×

ชาคริต แย้มนาม หนัง ‘คิดถึงทุกปี’ และ New Year’s Resolution ครั้งแรกในชีวิต

27.12.2017
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

4 Mins. Read
  • ชาคริตเป็นคนที่ไม่เคยตั้ง New Year’s Resolution มาก่อน เพราะเขาคิดแค่ว่าทำหน้าที่ทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้าให้ดีที่สุดก็พอแล้ว
  • ปีนี้ THE STANDARD ชวนให้ชาคริตตั้ง New Year’s Resolution เป็นครั้งแรก ซึ่งเป้าหมายทั้งหมดในปีนี้ของเขาล้วนเกี่ยวข้องกับครอบครัวและลูกชายที่กำลังจะเกิดทั้งนั้น
  • คิดถึงทุกปี Memories of New Years คือหนังเรื่องล่าสุดของชาคริตที่เขาเชื่อว่าเป็นหนังจิตใจดี เหมาะสำหรับเป็นของขวัญต้อนรับปีใหม่ที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มให้กับทุกคน

ตามธรรมเนียมการส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ THE STANDARD ชวนพระเอกรุ่นใหญ่ ชาคริต แย้มนาม ที่ตลอดชีวิตเกือบ 40 ปี เขาไม่เคยตั้งเป้าหมายในวันปีใหม่ (New Year’s Resolution) เหมือนที่หลายๆ คนชอบทำแม้แต่ปีเดียว เพราะเขาเชื่อว่าเพียงแค่ตั้งใจทำหน้าที่ทุกอย่างที่ต้องรับผิดชอบให้ดีที่สุดก็พอแล้ว

           
ประกอบกับชีวิตในปีหน้าของพระเอกคนนี้กำลังจะมีสิ่งสำคัญหลายอย่างเกิดขึ้น ทั้งหนังเรื่องใหม่ คิดถึงทุกปี Memories of New Years ที่กำลังเข้าฉาย ความรักครั้งใหม่ที่มาพร้อมกับชีวิตน้อยๆ ที่กำลังเกิดขึ้น ก็ถือเป็นจังหวะอันดีให้คุณพ่อมือใหม่ต้องตั้งเป้าหมายอะไรบางอย่างเพื่อปรับปรุงชีวิตตัวเองให้ดีขึ้น สำหรับการดูแลอีกหนึ่งชีวิตที่กำลังจะลืมตาขึ้นมาเป็นของขวัญต้อนรับปีใหม่ และขวบวัย 40 ปีในครั้งนี้

           

 

1. ทวงคืนความเรียบง่ายและรอยยิ้มที่หายไปให้กลับคืนมา

อย่างแรกคือผมอยากมีชีวิตที่เรียบง่ายมากขึ้นอย่างที่เคยเป็นตอนเด็กๆ ไม่ต้องมีหน้าที่การงาน ไม่ต้องมีชื่อเสียง ไม่ต้องมีอะไรมากมาย เพื่อนอยู่ที่ไหน เราอยู่ที่นั่น แค่นั้นจบ ทำตัวไร้สาระกันบ้างแบบที่เคยทำสมัยเด็กๆ

           
พอชีวิตเรียบง่ายขึ้น อย่างที่สองคือผมอยากได้รอยยิ้มกลับคืนมา ผมรอวันที่ผมจะสามารถยิ้มและหัวเราะได้เหมือนตอนเด็กๆ ไม่ต้องพะวงว่าทำอะไรแล้วจะมีใครมองหรือคอยโจมตี อยากล้างภาระทุกอย่าง ทุกสิ่งที่มากดดัน และทำให้เราต้องสร้างเกราะให้กับตัวเอง ผมจำไม่ได้แล้วว่าเริ่มยิ้มแบบนั้นน้อยลงตั้งแต่เมื่อไร แต่พอรู้ตัวอีกครั้งมันก็หายไปจากผมแล้ว

           
ผมคิดว่าค่อนข้างยากเหมือนกันนะที่จะทำแบบนั้นได้จริงๆ เพราะส่วนหนึ่งที่ทำให้รอยยิ้มและความเรียบง่ายของผมหายไปก็คือการงาน ชื่อเสียงที่ผมเป็นคนวิ่งเข้าหาตั้งแต่เด็ก จนตอนนี้นอกจากมีงานแสดงมากขึ้นก็เริ่มทำธุรกิจหลายอย่าง เริ่มมีคนจับตา โจมตี หรืออะไรต่างๆ รอยยิ้มผมคงค่อยๆ หายไประหว่างเส้นทางเหล่านั้น และตอนนี้ผมก็ยังอยู่ในเส้นทางเหล่านั้นอยู่ คงเรียกคืนมาแบบทีเดียวไม่ได้ แต่ปีนี้คิดว่าจะพยายามลดทุกอย่างลงบ้าง อย่างน้อยก็ความกดดันจากตัวเอง


ผมโชคดีมากที่ในปีที่ผ่านมามีภรรยาและลูกที่กำลังจะเกิดเข้ามาในชีวิต มามอบรอยยิ้มแบบนั้นให้กับเรา และผมจะต้องมีรอยยิ้มแบบนั้นกลับไปให้พวกเขาให้ได้ด้วยเหมือนกัน

 

 

2. ตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปบ้าง

ข้อนี้ถ้าพูดไปคนใกล้ตัวน่าจะดีใจแล้วกรี๊ดกันหมดแน่ๆ (หัวเราะ) ผมอยากตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นกับชีวิตหลายๆ อย่าง เช่น รถยนต์ นาฬิกา ของฟุ่มเฟือยต่างๆ ที่ซื้อไว้เต็มไปหมด แต่ไม่ได้เอาออกมาใช้ รถยนต์ก็ไม่ค่อยขับ นาฬิกาก็แทบไม่ได้ใส่ ไปออกกองทุกวันก็เสื้อยืด กางเกงขาสั้น รองเท้าแตะ แต่ดันเป็นคนชอบซื้อ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน มีเวลาว่างนิดนึงนี่เอาแล้ว เข้าไปดูรถแล้ว อย่างคนที่เขาซื้อแล้วเอามาอวดนั่นเขาก็ยังได้ใช้กันนะ ยังมีประโยชน์ แต่ของผมคือซื้อมากองๆ ไว้

           
ตอนผมไปบวชนี่สามารถตัดทุกอย่างได้ง่ายมากเลย รู้เลยว่าพออยู่ในผ้าเหลืองปุ๊บ มันมหัศจรรย์จริงๆ แต่ผ่านไปแป๊บเดียว เอาอีกแล้ว จะไปดูรถอีกแล้ว (หัวเราะ) ตอนนี้เลยอยากดัดนิสัยตัวเองตรงนี้ เพราะถ้าดัดได้ มันจะมีผลดีในระยะยาวมากๆ แล้วตอนนี้ผมก็ไม่ใช่ตัวคนเดียว แถมเพิ่งมีอีกชีวิตหนึ่งที่กำลังจะเกิดมา มันก็คงถึงเวลาแล้วเหมือนกันที่จะต้องตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นบางอย่างเพื่อสิ่งที่จำเป็นจริงๆ กับชีวิตของเราในตอนนี้

 

 

3. เริ่มต้นดูแลสุขภาพอย่างจริงจัง

ต่อเนื่องเหมือนทุกข้อเลยนะครับ คือความคิดพวกนี้จะมาพร้อมกับการมีลูก แล้วเรื่องนี้ผมไม่ได้บอกใครเท่าไร คือช่วงปีที่ผ่านมา เวลาเครียดๆ ตรงด้านหลังหัวมันจะมีความรู้สึกปวดปรี๊ดขึ้นมาเลย เป็นหลายครั้งมาก บางทีเวลาตื่น ตัวเราลุกขึ้นมาแล้ว แต่หัวไม่ยอมลุก มันหนักไปหมด แล้วยิ่งอายุเท่านี้ ภาระรับผิดชอบมากขนาดนี้ มันก็ยิ่งกดดันให้เครียดขึ้นไปอีกว่าเราจะเป็นอะไรไปไม่ได้เป็นอันขาด ถ้าเราเป็นอะไรขึ้นมาแล้วใครจะดูแลแม่ (คุณแม่ของชาคริตป่วยเป็นโรคเส้นเลือดในสมองตีบ) ไหนจะลูก ไหนจะภรรยาของเราอีก ไม่ต้องพูดถึงธุรกิจที่กำลังทำ คนในบริษัทที่ต้องดูแล เพราะฉะนั้นตอนนี้สุขภาพเลยกลายเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนการดูแลสุขภาพแทบไม่เคยอยู่ในหัวของผมมาก่อนเลย ทุกคนจะรู้ดีว่าผมใช้ร่างกายเต็มที่มาก เวลาทำงานผมเกินร้อย ให้อยู่กองถึงกี่โมง หรือจะถ่ายผมไปอีก 24 ชั่วโมงก็ได้ ผมไม่เคยบ่น แต่ตอนนี้ไม่ได้แล้ว

           
ข้อเสียของผมคือผมไม่อยากไปหาหมอ เพราะกลัวรู้อะไรบางอย่างแล้วมันจะยิ่งหมดกำลังใจ (หัวเราะ) อยากขอลองบำบัดรักษาด้วยตัวเองก่อน ออกกำลังกาย พักผ่อนให้มากขึ้น ทุกอย่างเป็นเรื่องพื้นฐานอยู่แล้ว เพียงแต่เราไม่เคยสนใจสิ่งพื้นฐานเหล่านี้เองมากกว่า

 

 

4. จัดการทุกอย่างรอบตัวให้ดีกว่าที่เคย

ผมเพิ่งมารู้ตัวข้อนี้ในวันที่เทสต์การตั้งครรภ์ของภรรยาแล้วขึ้น 2 ขีด โอ้โห วันนั้นผมดีใจจนกระโดดเป็นลิงเลย นอกจากความดีใจในฐานะคนเป็นพ่อ มันทำให้ผมค้นพบความกระตือรือร้นบางอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน เป็นพลังขับเคลื่อนที่ทำให้ผมอยากมองไปข้างหน้าไกลๆ จากปกติเป็นคนสโลว์ไลฟ์มาก ใครให้ทำอะไรก็เดี๋ยวก่อน ทำช้าๆ ค่อยๆ ทำไปเรื่อยๆ ไม่ค่อยจัดการอะไรให้เป็นระเบียบเรียบร้อยเท่าไร คือทำงานหรือทำทุกอย่างตรงหน้าให้มันออกมาดีที่สุด คิดแค่นั้น ไม่ได้คิดถึงระบบหรือโครงสร้างอะไรให้มันเป็นรูปธรรมมากมาย

           
แต่พอรู้ว่ามีลูก ทั้งวันของผมหมดไปกับการเสิร์ชหาข้อมูล จากปกติเสิร์ชหาแต่รถ ดูนาฬิกา คราวนี้เปิดหาว่าโรงพยาบาลไหนดี ต้องฝากครรภ์กับหมอคนไหน ต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง ซึ่งพอได้ทำอะไรที่ไม่เคยทำมาก่อนเลยรู้สึกว่าเราอาจจะยังจัดการมันได้ไม่ดีเท่าไร เราควรต้องเตรียมความพร้อมอะไรให้มากกว่านี้ เพราะฉะนั้นในปีหน้า ถ้าเป็นไปได้ก็อยากเตรียมการอะไรบางอย่างไว้ให้ลูก ไว้ให้ภรรยา ให้พวกเขามีชีวิตที่สะดวกสบายและมีความสุขที่สุด และคงไม่ใช่แค่เป้าหมายในปีนี้ แต่คงหมายถึงปีต่อๆ ไปที่ผมจะทำทุกอย่างให้ดีขึ้นไปเรื่อยๆ ด้วย

 

 

5. คิดถึงทุกปี Memories of New Years หนังจิตใจดีที่อยากให้ทุกคนได้ดู

อันนี้อาจไม่ใช่ New Year’s Resolution ที่ผมจะทำได้ในปีหน้า เพราะผมเริ่มทำตั้งแต่ปีนี้แล้ว คือหนังเรื่อง คิดถึงทุกปี Memories of New Years ที่ฉายอยู่ตอนนี้ เป็นความรู้สึกที่อยากให้ทุกคนได้ดูหนังเรื่องนี้ แล้วเริ่มต้นปีใหม่ที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มไปพร้อมๆ กัน

           
ไม่รู้ว่าคนอื่นจะคิดยังไงนะ แต่สำหรับผมในฐานะนักแสดง หนังเรื่องนี้แม่งเป็นหนังที่โคตรจิตใจดีเลยอ่ะ เฟรนด์ลี่ ดูง่าย คงไม่ถึงขนาดที่คนเข้าไปดูแล้วหัวเราะก๊าก แต่ผมเชื่อว่าจะทำให้ทุกคนมีรอยยิ้มและมีความสุขไปตลอดตั้งแต่ต้นจนจบ


เป็นหนังที่ไม่ต้องใช้นักแสดงตัวใหญ่ เป็นหนังที่เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทั้งในประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้านมาร่วมทำโปรเจกต์นี้ขึ้นมา มันเลยเต็มไปด้วยมิตรภาพ ความปรารถนาดีของทุกคนที่เหมือนอยากส่งของขวัญปีใหม่ผ่านวัฒนธรรมของแต่ละประเทศที่สวยงาม ความน่ารักของผู้คน แล้วสอดแทรกเรื่องการเคารพสิทธิ การเอาใจเขามาใส่ใจเรา การหลงลืมรากเหง้าของประเพณีที่ควรรักษาเอาไว้ ทุกเรื่องเป็นสิ่งเล็กๆ ที่หลายคนนึกไม่ถึง


ผมว่ามันน่าจะดีเหมือนกันนะที่ปีใหม่ปีนี้เราอาจจะไม่ต้องตั้งเป้าหมายอะไรที่ใหญ่โต แต่เริ่มจากเป้าหมายเล็กๆ ทำได้ง่ายๆ อย่างที่ในหนังเรื่องนี้บอก แล้วเอามาปฏิบัติให้เกิดขึ้นได้จริง เริ่มต้นจากความสุขที่เกิดขึ้นได้ง่ายๆ ก่อน แล้วความสุขที่ใหญ่กว่านั้นจะตามมาเอง

FYI
  • คิดถึงทุกปี Memories of New Years คือหนังรัก AEC ที่เกิดจากการร่วมมือระหว่างทีมงานและนักแสดงจาก 3 ประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ ไทย ลาว และกัมพูชา โดยมีเทศกาลปีใหม่เป็นจุดร่วมในการเล่าเรื่องราวความรัก ความสัมพันธ์ มิตรภาพ รวมถึงประเพณีที่สวยงามและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของในภูมิภาคนี้เท่านั้น
  • พาร์ตที่ชาคริตแสดงนำคือพาร์ตที่ประเทศลาว โดยรับบทเป็น สันต์ นักวาดภาพสุดติสท์ที่อยากวาดภาพหลวงพระบางในมุมที่ดีที่สุดจนเผลอลุกล้ำเข้าไปในพื้นที่ส่วนตัวของ น้อย (บาร์บี้-ปิยะมาศ พูนประเสิด) เจ้าของพื้นที่สาวสวยแสนโชคร้ายที่ต้องมาโดนศิลปินตัวแสบคอยแกล้งและแซวอยู่ตลอดเวลา
  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising