจัดตั้งคณะทำงานเพื่อส่งเข้าไปช่วยเหลือ Evergrande ด้านการบริหารจัดการภายใน
ทั้งนี้ วันนี้เป็นวันสิ้นสุดระยะเวลาผ่อนผัน 30 วันสำหรับการจ่ายดอกเบี้ยหุ้นกู้ จำนวน 82.5 ล้านดอลลาร์ นั่นเท่ากับว่าตอนนี้ Evergrande ผิดนัดชำระหนี้อย่างเป็นทางการครั้งแรก
Evergrande ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มียอดขายสูงสุดของจีน กำลังต่อสู้กับหนี้สินมากกว่า 3 แสนล้านดอลลาร์ และการล่มสลายครั้งนี้อาจส่งคลื่นกระแทกไปยังภาคอสังหาริมทรัพย์ของประเทศและอื่นๆ
ในหนังสือแจ้งตลาดหลักทรัพย์ของ Evergrande เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ยังกล่าวด้วยว่า บริษัทได้รับการร้องขอจากเจ้าหนี้ให้จ่ายเงินประมาณ 260 ล้านดอลลาร์ นั่นทำให้รัฐบาลของมณฑลกวางตุ้ง ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ Evergrande เรียก สวี่ เจียอิ้น ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งและประธาน Evergrande เข้าพบเพื่อหารือ และได้ข้อสรุปว่าจะดำเนินการ (ตามที่ Evergrande ร้องขอ) ส่งทีมงานเข้าไปที่ Evergrande เพื่อควบคุมการบริหารความเสี่ยง ควบคุมการดำเนินกิจการภายใน และทำให้การดำเนินกิจการเป็นไปตามปกติ
ทั้งนี้ ตลาดยังคงจับตาความคืบหน้าในการแก้ปัญหาของ Evergrande รวมถึงความพยายามช่วยเหลือของภาครัฐด้วย คำถามสำหรับตลาดโลกคือ หน่วยงานรัฐจะสามารถประสานงานการปรับโครงสร้างทางการเงินใหม่แก่ Evergrnade โดยไม่ทำให้ภาคอสังหาริมทรัพย์ในวงกว้างขึ้นได้หรือไม่ เนื่องจากทางการของจีนเอง ในฐานะผู้กำหนดนโยบาย เคยมีประวัติละเลยการควบคุมความเสี่ยงของภาคอสังหาริมทรัพย์ในช่วงที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงทางการจีนยังไม่มีภาพรวมของปัญหาทางการเงินของ Evergrande ในเชิงลึกว่าเป็นอย่างไร
อ้างอิง:
