วานนี้ (5 มกราคม) ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงการพิจารณาแนวทางดำเนินการในส่วนของการเดินเรือคลองผดุงกรุงเกษม รวมถึงกระแสข่าวว่าจะไม่สานต่อโครงการต่างๆ จาก อัศวิน ขวัญเมือง อดีตผู้ว่าฯ กทม. ว่าหลายโครงการที่อัศวินได้ทำมาเป็นโครงการที่ดี เช่น การเดินเรือคลองผดุงกรุงเกษม การปรับปรุงคลองโอ่งอ่าง
ทั้งนี้ การเดินเรือคลองผดุงกรุงเกษมยังไม่ได้หยุดเดินเรือ เพียงแต่ให้มีการประเมินสถานการณ์ว่าจะดำเนินการแนวทางใดต่อ เพราะปัจจุบันไม่มีการเก็บค่าโดยสารแต่มีผู้ใช้บริการน้อย ช่วงโควิดที่ผ่านมามีคนใช้บริการประมาณ 5,000 คนต่อเดือน ตอนนี้ประมาณ 14,000 คนต่อเดือน แต่ค่าใช้จ่ายในการเดินเรือประมาณ 2.4 ล้านบาท ตกคนละ 171 บาทต่อเที่ยว ถือว่าค่อนข้างแพง
“เราก็ประเมินว่ามีทางเลือกอื่นที่คุ้มค่ากับประชาชนมากขึ้นไหม เพราะสถานการณ์เปลี่ยนไป หรือโครงการปรับปรุงคลองโอ่งอ่างก็ทำไว้ได้ดี ที่ผ่านมาก็มีการจัดงานเทศกาลทิวาลีที่คลองโอ่งอ่าง มีการเรียกผู้ประกอบการมาหารือแนวทางดำเนินการต่อไป” ชัชชาติกล่าว
ชัชชาติกล่าวต่อไปว่า สำหรับแนวทางการจัดเก็บค่าโดยสารการเดินเรือมาช่วยเรื่องค่าใช้จ่ายนั้น หากต้องติดตั้งระบบจัดเก็บค่าโดยสารก็อาจมีค่าใช้จ่ายมากขึ้น สิ่งสำคัญคือจะหาลูกค้าหรือผู้ใช้บริการอย่างไร เชื่อมต่อการเดินทางระบบอื่นเพิ่มเติมได้หรือไม่ ทั้งนี้ ไม่ได้ยกเลิก เพียงแต่ดูถึงความคุ้มค่าที่เกิดขึ้น เพราะถ้าเคยใช้บริการจะรู้ว่าเรือวิ่งช้ามาก เรือวิ่งเร็วไม่ได้ นั่งรถริมคลองเร็วกว่า
เรื่องนี้ตนได้มอบหมายให้ วิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าฯ กทม. ดูว่าผู้ใช้บริการได้รับผลกระทบหรือไม่ ซึ่งบริเวณนั้นมีทางเลือกในการเดินทางหลายทางเลือก อาจมีโอกาสปรับเป็นการเดินเรือช่วงสั้นก่อน ซึ่งคิดเรื่องประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก
“ส่วนที่อาจมีการตั้งคำถามว่าถ้าไม่เดินเรือต่อแล้วเรือที่ซื้อมาแล้วจะทำอะไร บางครั้งเราซื้อมาแล้วเสียเงินไปแล้ว แต่ถ้าทำต่อต้องเสียเงินเพิ่มอีก ต้องคิดดีๆ ว่าทำอย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุด ย้ำว่าไม่ได้มีอคติใดๆ ขอบคุณที่ได้เริ่มการเดินเรือ” ชัชชาติกล่าวในที่สุด