ตั้งแต่ เวอร์ฌินี วิอารด์ ได้เข้ามารับตำแหน่งครีเอทีฟไดเรกเตอร์ของ Chanel ต่อจาก คาร์ล ลาเกอร์เฟลด์ ซึ่งแต่เดิมเธอเคยเป็นมือขวามายาวนานหลายทศวรรษ เราก็ได้เห็นผลงานของเธอลดทอนความฟู่ฟ่า ความล้ำหน้า และความสนุก เมื่อเปรียบเทียบกับอดีตเจ้านายอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้เธอยังสร้างขอบเขตการดีไซน์ในฉบับที่สะท้อนและเน้นย้ำความเป็นตัวตนผู้หญิงปารีเซียงมากกว่า แม้จะมีหลายกระแสจากนอกตึก 31 Rue Cambon ที่คิดถึงผลงานในยุคของคาร์ลก็ตาม
แต่สำหรับคอลเล็กชันกูตูร์ Fall/Winter 2020 ทางเวอร์ฌินีอาจจะได้รับฟังกระแสต่างๆ และกลับมาทำเสื้อผ้าที่มีกลิ่นอายความเป็น Maximalist เหมือนที่คาร์ลถนัด พร้อมทำให้เห็นว่าเบื้องหลังลุคตำนานต่างๆ ของ Chanel ที่เราเชิดชู และเด็กยุคใหม่ชอบนำมารีโพสต์ในอินสตาแกรม หรือตามหาซื้อชิ้นวินเทจเหมือน ไคลี เจนเนอร์ ทางเวอร์ฌินีก็มีส่วนเกี่ยวข้องไม่มากก็น้อย แค่ว่าเมื่อก่อนเธอคือคนหลังฉากที่หลายคนอาจยังไม่รู้จักเธอ
“ฉันนึกถึงไอเดียของเจ้าหญิงแนวพังก์ที่กำลังเดินออกมาจากคลับ Le Palace ช่วงที่พระอาทิตย์กำลังจะขึ้น พร้อมสวมชุดเดรสผ้าแพร (Taffeta) ทำทรงผมใหญ่ มีขนนก และใส่เครื่องประดับเยอะๆ คอลเล็กชันนี้ฉันได้แรงบันดาลใจจาก คาร์ล ลาเกอร์เฟลด์ มากกว่า กาเบรียล ชาเนล” เวอร์ฌินีได้กล่าวถึงคอลเล็กชันนี้ โดย Le Palace คือหนึ่งในไนต์คลับระดับตำนานของกรุงปารีสในช่วงยุคปลาย 70-80s ที่เปรียบเสมือนคู่แข่งของ Studio 54 ในนิวยอร์ก ซึ่งในยุคนั้น คาร์ล ลาเกอร์เฟลด์ เป็นหนึ่งในคนดังขาประจำที่มักจะไปพร้อมเพื่อนฝูง อาทิ เกรซ โจนส์, โซเนีย ริเคีย, แอนดี้ วอร์ฮอล และ พาโลมา ปิกัสโซ เป็นต้น
มากไปกว่านั้น ทางเวอร์ฌินีก็ได้บอกเว็บไซต์ WWD ว่า “ผู้หญิงในคอลเล็กชันนี้มีความแหกคอก (Eccentric) แบบในยุค 80s ซึ่งฉันอยากดีไซน์เสื้อผ้าที่มีความสนุกสนานมากยิ่งขึ้น… คอลเล็กชันนี้ทำให้ฉันได้ย้อนนึกถึงภาพของคาร์ลกับเพื่อนฝูงในสมัยที่ฉันยังไม่รู้จักเขา ซึ่งเขาจะจัดงานสังสรรค์และปารตี้อยู่เป็นประจำ โดยแต่ละคนก็จะแต่งตัวกันอย่างสุดๆ”
แต่เพราะสถานการณ์โควิด-19 คอลเล็กชันนี้ก็ยังนำเสนอในรูปแบบวิดีโอออนไลน์อีกครั้งเหมือนของคอลเล็กชัน Cruise 2021 โดยในครั้งนี้ได้ช่างภาพชาวสวีเดน มิคาเอล แจนส์สัน มาถ่ายให้ พร้อมใช้สองนางแบบสุดโปรดของแบรนด์อย่าง อาดุต อาเคช และ ริแอนน์ ฟาน รอมปาย ซึ่งหลายคนอาจเซอร์ไพรส์ว่าคอลเล็กชันนี้มีแค่ 30 ลุค เพราะในซีซันก่อนๆ ทาง Chanel ก็จะมีอย่างน้อย 60 ลุค
คอลเล็กชันกูตูร์ถือว่าเป็นเสาหลักสำคัญของอาณาจักรแบรนด์ Chanel มาตั้งแต่นับหนึ่ง โดยผู้ก่อตั้งแบรนด์ กาเบรียล ชาเนล ได้เปิดห้องเสื้อกูตูร์ครั้งแรกในปี 1915 ที่เมืองบียาริตส์ ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส ซึ่งทุกวันนี้ Chanel ก็ยังคงรักษาคุณภาพและศิลปะการตัดเย็บชั้นสูง ด้วยการซื้อกิจการที่มีความถนัดด้านงานฝีมือส่วนต่างๆ เพื่อการรังสรรค์สินค้ากูตูร์ให้อยู่ภายใต้กลุ่ม Paraffection อาทิ Maison Lemarié ที่ถนัดงานฝีมือเกี่ยวกับขนนก, Maison Massaro ที่เน้นการทำรองเท้า และล่าสุดกับ Vimar 1991 ที่ทำเส้นด้ายสำหรับเนื้อผ้า Tweed สุดคลาสสิกของแบรนด์ที่เพิ่งประกาศช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา
* สำหรับใครที่อยากศึกษาเพิ่มเติมเรื่องผลงานกูตูร์ของ Chanel สามารถชมวิดีโอของ THE STANDARD POP ได้ที่นี่:
ภาพ: Courtesy of Chanel
อ้างอิง:
