×

Cheat Meal Hangover คืออะไร เมาค้างจากขนมหวาน อย่างนี้ก็มีด้วย?

22.03.2018
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

4 Mins. Read
  • ทำความเข้าใจความแตกต่างของ Cheat Day และการ Refeed ตลอดจนไขคำตอบถึงเหตุผลว่าทำไมบางคนจึงไม่ได้อิ่มสุขกับการหลุดไดเอต แต่กลับทรมานจากอาการปวดหัว คลื่นไส้ ฯลฯ แทน
  • เมื่อต้องกินเบอร์เกอร์ชุ่มฉ่ำกับเฟรนช์ฟรายส์อย่างปฏิเสธไม่ได้ ควรสั่งสลัดผักจานโตมากินแกล้มกันไป แล้วอย่าลืมจิบชาสมุนไพรตบท้ายเพื่อช่วยลดอาการแฮงโอเวอร์จากอาหารอันไม่พึงประสงค์     
  • อาการทรมานนี้คือสิ่งที่ร่างกายฟ้องเนื่องจากไม่คุ้นเคย ส่งผลถึงอาการคลื่นไส้ พะอืดพะอม หรือปวดหัวจากการรับประทานแป้งหรือน้ำตาลปริมาณสูงที่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งขึ้นมาทันที หรือ ‘ลิ้นไม่รับ’ เพราะอาหารที่รับประทานอาจปรุงแต่งเยอะเกินไปในกรณีที่กินอาหารคลีนมานาน เป็นต้น

อาจฟังดูน่าหมั่นไส้ แต่สำหรับบางคน การกินชีตมีล (Cheat Meal) ที่อ้วนๆ หวานๆ อุดมด้วยน้ำตาลและไขมันอาจทำให้พวกเขาปวดหัว คลื่นไส้ กระทั่งอยากจะอาเจียน ซึ่งอาการเหล่านี้ไม่ได้เกิดกับทุกคน และสามารถอธิบายทางหลักวิทยาศาสตร์ว่าไม่ได้เป็นเพราะแอ๊บสวย แต่เป็นเพราะผลพวงจากการทำงานของร่างกายอันเรรวนต่างหาก  

 

มารู้จักกลโกงของการลดน้ำหนักกัน

ชีตมีลเปรียบเสมือนมื้อปล่อยผีของคนลดน้ำหนัก หรือเรียกว่าเป็นมื้อสวรรค์สำหรับคนที่ไดเอตอย่างมีแบบแผนและจริงจัง ซึ่งจุดประสงค์ของการโกงก็เพื่อกระตุ้นระบบเผาผลาญให้ทำงานอย่างต่อเนื่อง เพราะเมื่อคนเราลดน้ำหนักจนร่างกายจับทางได้ ร่างกายจะลดการเผาผลาญไขมันลงเรื่อยๆ เพื่อกักเก็บพลังงานให้อยู่กับตัวนานที่สุด และการปล่อยตัวกินบ้างเล็กน้อยหรือกินขนมที่ชอบสักชิ้นจึงถือเป็นการหล่อเลี้ยงระบบเผาผลาญอาหารไม่ให้หยุดทำงานไปเลย อีกทั้งยังดีกับจิตใจ เพราะการอดนานๆ ย่อมก่อให้เกิดความเครียด แต่ข้อผิดพลาดของคนส่วนใหญ่คือโกงกันบ่อยและเยอะเกินไป วิธีจำง่ายๆ คือให้กินโกงทุกๆ 2 สัปดาห์ อนุโลมให้กินเพิ่มจากปกติเพียง 10% ไม่ใช่กินทุกอย่างที่อยากกิน  

 

Photo: giphy.com

 

ปัญหาของการโกง   

ทีนี้หากคุณเป็นคนกินดีอยู่ดี กินอาหารเพื่อสุขภาพ 90% ที่เหลือมีหลุดบ้าง 10% จนร่างกายเรียนรู้และจดจำสารอาหารที่คุณเอาเข้าปาก กินแบบนี้จนเป็นกิจวัตร พอถึงเวลาที่คุณกินสิ่งแปลกปลอมอย่างอาหารที่มีไขมัน น้ำตาล ความเค็ม หรือแม้แต่กาเฟอีนในปริมาณที่มากเกินไปในคราเดียว (อย่างที่บอกว่าโกงได้ แต่อย่าเยอะ) ร่างกายเลยฟ้อง ออกอาการคลื่นไส้ พะอืดพะอม หรือปวดหัวจากการรับประทานแป้งหรือน้ำตาลปริมาณสูงที่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งขึ้นมาทันที หรือบางคนกินคลีนฟู้ดที่ไม่เน้นการปรุงแต่งรสชาติมานาน พอกลับมากินอาหารตามสั่งของป้าหน้าออฟฟิศเลยเกิดอาการ ‘ลิ้นไม่รับ’ เพราะอาหารของป้าจัดเต็มทั้งซีอิ๊ว น้ำปลา น้ำมันหอย ผงชูรส น้ำมัน ฯลฯ ทั้งๆ ที่ในอดีตก็เคยฝากท้องกับป้าเป็นประจำ  

 

Photo: media.glamour.com

 

การกินคราวละมากๆ อย่างบุฟเฟต์ก็ส่งผลต่อร่างกายเช่นกัน จากเดิมที่กินพอดีๆ แค่อิ่ม พอมากินในปริมาณที่เยอะเกิน ร่างกายเลยต้านไม่ไหว สู้เพื่อนที่เป็นขาประจำโต๊ะบุฟเฟต์ไม่ได้ แทนที่จะสุขกลับกลายเป็นทุกข์ทรมานจากการกิน แถมคุณยังรู้สึกอึนๆ เบลอๆ ไร้เรี่ยวแรง เพราะร่างกายต้องใช้พลังงานอย่างหนักในการย่อยอาหารแต่ละครั้ง    

 

อาการเหล่านี้เป็นวิธีที่ร่างกายต้องการสื่อสารกับสมอง แม้เป็นความรู้สึกที่อาจเกิดขึ้นอย่างฉับพลันหรือวันรุ่งขึ้น แต่ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายใดๆ และสามารถเกิดขึ้นได้กับสถานการณ์อื่นๆ เช่น คนที่เลิกกินเนื้อสัตว์เป็นเวลานาน พอกลับมากินอีกครั้งกลับรู้สึกเหม็นหรืออาหารไม่ย่อย (เพราะเอ็นไซม์ไม่ทำงาน) เช่นเดียวกับคอทองแดงที่เลิกดื่มไปเป็นปี พอกลับมาดื่มเบียร์แค่อึกเดียวกลับคอแทบพับ แต่การหยุดในที่นี้ต้องใช้เวลานานหลายเดือนหรือเป็นปี ไม่ใช่แค่ 4-5 วัน

 

Photo: giphy.com

 

Cheat Meal ต่างกับ Refeed ไหม   

แม้จะเป็นการกินๆๆ เหมือนกัน แต่สองสิ่งนี้แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เนื่องจากการรีฟีด (Refeed) เป็นเทคนิคการกินเพื่อเติมเต็มสิ่งที่ร่างกายขาด ไม่ใช่กินตามใจปากหรือกินสนองนี้ด ส่วนมากเป็นเทคนิคที่ใช้กันในหมู่นักกีฬาที่ซ้อมหนักติดต่อกันจนร่างกายหมดแรง ไม่มีคาร์โบไฮเดรตให้ดึงมาใช้เป็นพลังงานอีก หรือไดเอตเพื่อรีดน้ำหนักจนร่างกายขาดสารอาหารบางตัว เราก็รีฟีดส่วนที่ขาดเข้าไปในปริมาณที่ ‘คิดมาแล้ว’ ว่าเหมาะสำหรับการฟื้นฟูร่างกาย การกินอาหารประเภทนี้จึงไม่ค่อยส่งผลเสียเหมือนชีตมีล เพราะอาหารที่กินส่วนใหญ่เป็นคาร์โบไฮเดรต ไม่ใช่อาหารที่มีน้ำตาลหรือไขมันปริมาณสูง     

 

Photo: giphy.com

 

ไม่อยากกิน แต่ต้องกิน จะแก้อย่างไรดี  

หากหลีกเลี่ยงอาหารแย่ๆ ไม่ได้ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้เคี้ยวหมากฝรั่งเพื่อกระตุ้นน้ำลายให้กรดในกระเพาะอาหารทำงานมากขึ้น หรือจิบชาสมุนไพรอย่างชามินต์ ที่ปราศจากกาเฟอีนหลังมื้ออาหาร หรือจิบระหว่างวันเพื่อช่วยให้ขับลม ไม่แน่นท้อง การดื่มน้ำเปล่าก็ช่วยได้มากในกรณีที่คุณกินอาหารเค็มจัดหรืออาหารแปรรูป เช่น ไส้กรอก แฮม ลูกชิ้นปิ้ง เพราะน้ำเปล่าสามารถชะล้างโซเดียมออกจากร่างกายได้เป็นอย่างดี รวมถึงอาหารที่มีไฟเบอร์สูงอย่างผัก ทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานลื่นไหลขึ้น อีกวิธีคือให้เคลื่อนไหวร่างกาย ง่ายที่สุดคือการเดิน เป้าหมายไม่ใช่เพื่อเบิร์นไขมัน แต่ช่วยเรื่องการย่อยอาหาร  

 

เราพอจับใจความสิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำได้ว่า หากคุณจำเป็นต้องกินอาหารที่ไม่เป็นมิตรกับร่างกาย แนะให้กินอาหารดีควบคู่ไปด้วย เช่น เมื่อต้องกินเบอร์เกอร์ชุ่มฉ่ำกับเฟรนช์ฟรายส์อย่างปฏิเสธไม่ได้ก็ควรสั่งสลัดผักจานโตมากินแกล้มกันไป แล้วอย่าลืมจิบชาสมุนไพรตบท้ายเพื่อช่วยลดอาการแฮงโอเวอร์จากอาหารอันไม่พึงประสงค์     

 

อ้างอิง

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising