×

‘เซ็นทารา แกรนด์ โอซาก้า’ โรงแรมแห่งแรกของเซ็นทาราในญี่ปุ่น มีเสิร์ฟอาหารไทยเป็นมื้อเช้า และรถตุ๊กตุ๊กรับ-ส่งสถานีรถไฟ เล็งขยายไปที่ ‘เกียวโต’ ด้วย

17.07.2023
  • LOADING...
Centara Grand Osaka

หลังจากเซ็นสัญญาลงทุนเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ใช้เวลาก่อสร้างอีก 3 ปี ในที่สุดวันที่ 1 กรกฎาคม ‘เซ็นทารา แกรนด์ โอซาก้า’ โรงแรมแห่งแรกของเซ็นทาราในญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ ก็เปิดให้บริการเรียบร้อยแล้ว 

  

ธีระยุทธ จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารโรงแรมและรีสอร์ตในเครือเซ็นทารา ให้เหตุผลที่เลือกลงทุนในโอซาก้าเป็นเมืองแรกในญี่ปุ่นว่า ตลาดญี่ปุ่นคือตลาดหลักสำคัญมาโดยตลอด และโอซาก้าเองก็เป็นเมืองท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่สำคัญระดับโลกที่โดดเด่นและมีศักยภาพสูง

  

“ประเทศญี่ปุ่นคือจุดหมายปลายทางหลักอีกแห่งที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวชาวไทยมาอย่างช้านาน ติด Top 10 Geo Source Market เป็นตลาดที่มีดีมานด์จากนักท่องเที่ยวชาวไทยอยู่เสมอ”

  


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


 

การที่เลือกช่วงเวลานี้เป็นเพราะการท่องเที่ยวโอซาก้าฟื้นตัวอย่างเห็นได้ชัด หลังจากที่ประเทศญี่ปุ่นกลับมาเปิดประเทศ และรับนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวได้อย่างสะดวกสบาย

  

นอกจากนี้ค่าเงินเยนที่อ่อนตัวลง ทำให้มีดีมานด์ในการท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นที่สูงขึ้น และคาดว่ากระแสการท่องเที่ยวโอซาก้าจะคึกคักมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะในช่วง World Expo ในปี 2025

  

โครงการนี้ลงทุนทั้งสิ้นมูลค่า 3 หมื่นล้านเยน (ประมาณ 9 พันล้านบาท) เครือเซ็นทาราถือหุ้น 53% และมี 2 บริษัทในญี่ปุ่น (Taisei และ Kanden Realty) ถือหุ้นในสัดส่วนที่เหลือ

  

โรงแรมมีจำนวนห้องทั้งสิ้น 515 ห้อง มีราคาเฉลี่ย 2.5-3 หมื่นเยนต่อคืน มีความสูง 33 ชั้น พร้อม 8 ห้องอาหารและรูฟท็อปบาร์ ซึ่งหนึ่งในความแตกต่างคือการให้บริการอาหารไทยเป็นมื้อเช้า ซึ่งเชื่อว่าจะตอบโจทย์นักท่องเที่ยวไทยที่มาโอซาก้า แต่อยากกินอาหารไทย

  

โลเคชันตั้งอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟ และแหล่งช้อปปิ้งสำคัญย่านโดทงโบริ โดยขนาดของห้องพักค่อนข้างใหญ่และกว้างขวางกว่าห้องพักตามมาตรฐานโรงแรมทั่วไปในญี่ปุ่น โดยจะมีขนาดห้องเริ่มต้นอยู่ที่ 27 ตารางเมตร 

  

มีสปาเซ็นวารีแห่งแรกที่ให้บริการด้วยมาตรฐานแบบไทยแท้ๆ และจัดให้มีบริการรถตุ๊กตุ๊กรับ-ส่งสถานีรถไฟ เป็นแห่งแรกของโอซาก้า และพนักงาน 10% ของโรงแรมเป็นคนไทย

 

เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มครอบครัว โดยมีห้องแบบ Family รองรับ, กลุ่ม Business Traveller และนักท่องเที่ยวทั่วไป, MICE เพราะมีห้องสัมมนาและห้องจัดเลี้ยงพร้อมรองรับ สุดท้ายคือกลุ่มวัยรุ่นที่มองหาสถานที่ในการเป็นแหล่งแฮงเอาต์ใหม่ๆ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่ทันสมัย

  

เซ็นทารามองว่าฐานลูกค้าจะแบ่งออกเป็นญี่ปุ่น 30-40%, จีน และ Chinese Speaking Countries 15-20%, เกาหลีใต้ 15%, ไทย 10% และอื่นๆ เช่น ฮ่องกง, สิงคโปร์, ไต้หวัน, อเมริกา และยุโรป

 

“ในเดือนแรกที่เปิดให้บริการคาดว่าจะมี Occupancy อยู่ที่ประมาณ 50% ซึ่งถือว่าดี สำหรับโรงแรมที่เพิ่งเปิดใหม่และแบรนด์ใหม่ในตลาด ส่วนครึ่งปีหลังตั้งเป้า Occupancy อยู่ที่ประมาณ 70%”

  

สิ่งที่น่าสนใจคือเครือเซ็นทาราเผยว่า ขณะนี้ยังอยู่ในช่วงศึกษาและมองหาโอกาสเพิ่มเติมในหัวเมืองใหญ่ๆ เช่น โตเกียว และเกียวโต ทั้งนี้ ยังรวมถึงมองหาโอกาสในการรับบริหารโรงแรมเพิ่มเติมในเมืองเหล่านี้อีกด้วย

  

โดยคาดว่าโรงแรมแห่งต่อไปอาจอยู่ที่เกียวโต เพราะไม่ไกลจากโอซาก้ามากนัก แต่ว่าในช่วงแรกเมืองหลวงอย่างโตเกียวจะเป็นหนึ่งในทำเลที่คาดว่าจะเปิดโรงแรมเป็นแห่งแรก

  

สำหรับแผนขยายโรงแรมในปี 2566 ประกอบด้วย 6 แห่ง (รวม 1,270 ห้อง) แบ่งเป็น 5 แห่งในไทย และ 1 แห่งในญี่ปุ่น 

 

  • เซ็นทารา อุบล (160 ห้อง / เปิดให้บริการไปเมื่อวันที่ 10 มีนาคม)
  • เซ็นทารา แกรนด์ โอซาก้า (515 ห้อง / เปิดให้บริการวันที่ 1 กรกฎาคม)
  • เซ็นทรา บาย เซ็นทารา ละไม รีสอร์ท สมุย (61 ห้อง / มีแผนเปิดใน Q3)
  • เซ็นทารา อยุธยา (224 ห้อง / มีแผนเปิดใน Q3)
  • เซ็นทารา วัน ระยอง (200 ห้อง / มีแผนเปิดใน Q4)
  • เซ็นทรา บาย เซ็นทารา สุราษฎร์ธานี (110 ห้อง / มีแผนเปิดใน Q4)

  

ปัจจุบันมีโรงแรมและรีสอร์ตในเครือ (ทั้งที่เปิดให้บริการแล้ว และอยู่ในช่วงกำลังพัฒนา) 93 แห่ง ใน 13 ประเทศทั่วโลก (รวมประเทศไทย) รวมจำนวนห้องพักทั้งสิ้น 20,081 ห้อง

  

ในจำนวนนี้ จาก 93 แห่ง (รวม 20,081 ห้อง) แบ่งออกเป็น เปิดให้บริการแล้ว 50 แห่ง (10,512 ห้อง) และกำลังพัฒนาอีก 43 แห่ง (9,569 ห้อง) โดยแบ่งเป็นโรงแรมที่เป็นเจ้าของเอง อยู่ที่ 23 แห่ง และรับบริหาร 70 แห่ง

 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising