ถ้ามีสิ่งหนึ่งที่แบรนด์ Chanel นำทีมโดย Eric Pfrunder อาร์ทิสติกไดเร็กเตอร์ด้านภาพแฟชั่น (Artistic Director of Fashion Image) มีความเชี่ยวชาญอย่างมาก ก็ต้องยกให้ความสามารถในการทำมาร์เก็ตติ้ง และสร้างความตื่นเต้นให้คนอยากรู้ว่าโชว์ที่กำลังจะเกิดขึ้นจะตระการตาขนาดไหน ฉากจะเป็นคอนเซปต์อะไร นางแบบตัวท็อปคนไหนจะได้มาเดิน ชุดสูทผ้าทวีตจะดีไซน์ออกมารูปทรงไหน และทาง Michele Gubert ซาวด์ไดเร็กเตอร์มือหนึ่งของวงการ จะใช้เพลงอะไรมาประกอบโชว์
สำหรับคอลเล็กชัน Spring/Summer 2021 แม้จะมีข้อจำกัดมากมายเพราะสถานการณ์โควิด-19 แต่ก็ต้องบอกว่าทาง Chanel ปูทางก่อนเริ่มโชว์ได้อย่างฉลาด ทางแบรนด์ได้ส่งบัตรเชิญที่มาในรูปแบบป๊อปอัพสามมิติที่เขียนชื่อแบรนด์ในสไตล์ป้าย Hollywood ซึ่งก็กลายมาเป็นฉากพื้นหลังของโชว์ ต่อมาก็ได้ปล่อยคอนเทนต์วิดีโอทีเซอร์และหนังสั้นออกมามากมาย ที่รังสรรค์โดยช่างภาพสามีภรรยาชื่อดังชาวฮอลแลนด์ Inez van Lamsweerde และ Vinoodh Matadin และพอจบโชว์ก็พยายามหล่อเลี้ยงกระแส โดยการชวนเหล่าแอมบาสเดอร์ อาทิ เจนนี่ BLACKPINK, คริสเตน สจวร์ต, มาร์โกต์ ร็อบบี้ และ จีดรากอน ให้มาพูดถึงความรู้สึกผ่านวิดีโอที่อัดมาจากทั่วทุกมุมโลก ซึ่งปล่อยผ่าน Instagram Stories
คอลเล็กชันนี้จัดอย่างยิ่งใหญ่ที่ Grand Palais ในกรุงปารีส เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่ตัวอาคารจะถูกปรับปรุงซ่อมแซมเพื่องานโอลิมปิกปี 2024 โดยทาง Virginie Viard อาร์ทิสติกไดเร็กเตอร์ด้านเสื้อผ้าของ Chanel ก็ได้แรงบันดาลใจจากเรื่องราวชีวิต อิริยาบถ และการแต่งตัวของบรรดานักแสดงหญิงวงการภาพยนตร์ที่ต้องอยู่ในสปอตไลต์ตลอดเวลา โดยเฉพาะตอนเดินสายโปรโมตหนังที่มีทั้งช่วง Photocall และการเดินพรมแดง ซึ่งเต็มไปด้วยช่างภาพตะโกนให้หันมา หรือแฟนหนังมายืนด้านหลังรั้วรอขอลายเซ็นและถ่ายเซลฟี
Virginie อยากให้เสื้อผ้าในคอลเล็กชันนี้ดูมีสีสันและมีอารมณ์คิดบวก โดยเธอได้นำเสนอผ่านไอเท็ม อาทิ กางเกงยีนส์สีเรืองแสงกลิ่นอายยุค 80, ชุดเดรสลายป้ายไฟนีออน, เสื้อยืดพิมพ์ลายหมายเลข 5 ที่มาในสไตล์นาฬิกานับถอยหลังในหนังสมัยเก่า และสเวตเตอร์สีแดงปักมุกคำว่า Chanel ที่น่าจะเป็นชิ้นขายได้ของคอลเล็กชันนี้ ซึ่งทั้งหมดของเสื้อผ้าก็ยังคงอยู่ในกรอบความคิดสไตล์สาวปาริเซียงที่ Virginie ถนัด ไม่อยากทิ้ง และคงอยากให้เป็นซิกเนเจอร์ของเธอ แต่ก็ต้องยอมรับว่าเสื้อผ้าอาจไม่ได้ใส่ง่ายเสมอไปหากเทียบกับยุคก่อนๆ ของ Chanel ที่ Karl Lagerfeld จะสามารถสร้างสรรค์เสื้อผ้าที่เข้ากับบริบทสังคมในเวลาปัจจุบันได้ให้ดูมีชั้นเชิง สดใหม่ และดูสากลเข้ากับผู้หญิงหลากหลายแนวและช่วงอายุมากกว่า
แต่ก็รู้ๆ กันว่าสินค้าที่หล่อเลี้ยงแบรนด์มหาอำนาจอย่าง Chanel ก็ต้องเป็นกระเป๋าและแอ็กเซสซอรี ซึ่ง Virginie ก็ฉลาดทำไอเท็มที่เตรียมเป็นกระแสไวรัลและสาวกของแบรนด์ต้องแห่กันไปซื้อของเข้าร้านช่วงเดือนมีนาคมปีหน้า โดยเฉพาะกับกระเป๋าโต๊ะเครื่องแป้งทรงไอคอนิก ‘Vanity Case’ ที่มาในใบจิ๋วหลากสี และมีการนำกระเป๋าทรง ‘Classic’ มาปรับเป็นเวอร์ชันใบจิ๋ว ทั้งแบบสามารถสะพายข้างได้ เป็นกำไลข้อมือและเป็นสร้อยคอด้วย
ภาพ: Chanel