จีนปลุกอุตสาหกรรมชิปเต็มกำลัง! รัฐบาลพร้อมอัดฉีดเงินทุนสนับสนุนผู้ผลิตในประเทศ หวังเพิ่มแสนยานุภาพทางเทคโนโลยี หลังแรงหนุนมาเต็มเมื่อพรรคคอมมิวนิสต์ชุดใหม่เข้ามาบริหาร
ย้อนไปช่วงปลายปีที่ผ่านมาจีนมีแผนจัดทำแพ็กเกจสนับสนุนสำหรับอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์กว่า 1 ล้านล้านหยวน หรือ 1.43 แสนล้านดอลลาร์ (เกือบ 5 ล้านล้านบาท) และอัดฉีดมาตรการต่างๆ ที่นับเป็นก้าวสำคัญที่จะทำให้ปริมาณชิปเพียงพอในช่วงที่ขาดแคลน และถือเป็นการโต้ตอบสหรัฐอเมริกาที่เข้ามาควบคุมการส่งออกชิปของจีน และสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- TSMC เล็งสร้างโรงงานผลิตชิปแห่งใหม่มูลค่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์ในสหรัฐฯ
- TSMC ระงับการส่งซิลิคอนขั้นสูงให้ผู้ผลิตชิปในจีน เพื่อหลีกเลี่ยงการฝ่าฝืนข้อบังคับของสหรัฐฯ
- จีนอวดสายการผลิต ‘Photonic Chip’ เป็นครั้งแรก เตรียมเดินเครื่องผลิตภายในปี 2023
กระทั่งล่าสุดรัฐบาลจีนได้ออกมาอัปเดตเกี่ยวกับแผนการผลิตชิปในประเทศ โดยจะให้เงินอุดหนุนบริษัทผู้ผลิตเบอร์ต้นๆ เพื่อปลุกอำนาจทางเทคโนโลยีให้กลับมา
ปักกิ่งฟื้นอุตสาหกรรมชิป เร่งอัดฉีดยักษ์ใหญ่ในประเทศ
รายงานข่าวจาก Financial Times ระบุ รัฐบาลปักกิ่งกำลังปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ปรับสัดส่วนอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ในประเทศ โดยให้บริษัทชิปที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดเพียงไม่กี่แห่งเข้าถึงเงินอุดหนุนจากรัฐบาลและสามารถมีบทบาทเข้าถึงงานวิจัยให้ง่ายขึ้น
ภายหลังจากที่รัฐบาลชุดใหม่เข้ามาวางกลยุทธ์ด้านเทคโนโลยีด้วยการจัดตั้งคณะกรรมการวิทยาศาสตร์ของพรรคคอมมิวนิสต์ชุดใหม่ รวมทั้งปัดฝุ่นกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีขึ้นมาดูแลอีกครั้ง
โดยแหล่งข่าวในวงการอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์กล่าวว่า ผู้ผลิตชิป SMIC Hua Hong Semiconductor และ Huawei รวมถึงซัพพลายเออร์อุปกรณ์ Naura และ Advanced Micro-Fabrication Equipment Inc. China (น่าจะ) เป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงนโยบาย โดยผู้ที่ได้รับเลือกเพียงไม่กี่รายนี้จะสามารถเข้าถึงเงินทุนเพิ่มเติมของรัฐบาลได้ โดยไม่มีเงื่อนไขที่ไม่ต้องถึงเป้าหมายที่วางไว้ก่อนหน้านี้ และจะมีบทบาทสำคัญในโครงงานวิจัยของหน่วยงานรัฐได้
แหล่งข่าวตั้งข้อสังเกตว่า รัฐบาลจะเน้นการผลิตและปรับใช้เครื่องมือการผลิตชิปให้เข้ากับท้องถิ่น เพียงเพื่อที่จะเอาชนะข้อจำกัดของสหรัฐฯ หรือไม่ เนื่องจากปฏิเสธไม่ได้เลยว่านโยบายก่อนหน้านี้จีนได้ทุ่มอุดหนุนอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์มหาศาลเพื่อสร้างขีดความสามารถในประเทศก็จริง แต่ถือว่ายังไม่ตรงจุด ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร เพียงแค่ต้องการตอบโต้สหรัฐฯ และสร้างความต่างด้วยการพัฒนาอุตสาหกรรมขึ้นมาด้วยตัวเองเท่านั้น อีกทั้งจีนยอมเสียเงินไปมากกับการวิจัยเพื่อหลีกเลี่ยงการคว่ำบาตร แต่วันนี้ถึงเวลาแล้วที่จะนำทรัพยากรที่มีกลับมาคืนสู่ประเทศ ด้วยความสามารถและเพื่อขจัดความทุกข์ยาก แหล่งข่าววงการผลิตชิปของจีนกล่าว
งานวิจัย ‘พิมพ์หินปี 2006’ ใช้ได้แค่ทางทฤษฎี
อย่างไรก็ตาม การเปิดเสรีสำหรับบางประเทศเกิดขึ้นในขณะที่จีนกำลังเห็นว่าอุตสาหกรรมกำลังได้รับผลกระทบจากข้อจำกัดด้านการส่งออกชิปขั้นสูงของรัฐบาลโจ ไบเดน ในขณะที่ข้อตกลงไตรภาคีระหว่างสหรัฐฯ ญี่ปุ่น และเนเธอร์แลนด์ ถูกกำหนดไว้เพื่อป้องกันไม่ให้รองรับอุปกรณ์การผลิตชิปรุ่นล่าสุด
ทางด้านวงการอุตสาหกรรมกล่าวว่า ที่ผ่านมาการลงทุนขนาดใหญ่ของปักกิ่งล้มเหลวและไม่ได้สร้างความได้เปรียบทางเทคโนโลยีมากนัก จากความพยายามในการดึงงานวิจัยเมื่อปี 2006 มาสร้างอุปกรณ์พิมพ์หินสำหรับการผลิตชิป
ซึ่งว่ากันว่าพิมพ์หินนี้ใช้งานได้แค่ในทางทฤษฎีเท่านั้น และไม่มีผู้ผลิตชิปรายใดกล้าที่จะเปิดใช้งานเครื่องจักรดังกล่าว
อ้างอิง:
