×

CEO องค์กรชั้นนำทั่วโลก ตบเท้าเตือนภาวะเงินเฟ้อพุ่ง แนะเตรียมตัวรับมือเศรษฐกิจถดถอยปี 2023

07.12.2022
  • LOADING...
เงินเฟ้อ

สถานีโทรทัศน์ CNBC รายงานรวบรวมความเห็นของบรรดาประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ขององค์กรชั้นนำระดับโลกอย่าง JPMorgan, General Motors, Walmart, United Airlines และ Union Pacific ที่พร้อมใจออกโรงเตือนบริษัทและนักลงทุนทั้งหลายให้เตรียมพร้อมรับมือกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปี 2023 ที่บรรดาผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะชะลอการใช้จ่าย 

 

ทั้งนี้ บรรดา CEO ของบริษัทชั้นนำได้แสดงความเห็นในรายการ Squawk Box ของ CNBC โดยทั้งหมดต่างเห็นตรงกันว่า ปัจจัยการขึ้นอัตราดอกเบี้ย อัตราเงินเฟ้อสูง และความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ทำให้แนวโน้มการขยายตัวเติบโตทางเศรษฐกิจของปี 2023 ลดลง 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง


โดย Jamie Dimon ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ JPMorgan Chase & Co. ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ กล่าวเตือนว่าเงินเฟ้ออาจฉุดให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ เข้าสู่ภาวะถดถอยในปีหน้า และเงินเฟ้อกำลังกัดกร่อนทุกสิ่ง คิดเป็นมูลค่าราว 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ในกลางปีหน้า ซึ่งอาจฉุดเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย

 

ขณะเดียวกัน แม้ว่าผู้บริโภคจะมีเงินออมส่วนเกินอยู่ราว 1.5 ล้านล้านดอลลาร์จากมาตรการเยียวยาช่วงเกิดการแพร่ระบาดของโควิด และมีการใช้จ่ายมากกว่าปีที่แล้ว 10% ซึ่งอยู่ในสภาวะที่ดี แต่สิ่งเหล่านี้อาจดำเนินต่อไปได้ไม่นาน 

 

นอกจากนี้ Dimon กล่าวว่า การที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ Fed มีแนวโน้มขึ้นอัตราดอกเบี้ยแตะระดับสูงสุดที่ 5% ก็อาจจะไม่เพียงพอที่จะสกัดเงินเฟ้อ

 

Mary Barra CEO ของ General Motors คาดว่าเศรษฐกิจจะเผชิญกับอุปสรรคใหญ่ในปีหน้า แต่อาจจะยังไม่รุนแรงเข้าขั้นเศรษฐกิจถดถอย กระนั้นก็ยังไม่อาจวางใจได้ 

 

Doug McMillon CEO ของ Walmart มองว่าต่อให้ไม่อยากเผชิญหน้ากับภาวะเศรษฐกิจถดถอยมากแค่ไหน แต่บริษัทก็จำเป็นต้องเตรียมมาตรการผ่อนคลายเงินเฟ้อเพื่อช่วยเหลือผู้บริโภคที่น่าจะลดการใช้จ่ายลง โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและของเล่น 

 

ด้าน Scott Kirby CEO ของสายการบิน United Airlines มองว่า แม้อุตสาหกรรมการบินจะมีความหวังกว่าปี 2022 แต่ปี 2023 ก็ยังเป็นปีที่บริษัทต้องเตรียมพร้อมรับมือกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยแบบเบาะๆ โดยเป็นผลกระทบจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ Fed เพื่อจัดการกับเงินเฟ้อ 

 

ขณะที่ Lance Fritz CEO ของ Union Pacific บริษัทขนส่งทางเรือ มองเห็นสัญญาณกำลังการบริโภคที่อ่อนตัวลง และเศรษฐกิจที่จะรัดเข็มขัดมากขึ้น ดังนั้นการขนส่งทางเรือย่อมชะลอตัวลงในเรื่องของรายได้เช่นกัน 

 

ขณะเดียวกัน แหล่งข่าววงในเปิดเผยว่า ทาง Morgan Stanley มีแผนที่จะตัดลดพนักงานทั่วโลกของบริษัทอีก 2% โดยจะส่งผลกระทบต่อตำแหน่งงานราว 1,600 ตำแหน่ง จากจำนวนพนักงานทั้งหมดของบริษัทที่มีอยู่ในปัจจุบันที่ 81,567 ตำแหน่ง และการปลดพนักงานออกจะกระจายอยู่ทุกแผนกของธนาคาร และทุกสาขาทั่วโลก 

 

รายงานระบุว่าความเคลื่อนไหวของ Morgan Stanley ครั้งนี้เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับคู่แข่งอย่าง Goldman Sachs, Citigroup และ Barclays ที่ประกาศปรับโครงสร้างลดจำนวนพนักงานในองค์กรของตนเองเพื่อลดต้นทุนค่าใช้จ่าย โดยถือเป็นธรรมเนียมประจำของบริษัทการเงินในตลาดหุ้น Wall Street ซึ่งตามปกติแล้ว บรรดาธนาคารและสถาบันการเงินจะตัดลดจำนวนพนักงาน 1-5% ที่มีผลงานย่ำแย่ที่สุดก่อนที่จะมีการจ่ายโบนัสสำหรับพนักงานที่เหลืออยู่ ทั้งนี้ การปรับลดจำนวนพนักงานของ Morgan Stanley ครั้งล่าสุดเกิดขึ้นในปี 2019

 

ขณะเดียวกัน บริษัทสื่อดิจิทัล BuzzFeed กำลังลดพนักงานลง 12% โดยอ้างถึงภาวะเศรษฐกิจที่เลวร้ายลง แต่ไม่ได้มีการเปิดเผยว่าทางบริษัทจะปลดพนักงานเป็นจำนวนเท่าไร แต่ตามข้อมูลของ FactSet ระบุว่า BuzzFeed ในปัจจุบันมีพนักงานอยู่ที่ 1,522 คน ดังนั้นสัดส่วนดังกล่าวจะหมายความว่ามีพนักงานที่จะถูกเลิกจ้างประมาณ 180 คน

 

ในส่วนของผู้ลงโฆษณา ซึ่งเป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญของ BuzzFeed ยังได้ดึงเงินกลับ ทำให้สภาพการเงินของบริษัทตึงตัว โดย Jonah Peretti ผู้ร่วมก่อตั้งและ CEO กล่าวว่า “เพื่อให้ BuzzFeed สามารถรับมือกับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำซึ่งเชื่อว่าจะลากยาวไปสู่ปี 2023 บริษัทต้องปรับตัว ซึ่งรวมถึงการลงทุนในกลยุทธ์เพื่อให้บริการผู้ชมอย่างดีที่สุด รวมถึงมีการปรับโครงสร้างต้นทุนของบริษัทใหม่

 

ความเคลื่อนไหวของ BuzzFeed สอดคล้องกับสื่อสังคมออนไลน์และบริษัทอื่นๆ ที่มีรายได้หลักจากการโฆษณาดิจิทัล โดยเมื่อไม่นานมานี้ หลายบริษัทต่างออกมาประกาศปลดพนักงาน ซึ่งรวมถึงบริษัทรายใหญ่อย่าง Meta บริษัทแม่ของ Facebook, Twitter, Snap และ Gannett

 

ทั้งนี้ รายงานระบุว่านอกเหนือจากภาวะเศรษฐกิจแล้ว ทาง BuzzFeed ยังอ้างถึงความซ้ำซ้อนของพนักงาน หลังจากที่บริษัทมีการควบรวมกับ Complex Networks บริษัทด้านความบันเทิงน้องใหม่ที่ทาง BuzzFeed เข้าซื้อกิจการไว้เมื่อปีที่แล้ว จาก Verizon และ Hearst ด้วยมูลค่า 300 ล้านดอลลาร์ 

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising