วันนี้ (13 กุมภาพันธ์) ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงกรณีมติสภากรุงเทพมหานคร (กทม.) อนุมัติ นำเงินสะสมกว่า 23,488 ล้านบาท ให้ กทม. ใช้หนี้รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียวส่วนต่อขยายว่า เรื่องนี้ได้ผ่านสภาเรียบร้อยแล้ว จากนี้ตนจะลงนามและประกาศลงราชกิจจานุเบกษา ดังนั้นคงไปเจรจารายละเอียดในการรับโอนและจ่ายชำระค่าใช้จ่ายต่างๆ ตามมติของสภา ซึ่งเป็นไปตามมติของสภา 2 เรื่องคือ รอบคอบ และเป็นประโยชน์กับประชาชน และให้ทำในระยะเวลาอันเร็วที่สุด เพื่อลดค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากเวลาที่เนิ่นนานออกไป ซึ่งฝ่ายผู้บริหารกำลังเจรจากับทางบริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด (KT) และเอกชน คาดว่า 1-2 สัปดาห์ก็จะได้ความคืบหน้า
ขณะเดียวกันก็จะทำคู่ขนานกันไป ใน 3 เรื่องที่ต้องแจ้งไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยว่า สภา กทม. มีมติแล้วให้ชำระหนี้การติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณ (E&M) และเครื่องกล ทั้งนี้หลังจากชำระสัญญา E&M จะทำให้เรื่องที่ค้างอยู่ในคณะรัฐมนตรี (ครม.) สมัยใช้มาตรา 44 จะต้องมีการเปลี่ยนแปลง เพราะเรื่องที่ค้างอยู่รวมหนี้ E&M เป็นส่วนหนึ่งในเงื่อนไขการต่อสัญญาสัมปทาน ดังนั้นเรื่องที่ค้างอยู่ใน ครม. จะไม่ใช่เรื่องปัจจุบันแล้ว ส่วนเรื่องที่ 3 การทำเงินสนับสนุนเพิ่มเติม จะทำส่งกลับไป ซึ่งจะให้กระทรวงมหาดไทยพิจารณาดำเนินการตามความเหมาะสมต่อไป
ชัชชาติเปิดเผยด้วยว่า วันนี้มาเรื่ององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ทางพัทยาและสมัชชามาขอเงินคืน จากช่วงที่รัฐบาลลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 50% ซึ่งมีบางส่วนยังไม่ได้คืน ก็จะได้นำเงินกลับขึ้นมาเพื่อนำไปสู่ท้องถิ่น และเป็นไปตามที่ค้างอยู่ แต่ก็คงไม่ได้ง่าย
เปิดลานคนเมือง เป็นพื้นที่ปลอดภัย ใช้ชุมนุมได้
ชัชชาติกล่าวถึงการดูแลสำหรับพื้นที่การชุมนุมว่า เราก็พร้อม แต่ตอนนี้ยังไม่มีใครยื่นเรื่องมาที่เรา แต่เรามีพื้นที่ชุมนุมเปิดอย่างลานคนเมือง ยืนยันว่าพร้อมรับ ขอให้แจ้งเข้ามาก็สามารถใช้ได้อย่างเต็มที่ และจะให้เป็นพื้นที่ปลอดภัย อยู่ในวงที่ใครสนใจก็สามารถรับฟังและแสดงความเห็นได้
