สำนักข่าว Bloomberg เปิดเผยถึงการเปลี่ยนกฎเกณฑ์การซื้ออสังหาริมทรัพย์ บ้าน คอนโด ที่ดินในไทย ที่เปิดโอกาสให้ต่างชาติที่เขามาลงทุนสามารถถือครองที่ดินในไทยได้ ซึ่งมีการวิเคราะห์ว่า หลังไทยมีการเปลี่ยนกฎเกณฑ์-ขยายกรอบมากขึ้น จะทำให้มีต่างชาติเข้าซื้ออสังหาริมทรัพย์ในไทยเพิ่มขึ้นประมาณ 2 เท่าตัว
สำหรับการผ่อนคลายกฎเกณฑ์ดังกล่าว เกิดจากการที่รัฐบาลพยายามเร่งฟื้นตัวเศรษฐกิจจากวิกฤตโควิดในช่วงที่ผ่านมา โดยต้องการดึงดูดนักลงทุนผู้มีความมั่งคั่งจากทั่วโลก ซึ่งปัจจุบันมีกรรมสิทธิ์ครอบครองทรัพย์สินเพียงห้องชุดในคอนโดมิเนียมเท่านั้น แต่อนาคตหลังผ่อนคลายแล้วจะสามารถเข้าซื้อที่อยู่อาศัยประเภทอื่นๆ ได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ผู้ซื้อบ้านชาวจีนกลับลำ เร่งชำระคืนเงินกู้ที่อยู่อาศัยล่วงหน้า ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ
- ‘จีน’ ผนึก ‘รัสเซีย’ ดันสกุลเงินกลุ่ม BRICS เป็นทางเลือกชำระเงิน หวังคานอำนาจดอลลาร์สหรัฐ
- 10 กองทุนหุ้นจีน ผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือน แกร่งสุด
ทั้งนี้ มีเงื่อนไขว่าต้องลงทุนในไทยอย่างน้อย 40 ล้านบาท เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 3 ปี โดยกระบวนการตอนนี้ คณะรัฐมนตรีได้มีการรับรองเรียบร้อยแล้ว และจะดำเนินการส่งต่อไปยังคณะกรรมการกฤษฎีกาและหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องเพื่อประเมินเพิ่มเติม ก่อนการอนุมัติในขั้นตอนสุดท้าย ซึ่งแนวคิดนี้ก็มีกระแสต่อต้านและแสดงความกังวลจากหลายฝ่าย
ในส่วนของต่างชาติที่เข้ามาถือครองคอนโดมากที่สุด Bloomberg อ้างอิงข้อมูลจากศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) ระบุว่า ในช่วงเดือนเมษายนถึงมิถุนายนที่ผ่านมา ชาวต่างชาติลงทะเบียนซื้อคอนโดในไทยประมาณ 2,326 ยูนิตกับกรมที่ดิน เพิ่มขึ้น 15% จากปีก่อนหน้า โดยผู้ซื้อชาวจีนมีจำนวนมากที่สุด ตามมาด้วย รัสเซีย สหรัฐอเมริกา และสหราชอาณาจักร
สอดคล้องกับศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ที่รายงานภาพรวมสถานการณ์การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติทั่วประเทศในไตรมาส 2 ของปี 2565 ว่า หน่วยโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติทั่วประเทศมีจำนวน 2,326 หน่วย เพิ่มขึ้น 15.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) และเป็นจำนวนหน่วยที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยรายไตรมาสในช่วง 2 ปี ที่เกิดโควิด (ปี 2563-2564)
ทั้งนี้ มีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติเป็นห้องชุดใหม่ต่อห้องชุดมือสอง เป็นอัตราส่วนร้อยละ 62.9:37.1 โดยห้องชุดมือสองมีสัดส่วนการโอนเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องติดต่อกัน 6 ไตรมาส และเป็นสัดส่วนที่สูงที่สุดในรอบ 18 ไตรมาส
ขณะที่ราคาที่มีการโอนฯ ส่วนใหญ่ ประมาณ 81.9% ไม่เกิน 5.00 ล้านบาท และขนาดห้องชุดที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ส่วนใหญ่ประมาณ 83.5% ขนาดไม่เกิน 60 ตารางเมตร ซึ่งมีการโอนสูงสุดในพื้นที่ 5 อันดับแรกที่ต่างชาติโอนสูงสุดคือ กรุงเทพฯ, ชลบุรี, สมุทรปราการ, ภูเก็ต และเชียงใหม่
อนึ่งในไตรมาส 2 ปี 2565 ชาวจีน เป็นสัญชาติที่มีหน่วยการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดทั่วประเทศมากที่สุด 2,072 หน่วย หรือ 25.3% โดยมี 4 สัญชาติที่มีหน่วยการโอนกรรมสิทธิ์อันดับรองลงมา ได้แก่ รัสเซีย จำนวน 263 หรือ 3.2% สหรัฐอเมริกา จำนวน 228 หน่วย หรือ 2.8% สหราชอาณาจักร จำนวน 167 หน่วย หรือ 2.0% และเยอรมนี จำนวน 160 หน่วย หรือ 2.0 %
ทั้งนี้ มูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดทั่วประเทศมากที่สุด 5 ลำดับแรกคือ ชาวจีน จำนวน 10,493 ล้านบาท หรือ 26.4% รองลงมาคือ สหรัฐอเมริกา จำนวน 976 ล้านบาท หรือ 2.5% ฝรั่งเศส จำนวน 933 ล้านบาท หรือ 2.3% รัสเซีย จำนวน 850 ล้านบาท หรือ 2.1% และกัมพูชา จำนวน 783 ล้านบาท หรือ 2.0%
อย่างไรก็ตาม ห้องชุดที่ชาวต่างชาตินิยมซื้ออยู่ในระดับราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท ขนาดไม่เกิน 60 ตารางเมตร โดยคอนโดห้องชุดในพื้นที่กรุงเทพฯ และจังหวัดขนาดใหญ่ รวมถึงจังหวัดท่องเที่ยว ยังคงเป็นที่ต้องการของชาวต่างชาติอยู่
อ้างอิง: