×

‘จีน’ จะไปต่ออย่างไร ควรปรับใบเรือใหม่ หรือแล่นไปในเส้นทางเดิม

26.03.2024
  • LOADING...
จีน

นับตั้งแต่ หลี่เฉียง นายกรัฐมนตรีจีน ออกมาประกาศว่าปีนี้จีนจะตั้งเป้าผลักดัน GDP 5% ด้วยการเปิดรับนักลงทุนต่างชาติ ควบคุมอุตสาหกรรมไม่ให้มากเกินไป แก้ไขปัญหาภาคอสังหาริมทรัพย์ และลดการใช้จ่ายที่ไม่เกิดประโยชน์ของรัฐบาลท้องถิ่น

 

ในงาน China Development Forum ปีนี้จึงเห็นซีอีโอและองค์กรทวิภาคีต่างออกมาชี้แนะวิกฤตเศรษฐกิจจีน โดย IMF ระบุ จีนกำลังอยู่บนทางแยกที่ต้องเลือกระหว่างนโยบายแบบเดิมที่เคยทำสำเร็จหรือพลิกโฉมเศรษฐกิจให้เข้ากับยุคสมัย

 


 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

 


 

สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า หลังจากที่หลี่เฉียงออกมาระบุว่าจีนพร้อมเปิดรับนักลงทุนต่างชาติจากนานาประเทศ ล่าสุดจีนยังเปิดเผยข้อมูลดัชนีชี้วัดการเคลื่อนไหวของตลาด (Market-moving) ล่วงหน้า โดยคาดว่านี่อาจเป็นกลยุทธ์ใหม่เพื่อพยายามกระตุ้นตลาดที่หยิบยกเอาข้อมูลเชิงบวกมาตอบโต้ภาวะถดถอยของเศรษฐกิจ

 

นอกจากนี้ เลียวมิน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังของจีน เน้นย้ำไปที่ข้อมูลงบประมาณ โดยระบุว่า ข้อมูลนี้จะส่งผลเชิงบวกต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจซึ่งได้มีการใช้จ่ายงบประมาณเร็วขึ้นใน 2 เดือนแรกในรอบเกือบ 5 ปี และชี้แจงอีกว่ารายได้ประเทศที่ลดลงนั้นถูกบิดเบือนจากผลกระทบพื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็นความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ การควบคุมโควิด และนโยบายที่ผันผวนมานานหลายปี ซึ่งมีผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน  

 

ดังนั้นด้วยเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจประมาณ 5% ในปีนี้ รัฐบาลจึงจำเป็นต้องสร้างความเชื่อมั่นเพื่อดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) อีกทั้งจีนให้คำมั่นว่าจะปฏิบัติต่อบริษัทต่างชาติอย่างเท่าเทียมกันท่ามกลางการผลักดันการยกระดับอุตสาหกรรม

 

รวมทั้งส่งเสริมการบูรณาการเชิงลึกของนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอุตสาหกรรมอย่างจริงจัง และสนับสนุนให้บริษัทต่างชาติลงทุนจัดตั้งศูนย์ R&D

 

IMF แนะจีนปฏิรูปตลาดทั้งระบบ แก้วิกฤตอสังหา เน้นกระตุ้นการบริโภคในประเทศ

 

ในช่วงหนึ่งของเวทีฟอรั่ม คริสตาลินา จอร์เจียวา ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ออกมาให้มุมมองต่อภาวะเศรษฐกิจจีนว่า เวลานี้จีนจำเป็นต้องสร้างตัวเองขึ้นมาใหม่ด้วยการพลิกโฉมนโยบายเศรษฐกิจในแต่ละด้าน เร่งแก้ไขวิกฤตตลาดอสังหา พร้อมส่งเสริมการบริโภคและผลิตภาพภายในประเทศ และต้องปฏิรูปด้วยแนวทางการสนับสนุนตลาด (Pro-market) ทั้งระบบ ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจจีนสามารถเติบโตได้เร็วกว่าที่เป็นอยู่

 

“จีนกำลังเผชิญทางแยก โดยต้องเลือกระหว่างการพึ่งพานโยบายที่เคยใช้ได้ผลในอดีตต่อไป หรือจะสร้างขึ้นมาใหม่ให้สอดรับกับยุคใหม่ ที่ต่างมุ่งเน้นการเติบโตเชิงคุณภาพที่แข่งขันสูงขึ้น” จอร์เจียวากล่าว

 

ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่าจีนจะบรรลุเป้าหมายทางเศรษฐกิจตามเป้า GDP โต 5% จากการออกมาตรการสนับสนุนเพิ่มเติมต่อการลงทุนของบริษัทของต่างๆ ซึ่งเป็นภาคส่วนที่ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงหมายมั่นให้จีนเป็นฐานการผลิตใหม่ด้วย

 

จอร์เจียวากล่าวอีกว่า ขอเรียกร้องให้จีนดำเนินการเปลี่ยนแปลงมากกว่าที่จีนได้ประกาศเอาไว้ ด้วยการผสานนโยบายที่ให้ผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง พร้อมทั้งกระตุ้นการเติบโตในประเทศ ซึ่งจะทำให้จีนเพิ่มเม็ดเงินเข้าประเทศถึง 3.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วง 15 ปี และหากประสบความสำเร็จจะยิ่งเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจจีนที่มากกว่าขนาดเศรษฐกิจเกาหลีใต้ถึง 2 เท่า 

 

ทิม คุก ชี้ AI กุญแจสำคัญลดคาร์บอน ยันลงทุนห่วงโซ่อุปทานในตลาดจีน

 

ทิม คุก ซีอีโอ Apple กล่าวว่า ปัญญาประดิษฐ์ (AI) จะเป็นกุญแจสำคัญในการช่วยให้ธุรกิจต่างๆ ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โดยเฉพาะ Apple เองที่มีซัพพลายเออร์ในตลาดจีน

 

จีน

ภาพ: China News Service / Getty Images 

 

การเข้าร่วมอภิปรายต่อสาธารณะในงานนี้ถือเป็นจุดหมายสำคัญของบริษัทที่มีต่อตลาดจีนไม่น้อย หลังจากที่ก่อนหน้านี้เขาได้พบกับ หวังเหวินเทา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์จีน และได้ประกาศแผนการที่จะลงทุนเพิ่มเติมในห่วงโซ่อุปทาน สโตร์ และการวิจัยของ Apple ในจีน

 

“การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นเรื่องที่เราผลักดันอย่างมาก แม้ยังไปไม่ถึงจุดนั้น แต่เส้นทางระหว่างนี้และในอนาคตจำเป็นต้องมีนวัตกรรมมากขึ้น ซึ่ง Apple กำลังทุ่มการลงทุนและทรัพยากรจำนวนมากในการพัฒนา AI ท่ามกลางการแข่งขันของ OpenAI, ChatGPT ทั้งยังมีความท้าทายที่บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Nvidia ถูกจำกัดการขายชิปในจีน

 

เขากล่าวกับผู้สื่อข่าวอีกว่า ปีที่แล้วเขามาเยือนจีนบ่อยครั้ง และทุกครั้งที่มาให้ความรู้สึกมีชีวิตชีวา โดยได้เยี่ยมชม Weibo กับพันธมิตร ซัพพลายเออร์ และบรรดานักธุรกิจที่ทำกาแฟรายเล็กๆ ที่ใช้เทคโนโลยีของ Apple

 

เขาย้ำว่า การสร้างผลิตภัณฑ์ที่ดีจำเป็นต้องมีพันธมิตรที่มีความมุ่งมั่นต่อนวัตกรรมและการปกป้องโลกเหมือนกัน พร้อมชื่นชมซัพพลายเออร์ BYD Co., Lens Technology Co. และ Shenzhen Everwin Precision Technology Co. นอกจากนี้ เขายังยกย่องแบรนด์กาแฟ Saturnbird ที่พัฒนาเครื่องรีไซเคิลกากกาแฟและภาชนะต่างๆ ได้ดีเยี่ยม

 

ดังนั้นการเดินทางเยือนจีนครั้งนี้ นอกจากเปิดสโตร์ใหม่ในเซี่ยงไฮ้ เขามุ่งเสนอไปที่ประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม ท่ามกลางความอ่อนไหวของภูมิรัฐศาสตร์ ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนที่ยังคงย่ำแย่   

 

อย่างไรก็ตาม คุกย้ำว่า Apple ตั้งเป้าหมายในการขจัดพลาสติกออกจากบรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์ภายในปี 2025 ซึ่งเมื่อนำห่อพลาสติกด้านนอกของบรรจุภัณฑ์ iPhone 13 ออก Apple สามารถลดขยะได้ 600 ตัน 

 

นี่อาจแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ จากสินค้าที่ผลิตจาก iPhone, iPad และ Mac หลายร้อยล้านเครื่องในแต่ละปี ที่สำคัญเกือบทั้งหมดนี้ล้วนผลิตในจีน

 

อ้างอิง: 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising