สำนักงานงบประมาณแห่งสภาคองเกรส (CBO) เปิดเผยรายงานคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศในปีนี้ว่า จะฟื้นตัวจากการระบาดของโควิด-19 และขยายตัวได้ 4.6%
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การจ้างงานของสหรัฐฯ จะยังไม่สามารถกลับสู่ระดับก่อนเกิดการระบาดได้จนกว่าจะถึงปี 2024 แต่ระหว่างนี้อัตราคนว่างงานน่าจะลดลงเรื่อยๆ โดยอัตราคนว่างงานในเดือนธันวาคมที่ผ่านมาอยู่ที่ 6.7% มีแนวโน้มจะลดลงอย่างต่อเนื่องไปจนถึงปี 2026
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ของ CBO ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ไม่อิงกับฝ่ายการเมืองใด กล่าวว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่างปกติในระยะเวลา 10 ปี นับจากนี้น่าจะดำเนินไปต่อเนื่องหลังช่วงวิกฤตโควิด-19 โดยน่าจะกลับมาขยายตัวในระดับปกติตั้งแต่กลางปีหน้าที่การระบาดอยู่ภายใต้การควบคุมจากโครงการฉีดวัคซีนให้กับประชาชน
ขณะเดียวกันนักวิเคราะห์ยังมองว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกที่มูลค่า 20.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ น่าจะเติบโตได้ดีกว่าอัตราการขยายตัวที่ยั่งยืนสูงสุด (Maximum Sustainable Level) ได้ในต้นปี 2025
นอกจากนี้นักวิเคราะห์ยังคาดการณ์ว่า ปีนี้อัตราการจ้างงานน่าจะอยู่ที่ 521,000 ตำแหน่งต่อเดือน ก่อนที่จะลดลงเหลือ 145,000 ตำแหน่งในปี 2022
สำหรับสาเหตุหลักที่ทำให้เศรษฐกิจประเทศฟื้นตัวได้ดี เป็นผลมาจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหญ่ของรัฐบาลประธานาธิบดี โจ ไบเดน ที่เสนอแผนกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 1.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อการพิจารณาผ่านสภา แต่แนวทางดังกล่าวอาจถูกลดทอนเนื่องจากมีวุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกัน 10 ราย เสนอว่าควรจำกัดมาตรการให้มีมูลค่าเหลือ 618,000 ล้านดอลลาร์
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง:
